put call คือ อะไร? ทำความเข้าใจ Option และ DW ฉบับนักลงทุนไทย พร้อม 5 ข้อควรรู้ก่อนเทรด

Put Call Option คืออะไร? ทำความเข้าใจพื้นฐานฉบับนักลงทุนไทย

สำหรับนักลงทุนชาวไทยที่อยากขยายตัวเลือกในการลงทุนหรือหาวิธีจัดการความเสี่ยงในตลาดหุ้น การรู้จักกับ Put Call Option ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ โดยเฉพาะเมื่อเราพูดถึง Derivative Warrants หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า DW ซึ่งเป็นเครื่องมือยอดนิยมในตลาดไทย บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจถึงความหมาย วิธีการทำงาน ความแตกต่างระหว่างสองประเภทนี้ และเคล็ดลับในการนำไปใช้จริง เพื่อสร้างแผนการลงทุนที่เหมาะกับสไตล์ของคุณเอง

An illustration of a Thai investor understanding put call options and derivative warrants for risk management

สัญญา Option คืออะไร? แก่นแท้ของสิทธิในการซื้อขาย

สัญญา Option หรือที่รู้จักกันในชื่อสัญญาอนุพันธ์แบบสิทธิ เป็นข้อตกลงที่มอบสิทธิให้กับผู้ซื้อ โดยไม่บังคับให้ต้องซื้อหรือขายสินทรัพย์อ้างอิงในราคาและเวลาที่กำหนดไว้ ผู้ซื้อต้องชำระค่าพรีเมียมให้ผู้ขายเพื่อแลกกับสิทธิ์นี้ ขณะที่ผู้ขายมีหน้าที่ต้องทำตามสัญญาถ้าผู้ซื้อตัดสินใจใช้สิทธิ

本质ของ Option คือการซื้อขายสิทธิที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ไม่ใช่ตัวสินทรัพย์จริง ๆ ทำให้มันเป็นเครื่องมือที่ยืดหยุ่น สามารถนำไปใช้เก็งกำไรหรือป้องกันความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Illustration of an option contract a hand holding a premium coin another hand with a buy or sell right

Call Option คืออะไร? สิทธิในการ “ซื้อ” ที่นักลงทุนต้องรู้

Call Option คือสัญญาที่มอบสิทธิให้ผู้ซื้อได้ซื้อสินทรัพย์อ้างอิงในราคาที่ตกลงไว้ล่วงหน้า หรือเรียกว่าราคาใช้สิทธิ ภายในวันที่กำหนดหรือก่อนวันหมดอายุของสัญญา

จากมุมมองของผู้ซื้อ Call Option พวกเขามองว่าราคาสินทรัพย์จะเพิ่มขึ้นเกินราคาใช้สิทธิ ถ้าราคาขึ้นจริง ผู้ซื้อสามารถใช้สิทธิซื้อในราคาถูกแล้วขายในตลาดเพื่อเอากำไร หรือถ้าไม่เป็นไปตามคาด ก็แค่เสียค่าพรีเมียมที่จ่ายไปเท่านั้น

ส่วนผู้ขาย Call Option จะคาดว่าราคาจะไม่ขึ้นหรืออาจลง ถ้าราคาไม่ถึงจุดนั้น ผู้ขายก็เก็บค่าพรีเมียมเป็นกำไร แต่ถ้าราคาพุ่งสูง ผู้ขายต้องขายในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาด ซึ่งอาจขาดทุนได้มากโดยไม่มีขีดจำกัด

Illustration of a call option a bullish investor buying a stock as its price goes up making profit

ลองดูตัวอย่างง่าย ๆ สมมติคุณซื้อ Call Option ของหุ้น PTT ที่ราคาใช้สิทธิ 35 บาท หมดอายุใน 3 เดือน โดยจ่ายค่าพรีเมียม 1 บาทต่อหุ้น ถ้าถึงกำหนด ราคาหุ้น PTT ขึ้นเป็น 40 บาท คุณก็ใช้สิทธิซื้อที่ 35 บาทแล้วขายในตลาดที่ 40 บาท ได้กำไร 5 บาทต่อหุ้น ก่อนหักค่าพรีเมียม

Put Option คืออะไร? สิทธิในการ “ขาย” ที่ช่วยปกป้องพอร์ต

Put Option คือสัญญาที่ให้สิทธิผู้ซื้อในการขายสินทรัพย์อ้างอิงในราคาใช้สิทธิที่กำหนดไว้ ภายในเวลาที่ระบุหรือก่อนวันหมดอายุ

ผู้ซื้อ Put Option มักคาดว่าราคาสินทรัพย์จะลดลงต่ำกว่าราคาใช้สิทธิ ถ้าลดจริง ก็ใช้สิทธิขายในราคาสูงกว่าราคาตลาดเพื่อทำกำไร หรือนำมาใช้ปกป้องพอร์ตหุ้นที่ถืออยู่จากความผันผวน

สำหรับผู้ขาย Put Option พวกเขาคาดว่าราคาจะไม่ลงหรืออาจขึ้น ถ้าราคาไม่ต่ำกว่าราคาใช้สิทธิ ก็เก็บค่าพรีเมียมเป็นกำไร แต่ถ้าราคาตกหนัก ผู้ขายต้องซื้อในราคาสูงกว่าราคาตลาด ซึ่งเสี่ยงขาดทุนได้ไม่จำกัด

ตัวอย่างเช่น คุณซื้อ Put Option ของหุ้น AOT ที่ราคาใช้สิทธิ 70 บาท หมดอายุใน 2 เดือน จ่ายค่าพรีเมียม 2 บาทต่อหุ้น ถ้าถึงกำหนดราคาหุ้น AOT ลงเหลือ 60 บาท คุณใช้สิทธิขายที่ 70 บาท แม้จะซื้อจากตลาดที่ 60 บาทมาก็ตาม ได้กำไร 10 บาทต่อหุ้น ก่อนหักค่าพรีเมียม

เปรียบเทียบ Call Option vs Put Option: ความเหมือนและความต่างที่สำคัญ

ทั้ง Call Option และ Put Option ล้วนเป็นสัญญา Option ที่คล้ายกัน แต่แตกต่างกันในทิศทางการทำกำไรและบทบาทหลัก การรู้จุดต่างเหล่านี้ช่วยให้คุณนำไปใช้ได้อย่างชาญฉลาด

คุณสมบัติ Call Option Put Option
สิทธิที่ผู้ซื้อได้รับ สิทธิในการ “ซื้อ” สิทธิในการ “ขาย”
มุมมองตลาดของผู้ซื้อ คาดว่าสินทรัพย์จะ “ขึ้น” (Bullish) คาดว่าสินทรัพย์จะ “ลง” (Bearish)
สถานะกำไรของผู้ซื้อ ราคาตลาด > ราคาใช้สิทธิ ราคาตลาด < ราคาใช้สิทธิ
บทบาทหลัก เก็งกำไรขาขึ้น, สร้างรายได้ (ผู้ขาย) เก็งกำไรขาลง, ป้องกันความเสี่ยง
ความเสี่ยงสูงสุดของผู้ซื้อ ค่าพรีเมียมที่จ่ายไป ค่าพรีเมียมที่จ่ายไป
ความเสี่ยงสูงสุดของผู้ขาย ไม่จำกัด (ราคาขึ้นได้ไม่จำกัด) ไม่จำกัด (ราคาลงได้ถึงศูนย์)

ใครได้สิทธิ ใครมีหน้าที่? (บทบาทของผู้ซื้อและผู้ขาย)

ในสัญญา Option ไม่ว่าจะ Call หรือ Put ผู้ซื้อได้สิทธิแต่ไม่มีหน้าที่ต้องทำตาม ส่วนผู้ขายรับค่าพรีเมียมแต่ต้องรับผิดชอบถ้าผู้ซื้อใช้สิทธิ

ผู้ซื้อ Call Option มีสิทธิซื้อหุ้นในราคาใช้สิทธิ คาดหวังกำไรจากราคาที่ขึ้น ผู้ขาย Call Option ต้องขายในราคานั้น คาดเก็บค่าพรีเมียมถ้าราคาไม่ขึ้น ผู้ซื้อ Put Option มีสิทธิขายในราคาใช้สิทธิ เพื่อกำไรจากราคาลงหรือปกป้องพอร์ต ส่วนผู้ขาย Put Option ต้องซื้อในราคานั้น คาดเก็บค่าพรีเมียมถ้าราคาไม่ลง

ผู้ซื้อจำกัดความเสี่ยงแค่ค่าพรีเมียม แต่ผู้ขายเสี่ยงไม่จำกัด นักลงทุนควรศึกษาลึก ๆ ก่อนลงสนาม

กลยุทธ์พื้นฐาน: เมื่อไหร่ควรใช้ Call เมื่อไหร่ควรใช้ Put?

การเลือก Call หรือ Put ขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์ตลาดและแผนของคุณ

ใช้ Call Option เมื่อคาดตลาดหรือหุ้นขึ้น เช่น คาดหุ้น CPALL จะมีผลประกอบการดี ราคาขึ้น คุณซื้อ Call เพื่อเก็งกำไรจากส่วนต่าง หรือใช้เลเวอเรจเพิ่มผลตอบแทนด้วยเงินน้อยกว่าซื้อหุ้นตรง ๆ

ใช้ Put Option เมื่อคาดตลาดลง เช่น กังวลหุ้นพลังงานจากราคาน้ำมันตก ซื้อ Put เพื่อเก็งกำไรจากราคาลง หรือ hedging ถ้าถือหุ้น PTT แล้วกลัวราคาตก ซื้อ Put เพื่อล็อกราคาขาย

ในตลาดไทย สามารถปรับใช้กับเหตุการณ์อย่างประกาศงบใหญ่หรือข่าวเศรษฐกิจที่กระทบตลาดโดยรวม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการลงทุน

DW คืออะไร? ทำไมนักลงทุนไทยถึงนิยมใช้ DW แทน Option โดยตรง?

ในไทย นักลงทุนรายย่อยมักคุ้นเคยกับ Derivative Warrant หรือ DW มากกว่าการเทรด Option ตรง ๆ ใน TFEX เพราะ DW ซื้อขายสะดวกและออกแบบให้เข้าถึงง่าย

ทำความรู้จัก Derivative Warrant (DW) ในตลาดหลักทรัพย์ไทย

DW คือตราสารอนุพันธ์ที่ออกโดยบริษัทหลักทรัพย์ โดยอ้างอิงหุ้น ดัชนี หรือสินทรัพย์อื่น คล้าย Option ให้สิทธิซื้อ (Call DW) หรือขาย (Put DW) ในราคาและเวลาที่กำหนด แต่ซื้อขายใน SET ผ่านบัญชีหุ้นปกติ เหมือนซื้อหุ้นทั่วไป

DW ได้รับความนิยมจากอัตราทดสูง ทำให้ราคา DW เปลี่ยนแปลงเร็วและแรงตามสินทรัพย์อ้างอิง สร้างโอกาสกำไรสูงในเวลาสั้น แต่เสี่ยงสูงตามไปด้วย นอกจากนี้ ยังช่วยให้การลงทุนมีเลเวอเรจโดยไม่ต้องวางมาร์จิ้นมาก

ความแตกต่างระหว่าง Option โดยตรง กับ DW

DW มาจากพื้นฐาน Option แต่ต่างกันหลายจุดสำคัญ

คุณสมบัติ Option โดยตรง (ใน TFEX) Derivative Warrant (DW ใน SET)
ตลาดที่ซื้อขาย ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)
ผู้เสนอขาย/คู่สัญญา นักลงทุนด้วยกันเอง (ผ่าน Clearing House) บริษัทหลักทรัพย์ผู้ออก (Issuer)
ความสะดวกในการซื้อขาย ต้องเปิดบัญชี TFEX เฉพาะ, เข้าใจศัพท์เฉพาะ ซื้อขายผ่านบัญชีหุ้นปกติ, ใช้งานง่าย
สภาพคล่อง ขึ้นอยู่กับปริมาณการซื้อขายในตลาด ผู้ออกหลักทรัพย์ดูแลสภาพคล่อง (Market Maker)
ประเภทของสัญญา มีทั้ง Call และ Put (American/European) มีทั้ง Call DW และ Put DW (ส่วนใหญ่เป็น European)
ความเสี่ยงเพิ่มเติม ความเสี่ยงคู่สัญญา (ลดลงโดย Clearing House) ความเสี่ยงผู้ออก (Issuer Risk), กลไก Auto-Callable
ราคาใช้สิทธิและวันหมดอายุ มีให้เลือกหลากหลายช่วง ผู้ออกเป็นผู้กำหนด
เงินลงทุนเริ่มต้น ต้องวางหลักประกัน (Margin) ซื้อขายเป็นหน่วยหุ้น (ราคาต่อหน่วยต่ำ)

DW มีความเสี่ยงจากผู้ออก ซึ่งหมายถึงถ้าบริษัทออก DW ล้มเหลว อาจกระทบ แต่ในไทย ผู้ใหญ่อย่างบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำมักน่าเชื่อถือ นอกจากนี้ DW อาจมี Auto-Callable ที่สิ้นสุดก่อนกำหนดถ้าราคาถึงจุด นักลงทุนต้องศึกษากลไกนี้ให้ดีเพื่อหลีกเลี่ยงความประหลาดใจ

เริ่มต้นเทรด Put Call DW ในตลาดหุ้นไทย: คำแนะนำสำหรับมือใหม่

การเริ่มเทรด Put Call DW ในตลาดไทยไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด เพียงเข้าใจกลไกและปัจจัยต่าง ๆ ก็ช่วยเพิ่มโอกาสกำไรและควบคุมความเสี่ยงได้ดีขึ้น

ขั้นตอนการเปิดบัญชีและเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสม

1. เปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์กับโบรกเกอร์ ติดต่อบริษัทหลักทรัพย์แบบออนไลน์หรือที่สาขา เตรียมบัตรประชาชนและสมุดธนาคาร
2. เลือกโบรกเกอร์ที่รองรับ DW ซึ่งส่วนใหญ่ทำได้ แต่เช็คเครื่องมือวิเคราะห์หรือรายงานที่ช่วยตัดสินใจ
3. เรียนรู้การส่งคำสั่งผ่านแอปหรือโปรแกรมเทรด คล้ายซื้อหุ้นทั่วไป

รายชื่อโบรกเกอร์ดูได้ที่ เว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อเลือกที่เหมาะกับคุณ

สิ่งที่ต้องพิจารณาก่อนเลือก DW (ค่าพรีเมียม, อัตราทด, Time Decay)

เลือก DW ให้ตรงต้องดูหลายปัจจัย

1. สินทรัพย์อ้างอิง: เลือกที่คุณรู้จักและวิเคราะห์แนวโน้มได้
2. ประเภท: Call ถ้าคาดขึ้น Put ถ้าคาดลง
3. ราคาใช้สิทธิ: ให้ตรงกับคาดการณ์ราคา
4. วันหมดอายุ: หลีกเลี่ยงใกล้หมดเพราะ Time Decay สูง เลือกที่เหลือเวลาพอสำหรับแผน
5. อัตราทด: สูงให้กำไรเร็วแต่เสี่ยงมาก
6. Time Decay: มูลค่าลดลงตามเวลา แม้ราคาไม่เปลี่ยน มือใหม่มักพลาดตรงนี้
7. ราคาและค่าพรีเมียม: ราคาต่ำเข้าถึงง่าย แต่หลีกเลี่ยงค่าพรีเมียมแพงที่หักกำไร

การพิจารณาเหล่านี้ช่วยให้เลือก DW ที่เหมาะสม ลดโอกาสขาดทุนจากปัจจัยภายนอก

ตัวอย่างการใช้ Put Call DW ในสถานการณ์จริงของตลาดไทย

สถานการณ์ 1: คาดหุ้น PTT ขึ้น จาก 35 บาทเป็น 38 บาทใน 1-2 เดือน ซื้อ Call DW ราคาใช้สิทธิ 36 บาท อัตราทดสูง ถ้าขึ้นจริง ราคา DW พุ่ง คุณขายเอากำไร

สถานการณ์ 2: คาดหุ้น BBL ลง จาก 140 บาทเป็น 130 บาทใน 1 เดือน ซื้อ Put DW ราคาใช้สิทธิ 135 บาท ถ้าลงจริง ราคา Put DW ขึ้น ทำกำไรได้แม้ตลาดตก หรือ hedging ถ้าถือหุ้นนั้น

การคำนวณกำไร DW ซับซ้อนจากอัตราทดและ Time Decay ใช้เครื่องมือจากผู้发出เพื่อจำลองสถานการณ์และประเมินความเสี่ยง

ข้อควรระวังและความเสี่ยงในการลงทุน Put Call Option / DW

Put Call Option และ DW สามารถสร้างกำไรสูง แต่เสี่ยงมากเช่นกัน มือใหม่ต้องรู้ข้อควรระวังเพื่อลงทุนอย่างปลอดภัย

ความเสี่ยงด้านเวลาและราคาใช้สิทธิ

Time Decay คือปัญหาใหญ่ของผู้ซื้อ มูลค่าลดลงทุกวัน ยิ่งใกล้หมดอายุยิ่งเร็ว ต้องรีบกำไรก่อนหมดเวลา

เลือกราคาใช้สิทธิผิด เช่น Call ที่ Out-of-the-Money สูง ราคาต้องขึ้นมากถึงคุ้มทุน อาจพลาดโอกาส

การทำความเข้าใจ “ความผันผวน” และผลกระทบต่อราคา

ราคา Option/DW ขึ้นกับ Implied Volatility

ความผันผวนสูงทำให้ราคา DW สูงขึ้นเพราะโอกาสเคลื่อนไหวแรง แต่ถ้าต่ำ ราคาลดลง

ความผันผวนเปลี่ยนแปลงได้ ส่งผลถึง DW โดยตรง แม้หุ้นอ้างอิงนิ่ง นักลงทุนต้องติดตามเพื่อปรับกลยุทธ์

ข้อผิดพลาดที่มือใหม่มักเจอในตลาด DW ไทย

1. ไม่เข้าใจ DW ลึก เช่น อัตราทดหรือ Time Decay นำไปสู่การตัดสินใจผิด
2. ใช้เลเวอเรจสูงโดยไม่จัดการความเสี่ยง เงินหายเร็ว
3. มองข้าม Issuer Risk แม้เกิดน้อยแต่เป็นไปได้
4. ไม่รู้ Auto-Callable ที่อาจตัดสัญญาก่อน กระทบกำไร
5. เทรด DW สภาพคล่องต่ำ ยากขายในราคาที่ต้องการ
6. ไม่ตามข่าวจาก ก.ล.ต. และ SET ซึ่งอาจเปลี่ยนกฎกระทบการลงทุน

หลีกเลี่ยงข้อผิดเหล่านี้ด้วยการศึกษาและวางแผนดี ๆ

สรุป: Put Call คือเครื่องมือทรงพลัง หากเข้าใจและใช้เป็น

Put Call Option และ DW เป็นเครื่องมือยืดหยุ่นที่ช่วยสร้างกำไรและจัดการความเสี่ยงในตลาดหุ้นไทย แต่ซับซ้อนและเสี่ยงกว่าหุ้นปกติ นักลงทุนควรศึกษาลึกถึง Call Put กลไก DW ปัจจัยราคาและความเสี่ยง

ด้วยการเรียนรู้ต่อเนื่อง จัดการเงินทุนและความเสี่ยง คุณจะนำ DW มาใช้ในพอร์ตได้ดี เพิ่มโอกาสกำไรในทุกตลาด ไม่ว่าจะขึ้นหรือลง

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Put Call Option และ DW (FAQ)

Put Call คืออะไร สรุปให้เข้าใจง่ายที่สุดสำหรับนักลงทุนไทย?

Put Call คือ สัญญาที่ให้สิทธิในการซื้อ (Call Option) หรือขาย (Put Option) สินทรัพย์อ้างอิงในราคาและเวลาที่กำหนด โดยผู้ซื้อสิทธิจะจ่ายค่าพรีเมียมเพื่อแลกกับสิทธินั้น ในขณะที่ผู้ขายสิทธิมีหน้าที่ปฏิบัติตามสัญญาหากผู้ซื้อใช้สิทธิ

เริ่มต้นเทรด DW ในตลาดหุ้นไทย ต้องทำอย่างไร และมีโบรกเกอร์ไหนแนะนำบ้าง?

คุณต้องมีบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์กับโบรกเกอร์ที่ให้บริการซื้อขาย DW ซึ่งโบรกเกอร์ส่วนใหญ่ในไทย เช่น หลักทรัพย์บัวหลวง, หลักทรัพย์กสิกรไทย, หลักทรัพย์ภัทร, หลักทรัพย์หยวนต้า ล้วนให้บริการ DW คุณสามารถติดต่อโบรกเกอร์เพื่อเปิดบัญชีและเริ่มซื้อขายได้เหมือนหุ้นทั่วไป

DW กับ Option โดยตรงต่างกันอย่างไร? ทำไมนักลงทุนไทยถึงนิยมเทรด DW มากกว่า?

DW เป็นตราสารที่ออกโดยบริษัทหลักทรัพย์และซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ SET ในขณะที่ Option โดยตรงซื้อขายในตลาด TFEX (ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า) นักลงทุนไทยนิยม DW มากกว่าเพราะ:

  • ซื้อขายง่ายผ่านบัญชีหุ้นปกติ
  • ผู้ออก DW ดูแลสภาพคล่อง
  • มีราคาต่อหน่วยที่ถูกกว่า ทำให้เข้าถึงง่าย

ถ้าคิดว่าราคาหุ้นอ้างอิงกำลังจะขึ้น ควรเลือกซื้อ Call DW หรือ Put DW เพื่อทำกำไร?

หากคุณคาดว่าราคาหุ้นอ้างอิงจะขึ้น ควรเลือกซื้อ **Call DW** เพื่อทำกำไร เพราะ Call DW จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเมื่อราคาหุ้นอ้างอิงปรับตัวสูงขึ้น

หากราคาหุ้นอ้างอิงมีแนวโน้มลดลง เราจะใช้ Put DW ในการทำกำไรหรือป้องกันความเสี่ยงได้อย่างไร?

หากราคาหุ้นอ้างอิงมีแนวโน้มลดลง คุณสามารถซื้อ **Put DW** เพื่อทำกำไรจากการลดลงของราคา หรือใช้เพื่อป้องกันความเสี่ยง (Hedging) หากคุณถือหุ้นนั้นอยู่แล้ว โดย Put DW จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเมื่อราคาหุ้นอ้างอิงลดลง

การเทรด DW มีความเสี่ยงอะไรบ้างที่มือใหม่ต้องระวังเป็นพิเศษในตลาดไทย? (เช่น Time Decay, Issuer Risk)

ความเสี่ยงหลักที่มือใหม่ต้องระวังคือ:

  • ค่าเสื่อมเวลา (Time Decay): มูลค่า DW ลดลงทุกวันแม้ราคาหุ้นไม่เปลี่ยน
  • อัตราทด (Leverage): ให้ผลตอบแทนสูงแต่ก็ทำให้ขาดทุนรวดเร็ว
  • ความเสี่ยงผู้ออก (Issuer Risk): ความเสี่ยงที่ผู้ออก DW ไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาได้
  • กลไก Auto-Callable: DW อาจสิ้นสภาพก่อนหมดอายุหากราคาถึงเงื่อนไข
  • สภาพคล่อง: DW บางตัวอาจมีสภาพคล่องต่ำ ทำให้ยากต่อการซื้อขาย

ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคา DW คืออะไรบ้าง และนักลงทุนควรพิจารณาอย่างไร?

ปัจจัยสำคัญคือ:

  • ราคาหลักทรัพย์อ้างอิง: ปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนราคา DW
  • ราคาใช้สิทธิ: ยิ่งห่างจากราคาตลาดมากเท่าไหร่ มูลค่า DW ก็จะลดลง
  • วันหมดอายุ: ยิ่งใกล้วันหมดอายุ ค่าเสื่อมเวลายิ่งมาก
  • ความผันผวนแฝง: ความคาดหวังของตลาดต่อความผันผวนของหุ้นอ้างอิง
  • อัตราทด: ตัวบ่งชี้ความไวของราคา DW

นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยเหล่านี้ให้สอดคล้องกับมุมมองตลาดและระยะเวลาการลงทุนของตน

หาก DW หมดอายุ แล้วราคาไม่ถึงราคาใช้สิทธิ จะเกิดอะไรขึ้นกับเงินลงทุนของเรา?

หาก DW หมดอายุและราคาหลักทรัพย์อ้างอิงไม่ถึงราคาใช้สิทธิ (เช่น Call DW ที่ราคาหุ้นต่ำกว่าราคาใช้สิทธิ หรือ Put DW ที่ราคาหุ้นสูงกว่าราคาใช้สิทธิ) DW นั้นจะหมดอายุโดยไม่มีมูลค่า (Out-of-the-Money) ทำให้เงินลงทุนที่คุณใช้ซื้อ DW นั้นสูญเสียไปทั้งหมด

มีเครื่องมือหรือเว็บไซต์ไหนบ้างที่ช่วยนักลงทุนไทยวิเคราะห์และเลือก DW ได้อย่างมีประสิทธิภาพ?

นักลงทุนไทยสามารถใช้เครื่องมือวิเคราะห์ DW ได้จากเว็บไซต์ของผู้ออก DW โดยตรง เช่น BLS Warrant (หลักทรัพย์บัวหลวง), DW01 (หลักทรัพย์กสิกรไทย), หรือ DW24 (หลักทรัพย์ภัทร) ซึ่งจะมีข้อมูลพารามิเตอร์ DW, ตารางราคา, และเครื่องมือจำลองสถานการณ์ให้ใช้

การทำกำไรจากการเทรด Call Option หรือ Put Option/DW ในประเทศไทย ต้องเสียภาษีอย่างไร?

กำไรจากการซื้อขาย DW ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้รับการยกเว้นภาษีกำไรจากการขายหลักทรัพย์ (Capital Gains Tax) เช่นเดียวกับหุ้นสามัญ อย่างไรก็ตาม หากเป็นการซื้อขาย Option โดยตรงใน TFEX กำไรจากการซื้อขายอนุพันธ์จัดเป็นเงินได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษีตามอัตราก้าวหน้า และอาจมีการหักภาษี ณ ที่จ่ายตามกฎหมายกำหนด

More From Author

Cash Ratio คืออะไร? 5 เหตุผลทำไมเงินสดในมือสำคัญต่อธุรกิจคุณ

หลักทรัพย์ คืออะไร? คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับนักลงทุนไทย

發佈留言