หุ้นบุริมสิทธิ มีสิทธิในเรื่องใดบ้าง – ความเข้าใจในโลกการลงทุน 2025

บทนำ: ทำความเข้าใจโลกของหุ้นบุริมสิทธิ – ทางเลือกที่แตกต่างในตลาดทุน

ในโลกของการลงทุนที่เต็มไปด้วยความผันผวนและโอกาส คุณในฐานะนักลงทุนอาจกำลังมองหาวิธีสร้างผลตอบแทนที่มั่นคง พร้อมกับบริหารจัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลาดหุ้นไม่ใช่แค่เรื่องของการซื้อขายหุ้นสามัญเพื่อหวังส่วนต่างราคาเพียงอย่างเดียว ยังมีตราสารทางการเงินอีกหลายประเภทที่นำเสนอทางเลือกและคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป หนึ่งในนั้นคือ “หุ้นบุริมสิทธิ” ซึ่งเป็นตราสารทุนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มอบสิทธิพิเศษบางประการที่หุ้นสามัญไม่มี แต่ก็มีข้อจำกัดที่คุณควรรู้ก่อนตัดสินใจลงทุน

บทความนี้เราจะพาคุณเจาะลึกเข้าไปในโลกของหุ้นบุริมสิทธิ ตั้งแต่ความหมาย สิทธิพิเศษที่คุณจะได้รับ ข้อดี ข้อเสีย ไปจนถึงประเภทต่างๆ และความเหมาะสมกับเป้าหมายการลงทุนที่แตกต่างกัน เพื่อให้คุณสามารถประเมินและตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดว่าหุ้นบุริมสิทธิคือ “คำตอบ” สำหรับพอร์ตโฟลิโอของคุณหรือไม่

เราจะอธิบายแนวคิดที่ซับซ้อนให้เข้าใจง่ายขึ้น ด้วยภาษาที่เข้าถึงได้และเป็นมิตร เหมือนมีที่ปรึกษาทางการเงินส่วนตัวมาคอยให้ความรู้ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุนมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นศึกษา หรือนักลงทุนที่มีประสบการณ์ที่ต้องการขยายความรู้เกี่ยวกับตราสารทางการเงินประเภทนี้ บทความนี้จะช่วยให้คุณมองเห็นภาพรวมและรายละเอียดของหุ้นบุริมสิทธิได้อย่างชัดเจน และนำความรู้นี้ไปประยุกต์ใช้ในการตัดสินใจลงทุนของคุณได้จริง

ที่ปรึกษาทางการเงินกำลังอธิบายหุ้นบุริมสิทธิ

หุ้นบุริมสิทธิคืออะไร? แก่นแท้ของ “สิทธิพิเศษ” ที่คุณควรรู้

เมื่อพูดถึงการลงทุนในตลาดทุน หลายคนมักนึกถึงหุ้นสามัญเป็นอันดับแรก แต่คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่ามีหุ้นอีกประเภทหนึ่งที่เรียกว่า หุ้นบุริมสิทธิ (Preferred Stock) มีความหมายและบทบาทอย่างไร?

  • หุ้นบุริมสิทธิมีคุณสมบัติที่ผสมผสานระหว่างหุ้นสามัญและหุ้นกู้
  • ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิจะถือว่ามีสถานะเป็นเจ้าของส่วนหนึ่งของบริษัท
  • สิทธิพิเศษเหนือกว่าผู้ถือหุ้นสามัญ

หุ้นบุริมสิทธิ คือ ตราสารทุนที่บริษัทออกเพื่อระดมเงินทุนเช่นเดียวกับหุ้นสามัญ แต่มีคุณสมบัติที่ผสมผสานกันระหว่างหุ้นสามัญและหุ้นกู้ ทำให้บางครั้งถูกเรียกว่าเป็น “ลูกผสม” ระหว่างความเป็นเจ้าของและเจ้าหนี้

คุณในฐานะผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิจะถือว่ามีสถานะเป็น “เจ้าของ” ส่วนหนึ่งของบริษัท แต่มีสิทธิบางอย่างที่เป็น “บุริมสิทธิ” เหนือกว่าผู้ถือหุ้นสามัญทั่วไป คำว่า “บุริม” ในที่นี้หมายถึง “ก่อน” หรือ “ลำดับแรก” ซึ่งจะสะท้อนถึงสิทธิพิเศษที่แตกต่างกันออกไปในด้านสำคัญๆ เช่น การได้รับเงินปันผล และการได้รับคืนเงินลงทุนเมื่อบริษัทเลิกกิจการหรือล้มละลาย

อย่างไรก็ตาม สิทธิพิเศษเหล่านี้มักมาพร้อมกับข้อแลกเปลี่ยนที่สำคัญ นั่นคือ ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิโดยทั่วไปจะไม่มีสิทธิออกเสียง ในการประชุมผู้ถือหุ้น ไม่สามารถมีส่วนร่วมในการตัดสินใจนโยบายหรือการบริหารงานของบริษัทได้ ซึ่งเป็นความแตกต่างที่สำคัญที่สุดเมื่อเทียบกับหุ้นสามัญ

ทำไมบริษัทถึงเลือกออกหุ้นบุริมสิทธิ แทนที่จะออกหุ้นสามัญหรือกู้เงิน? การออกหุ้นบุริมสิทธิเป็นกลยุทธ์การระดมทุนที่ยืดหยุ่นสำหรับบริษัท ช่วยให้บริษัทสามารถระดมเงินทุนได้โดยไม่ต้องเพิ่มภาระหนี้สินในงบดุล หรือเจือจางอำนาจการควบคุมของผู้ถือหุ้นเดิม นอกจากนี้ การออกหุ้นบุริมสิทธิยังช่วยให้สัดส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Debt-to-Equity Ratio) ของบริษัทดูดีขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีต่อสถานะทางการเงินและความน่าเชื่อถือของบริษัทต่อเจ้าหนี้

แสดงประโยชน์ของหุ้นบุริมสิทธิในการลงทุน

แกะรอยสิทธิสำคัญ: ทำไมหุ้นบุริมสิทธิถึง “บุริม” กว่าหุ้นสามัญ?

คุณอาจสงสัยว่า “สิทธิบุริม” ที่ว่านั้นมีอะไรบ้าง และเหตุใดจึงสำคัญต่อการตัดสินใจลงทุนของคุณ? ลองมาดูรายละเอียดกัน

1. สิทธิในการได้รับเงินปันผลก่อน: นี่คือสิทธิสำคัญที่โดดเด่นที่สุดของผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิ โดยทั่วไปแล้ว ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิมีสิทธิได้รับเงินปันผลในอัตราคงที่ และจะได้รับเงินปันผลก่อนผู้ถือหุ้นสามัญเสมอ ไม่ว่าผลประกอบการของบริษัทจะเป็นอย่างไร หากบริษัทมีกำไรและประกาศจ่ายเงินปันผล ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิจะได้รับส่วนแบ่งก่อน และมักจะเป็นจำนวนเงินที่แน่นอนหรือคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าที่ตราไว้ (Par Value) ซึ่งช่วยให้คุณสามารถคาดการณ์รายรับจากเงินปันผลได้ง่ายขึ้น

  • ความมั่นคงของรายได้: การที่เงินปันผลเป็นอัตราคงที่และได้รับก่อน ช่วยให้หุ้นบุริมสิทธิเป็นแหล่งรายได้ที่ค่อนข้างสม่ำเสมอและคาดการณ์ได้ เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระแสเงินสดเพื่อการใช้จ่ายหรือนำไปลงทุนต่อ
  • ไม่ขึ้นกับผลประกอบการมากนัก: แม้ว่าบริษัทจะต้องมีกำไรเพียงพอจึงจะจ่ายเงินปันผลได้ แต่ความผันผวนของเงินปันผลจะน้อยกว่าหุ้นสามัญมาก หากบริษัทมีกำไร หุ้นบุริมสิทธิจะได้รับสิทธิก่อนหุ้นสามัญ

2. สิทธิในการได้รับคืนทุนก่อนเมื่อบริษัทเลิกกิจการ: ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด เช่น บริษัทประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนักจนต้องเลิกกิจการ หรือล้มละลาย ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิมีสิทธิที่จะได้รับเงินคืนจากสินทรัพย์ที่เหลืออยู่ของบริษัทก่อนผู้ถือหุ้นสามัญเสมอ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่คุณต้องจำไว้คือ ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิยังคงอยู่ลำดับหลังเจ้าหนี้และผู้ถือหุ้นกู้ ในทางปฏิบัติ หากสินทรัพย์เหลือไม่เพียงพอที่จะชำระคืนหนี้สินทั้งหมด ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิอาจไม่ได้รับเงินคืนเต็มจำนวนหรืออาจไม่ได้รับเลยก็ได้

  • ลดความเสี่ยง: สิทธินี้ช่วยลดความเสี่ยงลงได้ระดับหนึ่งเมื่อเทียบกับการถือหุ้นสามัญ เพราะในสถานการณ์วิกฤต คุณจะอยู่ในลำดับที่ได้รับพิจารณาเป็นอันดับต้นๆ ในกลุ่มเจ้าของ

สิทธิทั้งสองนี้เป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้หุ้นบุริมสิทธิมีความน่าสนใจสำหรับนักลงทุนบางกลุ่มที่ต้องการความมั่นคงและลำดับความสำคัญในการรับเงินมากกว่าการมีส่วนร่วมในการบริหารงาน หรือการหวังผลตอบแทนจากการเติบโตของราคาหุ้นแบบก้าวกระโดด

เปรียบเทียบหุ้นบุริมสิทธิกับหุ้นสามัญ

เจาะรอยประเภทของหุ้นบุริมสิทธิ: เลือกให้เหมาะกับกลยุทธ์ของคุณ

หุ้นบุริมสิทธิไม่ได้มีเพียงประเภทเดียว แต่ยังมีคุณสมบัติย่อยๆ ที่แตกต่างกันออกไป ทำให้เกิดประเภทต่างๆ ที่ตอบโจทย์การลงทุนที่หลากหลาย การทำความเข้าใจประเภทเหล่านี้จะช่วยให้คุณเลือกหุ้นบุริมสิทธิที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณได้อย่างแท้จริง

1. หุ้นบุริมสิทธิประเภทสะสม (Cumulative Preferred Stock):

หากบริษัทไม่สามารถจ่ายเงินปันผลได้ตามกำหนดในงวดใดงวดหนึ่ง เงินปันผลที่ค้างจ่ายนั้นจะสะสมไว้ และบริษัทจะต้องจ่ายเงินปันผลที่ค้างสะสมทั้งหมดให้แก่ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิประเภทนี้ให้ครบก่อนที่จะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นสามัญได้ในอนาคต

  • เหมาะสำหรับ: นักลงทุนที่ต้องการความมั่นใจในรายได้เงินปันผลและไม่ต้องการพลาดโอกาสในการรับเงินปันผลที่อาจถูกเลื่อนออกไปชั่วคราว
  • ข้อควรระวัง: แม้จะสะสมได้ แต่ก็ไม่มีหลักประกันว่าบริษัทจะมีกำลังพอที่จะจ่ายเงินปันผลค้างสะสมทั้งหมดได้ หากบริษัทประสบปัญหาทางการเงินระยะยาว

2. หุ้นบุริมสิทธิประเภทไม่สะสม (Non-Cumulative Preferred Stock):

ตรงข้ามกับประเภทสะสม หากบริษัทไม่สามารถจ่ายเงินปันผลได้ในงวดใด เงินปันผลในงวดนั้นจะถูกริบไป ไม่มีการสะสม บริษัทไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินปันผลที่ขาดหายไปในอดีตให้แก่ผู้ถือหุ้นประเภทนี้เมื่อกลับมามีกำไรอีกครั้ง

  • เหมาะสำหรับ: นักลงทุนที่เน้นความเสี่ยงต่ำที่สุดและเข้าใจข้อจำกัดในเรื่องเงินปันผลที่อาจไม่ได้รับในบางช่วงเวลา
  • ข้อควรระวัง: มีความเสี่ยงที่รายได้เงินปันผลจะไม่ต่อเนื่องหากบริษัทประสบปัญหาเป็นครั้งคราว

3. หุ้นบุริมสิทธิประเภทร่วมรับ (Participating Preferred Stock):

ผู้ถือหุ้นประเภทนี้จะได้รับเงินปันผลในอัตราคงที่ตามปกติ และอาจได้รับเงินปันผลเพิ่มเติมอีกส่วนหนึ่ง หากผลประกอบการของบริษัทเกินกว่าที่กำหนดไว้ หรือเมื่อผู้ถือหุ้นสามัญได้รับเงินปันผลเกินกว่าอัตราที่ระบุ การจ่ายเงินปันผลเพิ่มเติมนี้มักเป็นไปตามสูตรที่กำหนดไว้ล่วงหน้า

  • เหมาะสำหรับ: นักลงทุนที่ต้องการโอกาสในการได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้นจากหุ้นบุริมสิทธิ โดยที่ยังคงรักษาความมั่นคงของรายได้พื้นฐานไว้ได้

4. หุ้นบุริมสิทธิประเภทแปลงสภาพ (Convertible Preferred Stock):

ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิประเภทนี้มีสิทธิที่จะแปลงสภาพ (Convert) หุ้นบุริมสิทธิที่ถืออยู่ให้เป็นหุ้นสามัญของบริษัทได้ตามอัตราส่วนและเงื่อนไขที่กำหนดไว้ล่วงหน้า สิทธินี้จะมอบโอกาสให้คุณสามารถเข้าร่วมในการเติบโตของราคาหุ้นสามัญได้ หากราคาหุ้นสามัญปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

  • เหมาะสำหรับ: นักลงทุนที่ต้องการความมั่นคงของรายได้ปันผลจากหุ้นบุริมสิทธิ แต่ยังคงเปิดโอกาสในการเข้าร่วมกับการเติบโตของบริษัทในอนาคตผ่านการแปลงสภาพ
  • ความซับซ้อน: การประเมินมูลค่าหุ้นบุริมสิทธิแปลงสภาพอาจซับซ้อนกว่าหุ้นบุริมสิทธิประเภทอื่น เนื่องจากต้องพิจารณาถึงราคาหุ้นสามัญและอัตราการแปลงสภาพด้วย

5. หุ้นบุริมสิทธิประเภทเรียกคืนได้ (Callable Preferred Stock):

บริษัทผู้ออกมีสิทธิที่จะไถ่ถอน (Call) หรือซื้อคืนหุ้นบุริมสิทธิจากผู้ถือหุ้นได้ตามราคาและเงื่อนไขที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ซึ่งโดยทั่วไปมักจะเป็นราคาที่สูงกว่ามูลค่าที่ตราไว้เล็กน้อย หากอัตราดอกเบี้ยในตลาดลดลง บริษัทอาจใช้สิทธินี้เพื่อเรียกคืนหุ้นบุริมสิทธิที่มีอัตราปันผลสูง และออกหุ้นบุริมสิทธิชุดใหม่ที่มีอัตราปันผลต่ำกว่า เพื่อลดต้นทุนทางการเงิน

  • ความเสี่ยง (Call Risk): สำหรับนักลงทุนแล้ว นี่คือความเสี่ยงที่สำคัญ เพราะหากบริษัทเรียกคืนหุ้น คุณอาจต้องนำเงินไปลงทุนใหม่ในภาวะที่อัตราผลตอบแทนในตลาดลดลง ทำให้ได้รับผลตอบแทนโดยรวมน้อยลง

การทำความเข้าใจคุณสมบัติเฉพาะของหุ้นบุริมสิทธิแต่ละประเภทจะช่วยให้คุณสามารถเลือกตราสารที่สอดคล้องกับเป้าหมายทางการเงินและระดับความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้

ข้อดีของการลงทุนในหุ้นบุริมสิทธิ: ความมั่นคงที่มาพร้อมผลตอบแทน

หลังจากที่เราได้สำรวจประเภทต่างๆ ของหุ้นบุริมสิทธิแล้ว เรามาดูข้อดีที่ชัดเจนของการลงทุนในตราสารประเภทนี้ ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ดึงดูดนักลงทุนจำนวนมาก

1. รายได้เงินปันผลที่สม่ำเสมอและคาดการณ์ได้:

นี่คือจุดเด่นที่สุดของหุ้นบุริมสิทธิ การได้รับเงินปันผลในอัตราคงที่และตามกำหนดเวลา ทำให้คุณสามารถวางแผนกระแสเงินสดในพอร์ตโฟลิโอของคุณได้อย่างแม่นยำ ต่างจากหุ้นสามัญที่เงินปันผลอาจผันผวนไปตามผลประกอบการหรือนโยบายของบริษัท ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการรายได้ประจำ เช่น ผู้เกษียณอายุ หรือผู้ที่ต้องการกระแสเงินสดเพื่อนำไปลงทุนต่อ

2. ลำดับความสำคัญในการรับเงิน:

อย่างที่เราได้กล่าวไปแล้วว่าผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิมีสิทธิได้รับเงินปันผลก่อนผู้ถือหุ้นสามัญ และในกรณีที่บริษัทเลิกกิจการหรือล้มละลาย ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิก็มีสิทธิได้รับเงินคืนจากสินทรัพย์ที่เหลืออยู่ก่อนผู้ถือหุ้นสามัญเช่นกัน แม้จะยังอยู่หลังเจ้าหนี้และผู้ถือหุ้นกู้ แต่ลำดับที่สูงกว่าหุ้นสามัญก็ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความมั่นใจให้กับคุณได้ระดับหนึ่ง

3. ความเสี่ยงที่ต่ำกว่าหุ้นสามัญ:

ด้วยคุณสมบัติเรื่องลำดับการรับเงินปันผลและการคืนทุน ทำให้หุ้นบุริมสิทธิมีความเสี่ยงโดยรวมที่ต่ำกว่าการลงทุนในหุ้นสามัญค่อนข้างมาก มูลค่าของหุ้นบุริมสิทธิมักจะผันผวนน้อยกว่าหุ้นสามัญ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากความผันผวนของผลประกอบการและการเปลี่ยนแปลงราคาหุ้นน้อยกว่า เน้นที่ความมั่นคงของรายได้มากกว่าการเก็งกำไรจากส่วนต่างราคา

4. เหมาะสำหรับนักลงทุนที่เน้นรายได้และไม่ชอบความเสี่ยงสูง:

หากคุณเป็นนักลงทุนที่ให้ความสำคัญกับการรักษามูลค่าเงินต้น และต้องการกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอ โดยไม่ประสงค์จะรับความเสี่ยงสูงจากการผันผวนของตลาดหุ้น หรือไม่ต้องการมีส่วนร่วมในการบริหารงานของบริษัท หุ้นบุริมสิทธิอาจเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้อย่างดีเยี่ยม

ข้อดีเหล่านี้ทำให้หุ้นบุริมสิทธิเป็นเครื่องมือการลงทุนที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนกลุ่มหนึ่งที่มองหาความสมดุลระหว่างผลตอบแทนและความมั่นคงในตลาดทุน และหากคุณสามารถเลือกประเภทของหุ้นบุริมสิทธิที่ตรงกับเป้าหมายการลงทุนของคุณได้ คุณก็จะได้ประโยชน์จากคุณสมบัติพิเศษเหล่านี้อย่างเต็มที่

ข้อจำกัดและความเสี่ยงที่ต้องพิจารณา: มุมมืดของหุ้นบุริมสิทธิ

ทุกการลงทุนย่อมมีสองด้านเสมอ เช่นเดียวกับหุ้นบุริมสิทธิ แม้จะมีข้อดีหลายประการที่น่าดึงดูด แต่ก็มีข้อจำกัดและความเสี่ยงที่คุณควรทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ก่อนตัดสินใจลงทุน เพื่อให้การตัดสินใจของคุณรอบด้านและชาญฉลาดที่สุด

1. ไม่มีสิทธิออกเสียงในการบริหาร:

นี่คือข้อจำกัดที่ใหญ่ที่สุดของหุ้นบุริมสิทธิ เมื่อคุณเป็นผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิ คุณจะไม่มีสิทธิออกเสียง (Voting Rights) ในการประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งหมายความว่าคุณจะไม่สามารถมีส่วนร่วมในการตัดสินใจที่สำคัญของบริษัทได้ เช่น การเลือกตั้งคณะกรรมการบริษัท การอนุมัติการควบรวมกิจการ หรือการเปลี่ยนแปลงนโยบายบริษัทที่สำคัญ ซึ่งแตกต่างจากผู้ถือหุ้นสามัญที่สามารถใช้สิทธิออกเสียงเพื่อแสดงความคิดเห็นและมีอิทธิพลต่อทิศทางของบริษัทได้

  • ผลกระทบ: หากคุณเป็นนักลงทุนที่ต้องการมีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางหรือต้องการแสดงพลังในฐานะเจ้าของ การลงทุนในหุ้นบุริมสิทธิอาจไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะสม

2. โอกาสในการเติบโตของผลตอบแทนที่จำกัด:

เงินปันผลของหุ้นบุริมสิทธิมักเป็นอัตราคงที่ ซึ่งหมายความว่าคุณจะไม่ได้รับประโยชน์โดยตรงจากการเติบโตของผลกำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดของบริษัท ต่างจากหุ้นสามัญที่ราคาหุ้นและเงินปันผลมีโอกาสเติบโตตามการขยายตัวของธุรกิจ และสามารถทำกำไรจากส่วนต่างราคา (Capital Gain) ได้อย่างมหาศาล หากบริษัทมีผลประกอบการดีเยี่ยมในระยะยาว

  • ผลกระทบ: หากเป้าหมายของคุณคือการสร้างความมั่งคั่งในระยะยาวผ่านการเติบโตของมูลค่าหุ้น หุ้นบุริมสิทธิอาจให้ผลตอบแทนที่จำกัดเมื่อเทียบกับศักยภาพของหุ้นสามัญ

3. สภาพคล่องในการซื้อขายต่ำ:

หุ้นบุริมสิทธิส่วนใหญ่มีสภาพคล่องในการซื้อขายในตลาดรองต่ำกว่าหุ้นสามัญมาก เนื่องจากมีจำนวนหุ้นที่ออกน้อยกว่า และผู้ที่ถือหุ้นบุริมสิทธิมักจะถือไว้เพื่อรับเงินปันผลในระยะยาว ทำให้การซื้อขายไม่คึกคัก การที่สภาพคล่องต่ำอาจทำให้คุณขายหุ้นได้ยาก หรืออาจต้องขายในราคาที่ต่ำกว่าที่คุณต้องการหากจำเป็นต้องใช้เงินเร่งด่วน

  • ผลกระทบ: หากคุณต้องการความยืดหยุ่นในการเข้าและออกจากการลงทุน การซื้อขายหุ้นบุริมสิทธิอาจทำได้ไม่สะดวกเท่าหุ้นสามัญ

4. ความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ย:

มูลค่าของหุ้นบุริมสิทธิมีความสัมพันธ์กับอัตราดอกเบี้ยในตลาด เมื่ออัตราดอกเบี้ยในตลาดปรับตัวสูงขึ้น หุ้นบุริมสิทธิที่มีอัตราเงินปันผลคงที่ก็จะมีความน่าสนใจน้อยลงเมื่อเทียบกับตราสารหนี้ใหม่ๆ ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า ส่งผลให้มูลค่าของหุ้นบุริมสิทธิลดลง และในทางกลับกัน หากอัตราดอกเบี้ยลดลง มูลค่าของหุ้นบุริมสิทธิก็จะเพิ่มขึ้น (โดยเฉพาะประเภทไม่เรียกคืน)

  • ผลกระทบ: หากคุณลงทุนในหุ้นบุริมสิทธิในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ คุณอาจเผชิญกับความเสี่ยงที่มูลค่าหุ้นจะลดลงเมื่ออัตราดอกเบี้ยปรับสูงขึ้นในอนาคต

5. ความเสี่ยงจากการถูกเรียกคืน (Call Risk):

สำหรับหุ้นบุริมสิทธิประเภทเรียกคืนได้ บริษัทผู้ออกมีสิทธิที่จะไถ่ถอนหุ้นคืนได้ตามราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า หากบริษัทตัดสินใจใช้สิทธินี้ คุณอาจถูกบังคับให้ขายหุ้นคืนก่อนที่คุณต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากอัตราดอกเบี้ยในตลาดลดลง บริษัทก็จะเลือกไถ่ถอนหุ้นบุริมสิทธิที่มีต้นทุนสูงคืน และออกหุ้นใหม่ที่ต้นทุนถูกกว่า ทำให้คุณต้องนำเงินไปลงทุนใหม่ในภาวะที่อาจหาผลตอบแทนได้ยากขึ้น

การเข้าใจถึงข้อจำกัดและความเสี่ยงเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถประเมินได้ว่าหุ้นบุริมสิทธิเหมาะสมกับวัตถุประสงค์และกลยุทธ์การลงทุนของคุณหรือไม่ และคุณสามารถรับมือกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างไร

ศึกเปรียบเทียบ: หุ้นบุริมสิทธิ vs. หุ้นสามัญ – การตัดสินใจลงทุนที่ใช่สำหรับคุณ

เมื่อคุณเข้าใจคุณสมบัติและลักษณะเฉพาะของหุ้นบุริมสิทธิแล้ว ถึงเวลาที่เราจะนำมาเปรียบเทียบอย่างเป็นรูปธรรมกับหุ้นสามัญ ซึ่งเป็นตราสารทุนที่คุณคุ้นเคยดี เพื่อให้คุณเห็นภาพความแตกต่างและตัดสินใจได้ว่าการลงทุนแบบใดที่ตอบโจทย์เป้าหมายของคุณมากที่สุด

ลองนึกภาพว่าคุณกำลังเลือกรถยนต์คันใหม่ รถยนต์ทั้งสองประเภทจะพาคุณไปถึงจุดหมายได้เหมือนกัน แต่มีสมรรถนะ ฟังก์ชัน และประสบการณ์การขับขี่ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

ลักษณะ หุ้นสามัญ หุ้นบุริมสิทธิ
สิทธิในการออกเสียง (Voting Rights) มีสิทธิออกเสียงในการประชุมผู้ถือหุ้น ไม่มีสิทธิออกเสียง
การได้รับเงินปันผล (Dividend Payment) ขึ้นอยู่กับผลประกอบการ ได้รับในอัตราคงที่และก่อนผู้ถือหุ้นสามัญ
ลำดับการได้รับคืนทุนเมื่อเลิกกิจการ อยู่ในลำดับสุดท้าย สูงกว่าหุ้นสามัญ แต่ต่ำกว่าเจ้าหนี้

การเปรียบเทียบนี้ชี้ให้เห็นว่าหุ้นแต่ละประเภทมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน การตัดสินใจลงทุนที่ “ใช่” ขึ้นอยู่กับเป้าหมายการลงทุน ระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และระยะเวลาการลงทุนของคุณเป็นสำคัญ คุณต้องการเป็นเจ้าของที่มีสิทธิมีเสียงและพร้อมรับความเสี่ยงเพื่อผลตอบแทนที่สูงขึ้น (หุ้นสามัญ) หรือคุณต้องการความมั่นคงของรายได้และลำดับความสำคัญในการรับเงิน (หุ้นบุริมสิทธิ)? คำตอบนี้จะนำทางคุณไปสู่ทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด

หุ้นบุริมสิทธิกับการบริหารการเงินของบริษัท: มองจากมุมผู้บริหาร

นอกจากการมองในมุมของนักลงทุนแล้ว การทำความเข้าใจบทบาทของหุ้นบุริมสิทธิจากมุมมองของบริษัทผู้ออกก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยให้คุณเข้าใจถึงแรงจูงใจและกลยุทธ์เบื้องหลังการตัดสินใจระดมทุนของบริษัท ซึ่งส่งผลต่อการประเมินมูลค่าและความน่าลงทุนของหุ้นบุริมสิทธิที่คุณพิจารณา

1. ทางเลือกการระดมทุนที่ยืดหยุ่น:

บริษัทเลือกออกหุ้นบุริมสิทธิเพื่อระดมทุน (Fundraising) ด้วยเหตุผลหลายประการ หุ้นบุริมสิทธิถูกมองว่าเป็นเครื่องมือระดมทุนที่อยู่ระหว่างตราสารหนี้ (Debt Instrument) เช่น หุ้นกู้หรือพันธบัตร และตราสารทุน (Equity Instrument) ทั่วไปอย่างหุ้นสามัญ

  • ไม่เพิ่มภาระหนี้สิน: การออกหุ้นบุริมสิทธิไม่ถือเป็นการเพิ่มหนี้สินโดยตรงในงบดุลของบริษัท ทำให้สัดส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Debt-to-Equity Ratio หรือ D/E Ratio) ของบริษัทดูดีขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีต่อสถานะทางการเงินและความน่าเชื่อถือของบริษัทต่อเจ้าหนี้และสถาบันการเงิน
  • ไม่ลดอำนาจควบคุม: หุ้นบุริมสิทธิส่วนใหญ่ไม่มีสิทธิออกเสียง ทำให้ผู้ถือหุ้นเดิมหรือผู้บริหารยังคงสามารถรักษาอำนาจในการควบคุมและบริหารบริษัทได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการถูกเจือจางอำนาจเหมือนกับการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน

2. การรักษาโครงสร้างเงินทุนที่เหมาะสม:

บริษัทมักจะมีการกำหนดเป้าหมายโครงสร้างเงินทุน (Capital Structure) ที่เหมาะสม ซึ่งเป็นสัดส่วนของหนี้สินและส่วนของเจ้าของที่ใช้ในการดำเนินธุรกิจ การออกหุ้นบุริมสิทธิช่วยให้บริษัทสามารถปรับสมดุลของโครงสร้างเงินทุนได้

  • เพิ่มทุนโดยไม่เพิ่มหนี้: หากบริษัทต้องการเพิ่มทุนแต่ไม่ต้องการเพิ่มภาระหนี้สิน (ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงทางการเงิน) หรือหากบริษัทมีระดับหนี้สินที่สูงอยู่แล้ว หุ้นบุริมสิทธิก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
  • ทางเลือกเมื่อตลาดไม่เอื้อ: ในบางสถานการณ์ที่บริษัทอาจไม่สามารถกู้เงินได้ง่ายนัก หรือการออกหุ้นสามัญทำได้ยากเนื่องจากราคาหุ้นตกต่ำ การออกหุ้นบุริมสิทธิอาจเป็นช่องทางที่ช่วยให้บริษัทยังสามารถเข้าถึงเงินทุนที่จำเป็นได้

3. ดึงดูดนักลงทุนกลุ่มเฉพาะ:

หุ้นบุริมสิทธิถูกออกแบบมาเพื่อดึงดูดนักลงทุนกลุ่มเฉพาะที่ให้ความสำคัญกับความมั่นคงของรายได้และความเสี่ยงที่ต่ำกว่า ซึ่งอาจไม่ใช่นักลงทุนกลุ่มเดียวกับที่สนใจหุ้นสามัญ การออกหุ้นบุริมสิทธิทำให้บริษัทสามารถขยายฐานนักลงทุนและเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่หลากหลายมากขึ้น

สำหรับบริษัทแล้ว การออกหุ้นบุริมสิทธิคือการเลือกเครื่องมือทางการเงินที่ตอบสนองความต้องการในการระดมทุนในรูปแบบที่เฉพาะเจาะจง โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อโครงสร้างเงินทุน อำนาจการควบคุม และความต้องการของตลาดนักลงทุน หากคุณเข้าใจมุมมองของบริษัท คุณจะสามารถประเมินได้ดีขึ้นว่าหุ้นบุริมสิทธิที่ออกโดยบริษัทนั้นๆ มีเหตุผลเบื้องหลังที่สมเหตุสมผลหรือไม่ และมีโอกาสประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ของบริษัทมากน้อยเพียงใด

ใครเหมาะกับการลงทุนในหุ้นบุริมสิทธิ? ค้นหาโปรไฟล์นักลงทุนของคุณ

เมื่อพิจารณาจากคุณสมบัติเด่นของหุ้นบุริมสิทธิแล้ว คุณอาจเริ่มมองเห็นแล้วว่าตราสารประเภทนี้เหมาะกับนักลงทุนประเภทใดบ้าง การรู้จักตัวเองในฐานะนักลงทุนเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการตัดสินใจลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เรามาดูกันว่าโปรไฟล์นักลงทุนแบบไหนที่จะได้รับประโยชน์สูงสุดจากการลงทุนในหุ้นบุริมสิทธิ

  • นักลงทุนที่ต้องการรายได้สม่ำเสมอ (Income-Focused Investors): หากเป้าหมายหลักของคุณคือการสร้างกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอและคาดการณ์ได้จากเงินปันผล หุ้นบุริมสิทธิคือตัวเลือกที่โดดเด่น
  • นักลงทุนที่ไม่ชอบความเสี่ยงสูง (Risk-Averse Investors): หากคุณเป็นคนที่ยอมรับความเสี่ยงได้ต่ำ หุ้นบุริมสิทธิก็จะให้ความมั่นคงได้มากกว่าหุ้นสามัญ
  • นักลงทุนที่ไม่ได้ต้องการมีส่วนร่วมในการบริหาร (Passive Investors): หากคุณไม่มีความสนใจหรือเวลาที่จะติดตามข่าวสารบริษัทอย่างใกล้ชิด หุ้นบุริมสิทธิที่ไม่มีสิทธิออกเสียงก็ไม่ใช่ข้อจำกัดสำหรับคุณ
  • นักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยง (Diversification Seekers): สำหรับนักลงทุนที่มีพอร์ตการลงทุนที่เน้นหุ้นสามัญเป็นหลัก การเพิ่มหุ้นบุริมสิทธิเข้ามาจะช่วยกระจายความเสี่ยง
  • นักลงทุนที่ต้องการทางเลือกอื่นนอกเหนือจากพันธบัตร (Alternative to Bonds): หุ้นบุริมสิทธิสามารถเป็นทางเลือกที่น่าสนใจได้ในบางช่วงเวลาที่อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรอยู่ในระดับต่ำ

สรุปแล้ว หากคุณเป็นนักลงทุนที่ให้ความสำคัญกับความมั่นคงของรายได้ ความเสี่ยงที่ต่ำ และไม่ได้ต้องการอำนาจในการควบคุมบริษัท หุ้นบุริมสิทธิก็เป็นเครื่องมือการลงทุนที่น่าพิจารณาเป็นอย่างยิ่ง แต่คุณก็ต้องยอมรับข้อจำกัดเรื่องการเติบโตของผลตอบแทนที่จำกัดเช่นกัน

กลยุทธ์การพิจารณาหุ้นบุริมสิทธิ: สัญญาณอะไรที่คุณควรมองหา?

เมื่อคุณตัดสินใจแล้วว่าหุ้นบุริมสิทธิอาจเป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตโฟลิโอของคุณ ขั้นตอนต่อไปคือการเรียนรู้วิธีการคัดเลือกหุ้นบุริมสิทธิที่เหมาะสม มีปัจจัยหลายอย่างที่คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อเพิ่มโอกาสในการลงทุนที่ประสบความสำเร็จ

ปัจจัยที่ควรพิจารณา สิ่งที่ควรมองหา
ความมั่นคงทางการเงินของบริษัทผู้ออก บริษัทที่มีประวัติการดำเนินงานที่มั่นคง
อัตราผลตอบแทนเงินปันผล อัตราผลตอบแทนที่แข่งขันได้เมื่อเทียบกับทางเลือกการลงทุนอื่น
ลักษณะและเงื่อนไขเฉพาะของหุ้นบุริมสิทธิ ประเภทสะสมหรือไม่สะสม
สภาพคล่องในการซื้อขาย ตรวจสอบสภาพคล่องของหุ้นบุริมสิทธิที่คุณสนใจ
อุตสาหกรรมและแนวโน้มเศรษฐกิจ พิจารณาแนวโน้มเศรษฐกิจโดยรวม

การวิเคราะห์ปัจจัยเหล่านี้อย่างรอบคอบจะช่วยให้คุณสามารถเลือกหุ้นบุริมสิทธิที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์การลงทุนของคุณ และลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ การศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดคือหัวใจสำคัญของการลงทุนที่ประสบความสำเร็จ

การจัดการพอร์ตโฟลิโอด้วยหุ้นบุริมสิทธิ: สร้างสมดุลเพื่อเป้าหมายของคุณ

เมื่อคุณเข้าใจคุณสมบัติและกลยุทธ์การเลือกหุ้นบุริมสิทธิแล้ว สิ่งสำคัญต่อมาคือการนำหุ้นบุริมสิทธิมาใช้ในการจัดพอร์ตโฟลิโอ (Portfolio Management) ของคุณ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางการเงินที่คุณวางไว้ การเพิ่มหุ้นบุริมสิทธิในพอร์ตสามารถช่วยสร้างสมดุลและเพิ่มประสิทธิภาพได้ในหลายมิติ

  1. สร้างแหล่งรายได้ที่มั่นคงและคาดการณ์ได้: หุ้นบุริมสิทธิเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมในการเพิ่มส่วนของสินทรัพย์ที่สร้างรายได้ประจำให้กับพอร์ตโฟลิโอของคุณ
  2. ลดความผันผวนของพอร์ตโฟลิโอโดยรวม: การเพิ่มสัดส่วนของหุ้นบุริมสิทธิในพอร์ตจะช่วยลดความผันผวนโดยรวมของพอร์ตโฟลิโอได้
  3. กระจายความเสี่ยงด้านสินทรัพย์: การลงทุนในหุ้นบุริมสิทธิเป็นการกระจายความเสี่ยง (Diversification) ที่ดี
  4. พิจารณาสัดส่วนที่เหมาะสม: กำหนดสัดส่วนขึ้นอยู่กับเป้าหมายการลงทุน ระยะเวลาการลงทุน และระดับความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้
  5. การประเมินและปรับสมดุลพอร์ตอย่างสม่ำเสมอ: คุณควรทบทวนและปรับสมดุล (Rebalance) พอร์ตโฟลิโอของคุณอย่างสม่ำเสมอ

การใช้หุ้นบุริมสิทธิอย่างชาญฉลาดในพอร์ตโฟลิโอของคุณสามารถเป็นกลยุทธ์ที่ดีในการสร้างสมดุลระหว่างผลตอบแทนและความมั่นคง ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าพอร์ตการลงทุนของคุณจะเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว และช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้อย่างมั่นคง

บทบาทของหุ้นบุริมสิทธิในตลาดทุนไทยและกรณีศึกษาที่น่าสนใจ

ในประเทศไทย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ก็มีการซื้อขายหุ้นบุริมสิทธิเช่นกัน แม้ว่าจะไม่ได้รับความนิยมเท่าหุ้นสามัญ แต่ก็เป็นทางเลือกที่นักลงทุนสามารถเข้าถึงได้ การทำความเข้าใจบทบาทของหุ้นบุริมสิทธิในบริบทของตลาดไทย และการศึกษาจากกรณีตัวอย่างบางกรณี จะช่วยให้คุณเห็นภาพการนำไปใช้ได้จริง

หัวข้อ รายละเอียด
สถานะในตลาดหุ้นไทย หุ้นบุริมสิทธิมีจำนวนไม่มากนักเมื่อเทียบกับหุ้นสามัญ
เหตุผลที่บริษัทไทยเลือกออกหุ้นบุริมสิทธิ รักษาการควบคุม ต้นทุนทางการเงิน สร้างความเชื่อมั่น
ข้อควรระวังสำหรับนักลงทุนในตลาดไทย สภาพคล่องต่ำ ข้อมูลข่าวสารที่มีจำกัด

การทำความเข้าใจภาพรวมและกรณีศึกษาในตลาดไทยจะช่วยให้คุณสามารถประยุกต์ใช้ความรู้เกี่ยวกับหุ้นบุริมสิทธิได้อย่างเหมาะสม และตัดสินใจลงทุนได้อย่างมีข้อมูลในบริบทจริงของตลาดทุนไทย

บทสรุป: เส้นทางสู่การลงทุนที่มั่นคงด้วยหุ้นบุริมสิทธิ

ตลอดบทความนี้ เราได้เดินทางสำรวจโลกของหุ้นบุริมสิทธิอย่างลึกซึ้ง ตั้งแต่ความหมาย สิทธิพิเศษ ประเภทต่างๆ ข้อดี ข้อเสีย ไปจนถึงการเปรียบเทียบกับหุ้นสามัญ และบทบาทในตลาดทุน เราหวังว่าคุณจะได้รับความรู้ที่ครอบคลุมและเข้าใจแก่นแท้ของตราสารทางการเงินประเภทนี้อย่างถ่องแท้

หุ้นบุริมสิทธิไม่ได้เป็นตราสารการลงทุนที่ซับซ้อนอย่างที่หลายคนคิด แต่เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนบางกลุ่มที่มองหาความมั่นคงของรายได้ และความเสี่ยงที่ต่ำกว่า เมื่อเทียบกับหุ้นสามัญ คุณสมบัติเด่นของหุ้นบุริมสิทธิคือการได้รับเงินปันผลคงที่ก่อน และมีลำดับการได้รับคืนทุนก่อนในกรณีที่บริษัทเลิกกิจการ ซึ่งมอบความอุ่นใจให้กับผู้ลงทุนที่ให้ความสำคัญกับการรักษาเงินต้นและกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอ

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่คุณต้องจำไว้คือ หุ้นบุริมสิทธิก็มีข้อจำกัด เช่น การไม่มีสิทธิออกเสียงในการบริหารงานของบริษัท และโอกาสในการทำกำไรจากส่วนต่างราคาที่จำกัดกว่าหุ้นสามัญ นอกจากนี้ ความเสี่ยงด้านสภาพคล่องและอัตราดอกเบี้ยก็เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเช่นกัน

การตัดสินใจว่าจะลงทุนในหุ้นบุริมสิทธิหรือไม่ ขึ้นอยู่กับเป้าหมายการลงทุนส่วนบุคคล ระดับความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้ และความเข้าใจในคุณสมบัติเฉพาะของหุ้นบุริมสิทธิแต่ละประเภท ไม่มีสินทรัพย์ใดที่ “ดีที่สุด” สำหรับทุกคน แต่มีสินทรัพย์ที่ “เหมาะสมที่สุด” สำหรับคุณในแต่ละช่วงเวลา

ในฐานะนักลงทุน การศึกษาและทำความเข้าใจเครื่องมือการลงทุนที่หลากหลายคือหัวใจสำคัญสู่ความสำเร็จ การมีวินัยในการค้นคว้าข้อมูล และการประเมินสถานการณ์อย่างรอบด้าน จะช่วยให้คุณสามารถสร้างพอร์ตโฟลิโอที่แข็งแกร่งและบรรลุเป้าหมายทางการเงินในระยะยาวได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

เราหวังว่าบทความนี้จะเป็นก้าวสำคัญในการเพิ่มพูนความรู้ด้านการลงทุนของคุณ และเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดในโลกของตลาดทุนที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ขอให้คุณประสบความสำเร็จในการลงทุนทุกย่างก้าว!

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับหุ้นบุริมสิทธิ มีสิทธิในเรื่องใดบ้าง

Q:หุ้นบุริมสิทธิมีข้อดีอะไรบ้าง?

A:หุ้นบุริมสิทธิมีรายได้เงินปันผลที่สม่ำเสมอ สิทธิเบื้องต้นในการได้รับเงินคืนเมื่อบริษัทเลิกกิจการ และมีความเสี่ยงต่ำกว่าหุ้นสามัญ.

Q:ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิสามารถออกเสียงในที่ประชุมได้หรือไม่?

A:ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิทั่วไปไม่มีสิทธิออกเสียงในการประชุมผู้ถือหุ้น.

Q:การลงทุนในหุ้นบุริมสิทธิเหมาะสมสำหรับใคร?

A:การลงทุนในหุ้นบุริมสิทธิเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการความมั่นคงของรายได้และไม่ชอบความเสี่ยงสูง.

More From Author

การเทรดคืออะไร: เส้นทางสู่การสร้างผลตอบแทนในตลาดการเงินยุคใหม่สำหรับนักลงทุน

exxonmobil คือบริษัทอะไร: วิเคราะห์สุดลึกเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมพลังงานโลก

發佈留言