gold now เสียภาษีไหม: วางแผนภาษีทองคำในยุคดิจิทัล 2025

บทนำ: เทรดทองคำในยุคดิจิทัล เสียภาษีหรือไม่? ไขข้อข้องใจให้นักลงทุนยุคใหม่

การลงทุนในทองคำยังคงเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญ ทำให้การเข้าถึงการซื้อขายทองคำเป็นเรื่องง่ายดายเพียงปลายนิ้วผ่านแอปพลิเคชันหรือแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ เช่น Gold NOW หรือ Gold Wallet ที่คุณอาจคุ้นเคยดี ความสะดวกสบายนี้ได้เปิดโอกาสให้นักลงทุนรายย่อยจำนวนมากสามารถเข้าสู่ตลาดทองคำได้โดยไม่เคยมีมาก่อน

แต่ท่ามกลางความสะดวกสบายและโอกาสในการทำกำไร คำถามสำคัญที่มักผุดขึ้นมาในใจของนักลงทุนหลาย ๆ คนก็คือ “เทรดทอง เสียภาษีไหม?” และหากต้องเสีย ภาษีทองคำ จะต้องเสียในรูปแบบใด มีข้อกำหนดอย่างไรบ้าง? เราเข้าใจดีว่าเรื่องภาษีอาจเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและน่าปวดหัวสำหรับหลายท่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกฎเกณฑ์มีการเปลี่ยนแปลงและประเด็นใหม่ ๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น ผลกระทบจากกฎหมาย E-Payment ที่ทำให้ข้อมูลธุรกรรมการเงินถูกตรวจสอบได้ง่ายขึ้น

ในฐานะที่เราเป็นเสมือนเพื่อนร่วมทางด้านความรู้ เราจะพาคุณเจาะลึกทุกแง่มุมของ ภาษีทองคำ อย่างละเอียดและเป็นขั้นเป็นตอน เพื่อให้คุณในฐานะนักลงทุน ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้น หรือเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ที่ต้องการความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น สามารถบริหารจัดการการลงทุนและวางแผนภาษีได้อย่างถูกต้องแม่นยำ ปราศจากความกังวลใจเรื่องภาษีย้อนหลัง และพร้อมก้าวไปสู่การเป็นนักลงทุนที่ชาญฉลาดในตลาดทองคำอย่างแท้จริง

นักลงทุนกำลังทำการซื้อขายทองคำดิจิทัล

หลักการพื้นฐาน: ทำความเข้าใจ “เงินได้พึงประเมิน” และผู้มีหน้าที่เสียภาษีทองคำ

ก่อนที่เราจะลงลึกในรายละเอียดเรื่อง ภาษีทองคำ สิ่งสำคัญอันดับแรกคือการทำความเข้าใจหลักการพื้นฐานของ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เสียก่อน กรมสรรพากรของประเทศไทยมีหลักการที่ชัดเจนว่า รายได้ใด ๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย หรือเกิดขึ้นจากแหล่งเงินได้ในต่างประเทศและนำเข้ามาในประเทศไทยภายในปีภาษีเดียวกัน ถือเป็น “เงินได้พึงประเมิน” ที่ต้องนำมาคำนวณภาษี เว้นแต่จะมีข้อยกเว้นตามกฎหมาย

แล้วอะไรคือ เงินได้พึงประเมิน? พูดง่าย ๆ ก็คือ เงินหรือผลประโยชน์ใด ๆ ที่เราได้รับมาในรอบปีภาษี ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือน ค่าจ้าง ค่าเช่า ดอกเบี้ย เงินปันผล หรือแม้แต่กำไรจากการลงทุนต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงกำไรจากการ เทรดทอง ด้วย หากเรามีเงินได้เหล่านี้ เราก็มีหน้าที่ต้องเสียภาษีให้กับรัฐ

ใครบ้างที่มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา?

  • บุคคลธรรมดา: คือตัวเราแต่ละคนนี่เอง ไม่ว่าจะเป็นพนักงาน ลูกจ้าง นักธุรกิจอิสระ หรือนักลงทุน หากมีรายได้ถึงเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ก็ต้องยื่นแบบแสดงรายการและเสียภาษี

  • ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล: กลุ่มบุคคลที่รวมตัวกันประกอบกิจการหรือหารายได้ แต่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ก็มีหน้าที่ต้องเสียภาษีในนามของคณะบุคคล

  • ผู้ถึงแก่ความตายระหว่างปีภาษี: แม้จะเสียชีวิตไปแล้ว หากมีเงินได้เกิดขึ้นก่อนเสียชีวิต ก็ยังคงมีหน้าที่ต้องเสียภาษีสำหรับเงินได้นั้น ๆ

  • กองมรดกที่ยังไม่ได้แบ่ง: หากมีมรดกที่ยังไม่ได้แบ่งและก่อให้เกิดรายได้ระหว่างที่ยังไม่ได้แบ่ง ก็ต้องเสียภาษีในนามของกองมรดก

  • วิสาหกิจชุมชนบางประเภท: กรณีที่เข้าเงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด

ดังนั้น สิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจว่ากำไรจากการ เทรดทอง ของคุณนั้น จัดเป็น เงินได้พึงประเมิน หรือไม่ และหากเป็น คุณก็มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายภาษีของกรมสรรพากรอย่างเคร่งครัด

ประเภทของทองคำและการลงทุน: รูปแบบใดบ้างที่ต้องเสียภาษี?

การลงทุนในทองคำมีหลากหลายรูปแบบ แต่ละรูปแบบก็มีลักษณะการทำกำไรและความซับซ้อนที่แตกต่างกันไป และที่สำคัญคือ มีผลต่อเกณฑ์การเสีย ภาษีทองคำ ที่ไม่เหมือนกัน เรามาดูกันว่าการลงทุนทองคำในรูปแบบไหนบ้างที่เมื่อมีกำไรแล้ว มักจะต้องนำไปคำนวณภาษี:

1. การซื้อขายทองคำแท่งเพื่อเก็งกำไร

  • นี่คือรูปแบบที่พบเห็นได้บ่อยที่สุด คุณซื้อทองคำแท่งในราคาต่ำ แล้วขายออกไปเมื่อราคาขึ้น เพื่อทำกำไรส่วนต่าง

  • หากการซื้อขายนั้นมีเจตนาเพื่อการค้าหรือเก็งกำไรเป็นหลัก หรือทำอย่างสม่ำเสมอจนเข้าข่ายเป็นธุรกิจ ตามหลักการของกรมสรรพากร กำไรที่ได้จากการซื้อขายทองคำแท่งจะถือเป็น เงินได้พึงประเมิน ประเภท 40(8) คือเงินได้จากการธุรกิจ การพาณิชย์ หรือการอื่น ๆ และต้องนำไปคำนวณ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

2. การซื้อขายทองผ่านตลาดฟิวเจอร์ส (เช่น TFEX)

  • การลงทุนผ่าน ตลาด TFEX (Thailand Futures Exchange) เช่น Gold Futures หรือ Gold Online Futures เป็นการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ไม่ได้มีการส่งมอบทองคำจริง ๆ แต่เป็นการเก็งกำไรจากส่วนต่างราคา

  • กำไรที่ได้จากการ เทรดทอง ใน ตลาด TFEX ส่วนใหญ่ (หากเป็นรายย่อยทั่วไปและไม่ได้มีการส่งมอบจริง) จะได้รับการยกเว้นภาษีตามกฎหมาย เพราะจัดเป็นเงินได้จากการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งได้รับสิทธิยกเว้นภาษี อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้อาจมีรายละเอียดปลีกย่อยที่ต้องพิจารณา หากคุณเทรดในปริมาณมากจนเข้าข่ายเป็นธุรกิจ

3. การซื้อขายทองในตลาด Forex (คู่สกุลเงิน XAU/USD)

  • การ เทรดทอง ในตลาด ตลาดฟอเร็กซ์ หรือ Forex (Foreign Exchange) เป็นการซื้อขายคู่สกุลเงินที่เกี่ยวข้องกับทองคำ เช่น XAU/USD (ทองคำเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ) กำไรที่ได้มาจากการเก็งกำไรความผันผวนของราคา

  • สำหรับกำไรจากการ เทรดทอง ในตลาด ตลาดฟอเร็กซ์ นี้ หากเป็นรายได้ที่เกิดขึ้นในต่างประเทศและคุณไม่ได้นำเงินกำไรกลับเข้ามาในประเทศไทยภายในปีภาษีเดียวกัน คุณก็อาจไม่ต้องเสียภาษีในปีนั้น แต่หากนำกลับเข้ามาเมื่อไหร่ ก็จะถือเป็น เงินได้พึงประเมิน ที่ต้องเสียภาษีในประเทศไทยทันที และมักจะจัดเป็นเงินได้ประเภท 40(4) หรือ 40(8) ขึ้นอยู่กับลักษณะการเทรด

    หากคุณกำลังมองหาแพลตฟอร์มสำหรับการเทรด Forex หรือสำรวจสินค้า CFD อื่นๆ เราขอแนะนำ Moneta Markets (โมเนตา มาร์เก็ตส์) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มจากออสเตรเลียที่นำเสนอสินค้าทางการเงินกว่า 1,000 รายการ เหมาะสำหรับทั้งนักลงทุนมือใหม่และมืออาชีพที่กำลังมองหาตัวเลือกที่หลากหลาย

4. การซื้อขายทองคำผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์และแอปพลิเคชัน (เช่น Gold NOW, Gold Wallet)

  • ปัจจุบันการ เทรดทอง ผ่านแอปพลิเคชันอย่าง Gold NOW (ของฮั่วเซ่งเฮง) หรือ Gold Wallet ในแอปเป๋าตัง ได้รับความนิยมสูง เพราะสะดวกและซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง

  • กำไรที่ได้จากการซื้อขายทองในรูปแบบนี้ถือเป็นประเด็นที่กรมสรรพากรกำลังให้ความสนใจเป็นพิเศษ โดยมีแนวโน้มที่จะตีความว่าเป็น เงินได้พึงประเมิน ประเภท 40(8) ซึ่งเป็นเงินได้จากการทำธุรกิจการค้า หากคุณมีการซื้อขายบ่อยครั้งและมีกำไรเข้าเกณฑ์ ก็จะต้องนำไปคำนวณ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

5. การออมทองแล้วขายทำกำไร

  • การ ออมทอง เป็นการทยอยซื้อทองสะสมเป็นรายเดือนหรือรายวัน แล้วเมื่อราคาทองขึ้นถึงระดับที่ต้องการ ก็ทำการขายเพื่อทำกำไร

  • ในลักษณะเดียวกัน หากการ ออมทอง มีวัตถุประสงค์เพื่อการเก็งกำไรหรือทำธุรกิจอย่างสม่ำเสมอ กำไรที่ได้ก็ถือเป็น เงินได้พึงประเมิน ที่ต้องเสียภาษีเช่นกัน

การเข้าใจในความแตกต่างของแต่ละรูปแบบการลงทุนนี้เป็นก้าวแรกที่สำคัญในการ วางแผนภาษี ของคุณเอง

รูปแบบการลงทุนทองคำ ประเภทกำไร เสียภาษีหรือไม่
ซื้อขายทองคำแท่ง กำไรจากการค้า ใช้
ซื้อขายทองในตลาดฟิวเจอร์ส กำไรทั่วไป ไม่ใช้
การเทรดทองในตลาด Forex กำไรที่ไม่ได้ย้ายกลับประเทศไทย ไม่ใช้

เจาะลึก 1: ภาษีกับการซื้อขายทองคำแท่งและทองรูปพรรณ

เรื่องการเสียภาษีจากการซื้อขายทองคำแท่งและทองรูปพรรณเป็นสิ่งที่นักลงทุนหลายคนยังสับสน และเป็นจุดที่กรมสรรพากรให้ความสนใจเป็นพิเศษ เพื่อให้คุณเข้าใจได้อย่างชัดเจน เรามาแยกประเด็นกัน

ทองคำแท่งและทองรูปพรรณที่ไม่ได้มุ่งการค้า:

  • ตามหลัก ประมวลรัษฎากร มาตรา 42(9) ได้ระบุไว้ว่า “เงินได้จากการขายสังหาริมทรัพย์อันเป็นมรดก หรือที่ได้มาโดยมิได้มุ่งในทางการค้าหรือหากำไร” จะได้รับยกเว้นภาษี

  • คำว่า “สังหาริมทรัพย์” ในที่นี้รวมถึงทองคำแท่งและทองรูปพรรณด้วย

  • ดังนั้น หากคุณซื้อทองคำแท่งหรือทองรูปพรรณมาเก็บสะสมไว้เพื่อรักษามูลค่า ไม่ได้มีเจตนาที่จะซื้อมาขายไปเพื่อเก็งกำไรในทันที หรือไม่ได้ทำเป็นอาชีพหลักในการซื้อขายทองคำบ่อยครั้ง กำไรที่ได้จากการขายทองในลักษณะนี้มักจะได้รับการยกเว้น ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

  • ยกตัวอย่างเช่น คุณซื้อทองรูปพรรณเก็บไว้เป็นเครื่องประดับ หรือซื้อทองคำแท่งเก็บไว้เป็นสินทรัพย์สำรองมานานหลายปี แล้วนำไปขายเมื่อราคาสูงขึ้นเพื่อใช้จ่ายส่วนตัว นี่คือกรณีที่มักจะเข้าข่ายได้รับการยกเว้นภาษี

ทองคำแท่งและทองรูปพรรณที่มุ่งการค้าหรือเก็งกำไร:

  • ในทางตรงกันข้าม หากการซื้อขายทองคำแท่งหรือทองรูปพรรณของคุณมีลักษณะเป็นการทำธุรกิจ หรือมุ่งเน้นการเก็งกำไรระยะสั้น มีการซื้อมาขายไปบ่อยครั้ง มีปริมาณการซื้อขายที่สูง และเป็นแหล่งรายได้หลักของคุณ

  • ในกรณีนี้ กรมสรรพากร จะพิจารณาว่ากำไรที่ได้จากการ เทรดทอง ดังกล่าวเป็น เงินได้พึงประเมิน ประเภท 40(8) คือเงินได้จากการประกอบธุรกิจ การพาณิชย์ หรือการอื่น ๆ ซึ่งจะต้องนำไปคำนวณและเสีย ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

  • สิ่งสำคัญคือ “เจตนา” และ “ลักษณะการทำธุรกิจ” ของคุณ หากคุณมีร้านทองหรือเป็นผู้ค้าทองโดยตรง หรือมีการเปิดหน้าร้านออนไลน์เพื่อซื้อขายทองคำอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะในรูปแบบทองคำแท่งหรือทองรูปพรรณ รายได้ที่เกิดขึ้นย่อมเป็นเงินได้ที่ต้องเสียภาษีอย่างแน่นอน

ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเรื่อง ภาษีย้อนหลัง คุณควรพิจารณาเจตนาและพฤติกรรมการซื้อขายทองคำของคุณให้ดี หากคุณมีข้อสงสัยหรือไม่แน่ใจ การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเสมอ

เจาะลึก 2: ภาษีกับการเทรด Gold Futures (TFEX) และอนุพันธ์ทองคำ

มาถึงการลงทุนในอนุพันธ์ทองคำกันบ้าง โดยเฉพาะการ เทรดทอง ผ่าน ตลาด TFEX (Thailand Futures Exchange) ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่นักลงทุนที่ต้องการใช้ประโยชน์จาก Leverage และสามารถทำกำไรได้ทั้งตลาดขาขึ้นและขาลง

ลักษณะการเทรด Gold Futures ใน TFEX:

  • Gold Futures หรือ Gold Online Futures เป็นสัญญาที่อนุญาตให้คุณซื้อหรือขายทองคำในอนาคตในราคาที่ตกลงกันวันนี้ โดยส่วนใหญ่แล้ว การเทรดใน ตลาด TFEX ไม่ได้มีการส่งมอบทองคำจริง ๆ แต่เป็นการทำกำไรจากส่วนต่างของราคา ณ วันที่ซื้อขายกับวันที่ครบกำหนดสัญญา

  • การลงทุนในรูปแบบนี้มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า “สัญญาซื้อขายล่วงหน้า” ซึ่งเป็นการลงทุนในตลาดอนุพันธ์ของประเทศไทย

สถานะภาษีของกำไรจาก TFEX:

  • ข่าวดีสำหรับนักลงทุน TFEX คือ โดยส่วนใหญ่แล้ว กำไรจากการลงทุน ในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเหล่านี้ จะได้รับ การยกเว้นภาษี ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

  • นี่เป็นไปตามหลักการที่ว่า รายได้จากการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือตลาดอนุพันธ์ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เว้นแต่จะมีกรณีพิเศษหรือมีการส่งมอบสินทรัพย์จริงในบางสัญญาที่อาจมีเงื่อนไขต่างกันไป (ซึ่งไม่ค่อยพบในการเทรด Gold Futures ทั่วไป)

  • ดังนั้น หากคุณเป็นนักลงทุนรายย่อยที่ เทรดทอง ใน ตลาด TFEX เป็นหลัก และไม่ได้มีการส่งมอบทองคำจริง คุณก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการเสีย ภาษีทองคำ สำหรับกำไรส่วนนี้

ข้อควรระวัง:

  • แม้จะได้รับการยกเว้นภาษีในกรณีส่วนใหญ่ แต่ก็ยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่คุณควรติดตามข่าวสารและประกาศจาก กรมสรรพากร หรือตลาดหลักทรัพย์ฯ อย่างใกล้ชิด เพราะกฎเกณฑ์ทางภาษีสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา

  • นอกจากนี้ หากคุณมีการ เทรดทอง ในปริมาณที่สูงมาก หรือมีลักษณะการดำเนินงานที่คล้ายกับการเป็นผู้ค้าหลักทรัพย์ หรือมีรูปแบบการรับรายได้ที่ซับซ้อน อาจจำเป็นต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีเพื่อความมั่นใจ

การทำความเข้าใจความแตกต่างของแต่ละประเภทการลงทุน จะช่วยให้คุณ วางแผนภาษี ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเลือกช่องทางการลงทุนที่เหมาะสมกับเป้าหมายทางการเงินของคุณ

เจาะลึก 3: ภาษีกับการเทรดทองคำในตลาด Forex (XAU/USD) และแพลตฟอร์มต่างประเทศ

การ เทรดทอง ในตลาด ตลาดฟอเร็กซ์ (Forex) หรือที่นักลงทุนมักรู้จักกันในนาม XAU/USD เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะมีความคล่องตัวสูง สามารถเทรดได้ตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันทำการ และเข้าถึงได้จากทั่วโลกผ่านแพลตฟอร์มของโบรกเกอร์ต่างประเทศ แต่การลงทุนรูปแบบนี้ก็มีประเด็นภาษีที่ซับซ้อนกว่าการเทรดในประเทศอยู่บ้าง

ลักษณะการเทรด XAU/USD ในตลาด Forex:

  • เมื่อคุณ เทรดทอง ในตลาด ตลาดฟอเร็กซ์ คุณกำลังเก็งกำไรจากการเปลี่ยนแปลงราคาของทองคำเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (XAU/USD) โดยไม่ได้มีการซื้อหรือขายทองคำจริง ๆ

  • การซื้อขายนี้เกิดขึ้นบนแพลตฟอร์มของโบรกเกอร์ต่างประเทศ เช่น XM หรือ EXNESS ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่มีชื่อเสียงและได้รับความไว้วางใจจากนักลงทุนทั่วโลก

    สำหรับผู้ที่กำลังมองหาโบรกเกอร์ Forex ที่มีระบบจัดการความเสี่ยงที่มั่นคงและตัวเลือกการเทรดที่หลากหลาย Moneta Markets (โมเนตา มาร์เก็ตส์) โดดเด่นด้วยการรองรับแพลตฟอร์มหลักอย่าง MT4, MT5, Pro Trader และมอบประสบการณ์การเทรดที่มีประสิทธิภาพด้วยการดำเนินการคำสั่งที่รวดเร็วและสเปรดที่แข่งขันได้

ประเด็นภาษีสำหรับกำไรจาก Forex (XAU/USD):

  • หลักการของ กรมสรรพากร สำหรับรายได้จากต่างประเทศคือ: หากคุณมี เงินได้พึงประเมิน จากแหล่งเงินได้ในต่างประเทศ และได้นำเงินนั้นกลับเข้ามาในประเทศไทยภายในปีภาษีเดียวกัน คุณจะต้องนำเงินได้นั้นมารวมคำนวณและเสีย ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ในประเทศไทย

  • ดังนั้น สำหรับกำไรจากการ เทรดทอง ในตลาด ตลาดฟอเร็กซ์ (XAU/USD) หากคุณเทรดได้กำไรและโอนเงินกำไรนั้นเข้ามาในบัญชีธนาคารในประเทศไทย (ไม่ว่าจะเป็น SCB EASY, K PLUS, Bangkok Bank หรือ Krungsri) ภายในปีภาษีเดียวกับที่เกิดกำไร คุณจะต้องเสียภาษีสำหรับกำไรส่วนนั้น

  • โดยทั่วไปแล้ว กำไรจากการ เทรดทอง ใน ตลาดฟอเร็กซ์ มักจะถูกพิจารณาเป็น เงินได้พึงประเมิน ประเภท 40(4) หรือ 40(8) ขึ้นอยู่กับลักษณะและความถี่ในการเทรดของคุณ หากคุณเทรดเป็นครั้งคราวเพื่อการลงทุนส่วนตัว อาจจัดเป็น 40(4) แต่หากเทรดอย่างสม่ำเสมอและเป็นรายได้หลัก ก็มีโอกาสถูกตีความว่าเป็น 40(8) ซึ่งเป็นเงินได้จากการประกอบธุรกิจ

กรณีที่อาจไม่ต้องเสียภาษี (ชั่วคราว):

  • หากคุณได้ กำไรจากการลงทุน ในตลาด ตลาดฟอเร็กซ์ แต่เลือกที่จะเก็บเงินกำไรนั้นไว้ในบัญชีต่างประเทศ และยังไม่นำกลับเข้ามาในประเทศไทยภายในปีภาษีเดียวกับที่เกิดกำไร ในกรณีนี้ คุณอาจยังไม่จำเป็นต้องเสียภาษีสำหรับเงินได้นั้นในปีภาษีดังกล่าว

  • อย่างไรก็ตาม เมื่อใดที่คุณตัดสินใจนำเงินกำไรส่วนนั้นกลับเข้ามาในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นปีถัดไปหรือปีใด ๆ ก็ตาม เงินจำนวนนั้นจะถูกพิจารณาเป็นเงินได้ที่ต้องเสียภาษีในประเทศไทยทันที

นี่คือจุดที่นักลงทุนควรระมัดระวังและวางแผนการโอนเงินให้ดี เพื่อให้สอดคล้องกับแผน วางแผนภาษี ของคุณ และหลีกเลี่ยงปัญหาภาษีย้อนหลัง

นวัตกรรมและการตรวจสอบ: GOLD NOW และกฎหมาย E-Payment ส่งผลอย่างไร?

ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามาเปลี่ยนโฉมการลงทุน แอปพลิเคชันอย่าง Gold NOW ของฮั่วเซ่งเฮง ได้เข้ามาทำให้การ เทรดทอง เป็นเรื่องที่เข้าถึงง่ายและรวดเร็วอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน คุณสามารถซื้อ-ขายทองคำได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้อย่างมาก แต่ความสะดวกสบายนี้ก็มาพร้อมกับความท้าทายใหม่ ๆ ด้าน ภาษีทองคำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากผลกระทบของ กฎหมาย E-Payment

Gold NOW และความถี่ในการเทรด:

  • ก่อนหน้าที่จะมีแอปพลิเคชันเหล่านี้ การซื้อขายทองคำมักจะทำผ่านร้านทองโดยตรง ซึ่งอาจมีข้อจำกัดด้านเวลาทำการหรือความสะดวกในการเข้าถึง

  • แต่ด้วย Gold NOW คุณสามารถทำธุรกรรมได้บ่อยครั้งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ บางคนอาจซื้อขายเป็นรายวันหรือแม้กระทั่งภายในไม่กี่ชั่วโมง เพื่อเก็งกำไรจากความผันผวนเล็ก ๆ น้อย ๆ ของราคา

  • พฤติกรรมการซื้อขายที่ถี่ขึ้นและทำกำไรบ่อยครั้งนี้เองที่ทำให้ กรมสรรพากร เริ่มให้ความสำคัญกับรายได้จากการ เทรดทอง ผ่านแอปพลิเคชันเหล่านี้มากขึ้น

กฎหมาย E-Payment และการตรวจสอบภาษีย้อนหลัง:

  • นี่คือจุดเปลี่ยนสำคัญที่นักลงทุนต้องทำความเข้าใจ กฎหมาย E-Payment หรือพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 48) พ.ศ. 2562 มีผลบังคับใช้เพื่อส่งเสริมการใช้จ่ายผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบรายได้ของกรมสรรพากร

  • ภายใต้กฎหมายนี้ สถาบันการเงิน (ธนาคารต่าง ๆ เช่น SCB EASY, K PLUS, Bangkok Bank, Krungsri) มีหน้าที่ต้องรายงานข้อมูลธุรกรรมการเงินของลูกค้าที่มีความเคลื่อนไหวเข้าเกณฑ์ดังต่อไปนี้ให้แก่กรมสรรพากร:

    • มีการรับเงินโอนเข้าบัญชีตั้งแต่ 3,000 ครั้งขึ้นไปต่อปีภาษี หรือ

    • มีการรับเงินโอนเข้าบัญชีตั้งแต่ 400 ครั้งขึ้นไปต่อปีภาษี และมียอดรวมของธุรกรรมตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไปต่อปีภาษี

  • นั่นหมายความว่า หากคุณ เทรดทอง ผ่าน Gold NOW หรือแอปพลิเคชันอื่น ๆ บ่อยครั้ง และมีเงินกำไรจากการขายทองโอนเข้าบัญชีธนาคารของคุณจนเข้าเกณฑ์ดังกล่าว กรมสรรพากร ก็จะมีข้อมูลการเคลื่อนไหวของเงินในบัญชีของคุณ ซึ่งเป็นสัญญาณที่อาจนำไปสู่การตรวจสอบ ภาษีย้อนหลัง ได้

  • ปัจจุบัน กรมสรรพากร กำลังพิจารณาแนวทางที่ชัดเจนในการตีความรายได้จากการ เทรดทอง ผ่านแอปพลิเคชันเหล่านี้ ว่าจะจัดเป็น เงินได้พึงประเมิน ประเภท 40(8) (เงินได้จากการธุรกิจ การพาณิชย์) หรือไม่ ซึ่งหากตีความเช่นนั้น กำไรที่ได้จะต้องนำมารวมคำนวณ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

ดังนั้น ความสะดวกที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีก็คือความโปร่งใสของข้อมูล ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณต้องตระหนักและเตรียมพร้อมสำหรับเรื่อง ภาษีทองคำ เสมอ

กรณีพิเศษ: การลงทุนทองคำแบบใดบ้างที่ได้รับการยกเว้นภาษี?

แม้ว่าหลักการทั่วไปคือ “มีกำไรต้องเสียภาษี” แต่ก็มีบางกรณีที่ กรมสรรพากร ได้ให้ข้อยกเว้นไว้สำหรับการลงทุนในทองคำ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่คุณควรทราบ เพื่อให้สามารถ วางแผนภาษี ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่เสียภาษีโดยไม่จำเป็น

1. การถือครองทองคำแท่ง/ทองรูปพรรณเพื่อเก็บสะสมมูลค่าโดยไม่ได้มุ่งการค้า:

  • ดังที่เราได้กล่าวไปแล้วข้างต้น ตาม ประมวลรัษฎากร มาตรา 42(9) เงินได้จากการขายสังหาริมทรัพย์ที่ได้มาโดยมิได้มุ่งในทางการค้าหรือหากำไรจะได้รับยกเว้นภาษี

  • หากคุณซื้อ ทองคำแท่ง หรือทองรูปพรรณมาเก็บไว้เป็นสินทรัพย์ระยะยาว เพื่อรักษามูลค่า หรือเป็นมรดก และเมื่อนำมาขายในภายหลัง ไม่ได้มีเจตนาในการซื้อขายเพื่อเก็งกำไรอย่างสม่ำเสมอ กำไรที่ได้จะได้รับการยกเว้นภาษี

  • หัวใจสำคัญคือ “เจตนา” หากคุณไม่ได้ทำเป็นอาชีพหรือมีลักษณะการทำธุรกิจซื้อขายทองคำบ่อยครั้ง รายได้ส่วนนี้มักจะได้รับการยกเว้น

2. การเทรด Gold Futures ในตลาด TFEX ที่ไม่มีการส่งมอบทองจริง:

  • กำไรจากการลงทุน ในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Futures) ใน ตลาด TFEX ซึ่งไม่ได้มีการส่งมอบสินทรัพย์จริง (เช่น ทองคำแท่ง) จะได้รับการยกเว้น ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

  • นี่เป็นนโยบายเพื่อส่งเสริมการลงทุนในตลาดอนุพันธ์ของประเทศ ซึ่งต่างจากการซื้อขายทองคำแท่งจริง ๆ ที่อาจถูกพิจารณาเป็นเงินได้จากการค้า

3. การเทรดทองในตลาด Forex (XAU/USD) ที่ “ไม่ได้กำไร” หรือ “ขาดทุน”:

  • แน่นอนว่าหากคุณ เทรดทอง ใน ตลาดฟอเร็กซ์ และไม่ได้มีกำไร หรือแม้กระทั่งขาดทุน คุณก็ย่อมไม่มี เงินได้พึงประเมิน ที่จะต้องเสียภาษี

  • สิ่งสำคัญคือการบันทึกรายการเทรดของคุณอย่างละเอียด ทั้งส่วนที่เป็นกำไรและขาดทุน เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการแสดงต่อ กรมสรรพากร หากมีการตรวจสอบ

4. กรณีรายได้สุทธิทั้งปีไม่เกินเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษี:

  • สำหรับบุคคลธรรมดา ปัจจุบันรายได้สุทธิ (เงินได้พึงประเมินหลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน) ที่ไม่เกิน 150,000 บาทต่อปี จะได้รับการยกเว้น ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

  • ดังนั้น หาก กำไรจากการลงทุน ในทองคำของคุณ (ที่เข้าข่ายต้องเสียภาษี) เมื่อรวมกับรายได้อื่น ๆ ทั้งหมดของคุณแล้ว และหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนต่าง ๆ แล้ว เหลือเงินได้สุทธไม่เกิน 150,000 บาท คุณก็ไม่ต้องเสียภาษี

  • อย่างไรก็ตาม แม้จะได้รับการยกเว้นภาษีเนื่องจากรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ แต่คุณก็ยังคงมีหน้าที่ต้อง ยื่นแบบแสดงรายการภาษี (เช่น ภ.ง.ด. 90 หรือ ภ.ง.ด. 94) ตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้ถูกต้องและป้องกันปัญหา ภาษีย้อนหลัง ในอนาคต

5. การเก็บกำไรจากการเทรด Forex ไว้ในบัญชีต่างประเทศและไม่นำเข้าประเทศไทยภายในปีภาษีนั้น:

  • นี่เป็นประเด็นที่กล่าวไปแล้ว แต่สำคัญจนต้องเน้นย้ำอีกครั้ง หาก กำไรจากการลงทุน ใน ตลาดฟอเร็กซ์ เกิดขึ้นในต่างประเทศ และคุณยังไม่ได้นำเงินนั้นกลับเข้ามาในประเทศไทยภายในปีภาษีเดียวกับที่เกิดกำไร เงินได้นั้นจะไม่ถูกนำมาคำนวณภาษีในประเทศไทยสำหรับปีภาษีดังกล่าว

    การเลือกโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการเทรด Forex Moneta Markets (โมเนตา มาร์เก็ตส์) ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานสำคัญหลายแห่ง เช่น FSCA, ASIC, FSA ซึ่งให้ความมั่นใจในด้านความปลอดภัยของเงินทุน พร้อมบริการเสริมอย่าง VPS ฟรี และการสนับสนุนลูกค้าเป็นภาษาไทยตลอด 24/7 เพื่อให้คุณสามารถเทรดได้อย่างไร้กังวล

การรู้ข้อยกเว้นเหล่านี้จะช่วยให้คุณบริหารจัดการการลงทุนและภาษีได้อย่างชาญฉลาดมากขึ้น

การวางแผนภาษีทองคำ: กลยุทธ์และคำแนะนำสำหรับนักลงทุน

การเข้าใจกฎเกณฑ์ภาษีเป็นสิ่งหนึ่ง แต่การนำความรู้นั้นมาปรับใช้เพื่อ วางแผนภาษี อย่างมีประสิทธิภาพเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน ในฐานะนักลงทุนที่ต้องการความมั่นคงและปราศจากความกังวลเรื่อง ภาษีย้อนหลัง เรามีคำแนะนำและกลยุทธ์ที่คุณควรนำไปปฏิบัติ:

1. บันทึกและจัดเก็บหลักฐานอย่างละเอียด:

  • ไม่ว่าคุณจะ เทรดทอง ในรูปแบบใด สิ่งสำคัญที่สุดคือการบันทึกรายรับ-รายจ่ายที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนทองคำของคุณอย่างละเอียด

  • เก็บเอกสารทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง เช่น ใบยืนยันการซื้อ-ขาย, รายงานการเทรดจากแพลตฟอร์ม (โดยเฉพาะจาก Gold NOW หรือโบรกเกอร์ ตลาดฟอเร็กซ์), และหลักฐานการโอนเงินเข้า-ออกจากบัญชีธนาคาร

  • การมีบันทึกที่ครบถ้วนจะช่วยให้คุณสามารถคำนวณกำไรและขาดทุนได้อย่างถูกต้อง และใช้เป็นหลักฐานในการชี้แจงต่อ กรมสรรพากร หากมีการตรวจสอบ

2. ทำความเข้าใจประเภทของเงินได้และยื่นภาษีให้ถูกต้อง:

  • แม้ว่า กำไรจากการลงทุน ในทองคำบางรูปแบบอาจได้รับการยกเว้นภาษี แต่บางรูปแบบก็ต้องเสียภาษี

  • ทำความเข้าใจว่า กำไรจากการลงทุน ของคุณจัดเป็น เงินได้พึงประเมิน ประเภทใด (เช่น 40(4) หรือ 40(8)) และนำไปกรอกในแบบฟอร์ม ภ.ง.ด. 90 หรือ ภ.ง.ด. 94 ให้ถูกต้อง

  • แม้ว่ารายได้รวมทั้งปีจะไม่ถึงเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษี (เช่น ไม่เกิน 150,000 บาท) คุณก็ยังคงมีหน้าที่ต้อง ยื่นแบบแสดงรายการภาษี เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมาย และป้องกันปัญหาในอนาคต

3. ศึกษาและใช้สิทธิลดหย่อนภาษี:

  • การลดหย่อนภาษีเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยลดภาระภาษีของคุณได้

  • ศึกษาเกี่ยวกับสิทธิลดหย่อนต่าง ๆ ที่คุณมี เช่น ค่าลดหย่อนส่วนตัว ค่าลดหย่อนคู่สมรส บุตร เบี้ยประกันชีวิต กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) และอื่น ๆ

  • การใช้สิทธิลดหย่อนอย่างเต็มที่และถูกต้องจะช่วยให้คุณเสียภาษีน้อยลงอย่างถูกกฎหมาย

4. แยกบัญชีลงทุนกับบัญชีใช้จ่ายส่วนตัว:

  • เพื่อความโปร่งใสและง่ายต่อการตรวจสอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากผลกระทบของ กฎหมาย E-Payment ควรแยกบัญชีธนาคารที่ใช้สำหรับการลงทุนทองคำออกจากบัญชีที่ใช้ในชีวิตประจำวัน

  • การแยกบัญชีจะช่วยให้คุณติดตามการเคลื่อนไหวของเงินที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนได้อย่างชัดเจน และลดความซับซ้อนในการชี้แจงต่อ กรมสรรพากร

5. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษี:

  • หากคุณมีข้อสงสัย ซับซ้อน หรือไม่แน่ใจเกี่ยวกับ ภาษีทองคำ หรือการวางแผนภาษีในภาพรวม การปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษี หรือนักบัญชีมืออาชีพเป็นสิ่งที่เราแนะนำเป็นอย่างยิ่ง

  • ผู้เชี่ยวชาญสามารถให้คำแนะนำที่เฉพาะเจาะจงกับสถานการณ์ของคุณ และช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าการจัดการภาษีของคุณเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

การ วางแผนภาษี ไม่ใช่แค่การเสียภาษีให้น้อยที่สุด แต่คือการจัดการให้ถูกต้อง ครบถ้วน และโปร่งใส เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในอนาคต

บทสรุป: การลงทุนทองคำอย่างชาญฉลาด ปลอดภัยเรื่องภาษี

เราได้เดินทางผ่านเรื่องราวของ ภาษีทองคำ มาอย่างละเอียดถี่ถ้วน หวังว่าคุณจะได้รับความรู้และความเข้าใจที่ชัดเจนยิ่งขึ้นว่าการ เทรดทอง ไม่ว่าจะในรูปแบบใด หากก่อให้เกิด กำไรจากการลงทุน ย่อมมีโอกาสถูกพิจารณาเป็น เงินได้พึงประเมิน ที่ต้องนำไปคำนวณ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เว้นแต่จะเข้าข่ายได้รับการยกเว้นตามหลักเกณฑ์ที่ กรมสรรพากร กำหนดไว้อย่างชัดเจน

ประเด็นสำคัญที่คุณต้องตระหนักอยู่เสมอคือ การลงทุนในยุคดิจิทัล เช่น การใช้แอปพลิเคชัน Gold NOW นั้น นำมาซึ่งความสะดวกสบายที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่ก็เป็นดาบสองคมที่ทำให้ข้อมูลธุรกรรมการเงินของคุณสามารถถูกตรวจสอบได้อย่างง่ายดายจาก กฎหมาย E-Payment ซึ่งอาจนำไปสู่การถูกเรียกเก็บ ภาษีย้อนหลัง หากคุณไม่ได้มีการ วางแผนภาษี และปฏิบัติตามกฎหมายอย่างถูกต้อง

ในฐานะนักลงทุน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการทำความเข้าใจใน “รูปแบบการลงทุน” ของตนเอง “ประเภทของเงินได้” ที่เกิดขึ้น และ “เกณฑ์การเสียภาษี” ที่เกี่ยวข้องสำหรับแต่ละรูปแบบ การบันทึกรายรับรายจ่ายอย่างละเอียด การยื่นภาษีให้ถูกต้องครบถ้วนแม้รายได้จะไม่ถึงเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษี และการศึกษาเรื่องสิทธิลดหย่อนภาษี ล้วนเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้คุณสามารถบริหารจัดการ ภาษีทองคำ ของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ

จงจำไว้ว่า การเป็นนักลงทุนที่ชาญฉลาด ไม่ใช่แค่การทำกำไรให้ได้มากที่สุด แต่คือการบริหารจัดการความเสี่ยงในทุกมิติ ซึ่งรวมถึงความเสี่ยงด้านภาษีด้วย การเตรียมตัวและ วางแผนภาษี อย่างรอบคอบ จะช่วยให้การลงทุนในทองคำของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น ปราศจากความกังวลใจ และนำคุณไปสู่ความสำเร็จทางการเงินได้อย่างยั่งยืน

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับgold now เสียภาษีไหม

Q:การซื้อทองคำผ่าน Gold NOW เสียภาษีไหม?

A:กำไรจากการซื้อขายทองคำผ่าน Gold NOW อาจถูกพิจารณาว่าเป็นเงินได้พึงประเมิน จึงต้องเสียภาษีตามการกระทำทางกฎหมายที่กำหนด

Q:ถ้าซื้อทองรูปพรรณเก็บไว้ต้องเสียภาษีไหม?

A:ถ้าซื้อเพื่อเก็บสะสมและไม่ได้มุ่งการค้า ส่วนใหญ่จะไม่ต้องเสียภาษี แต่หากทำเป็นธุรกิจอาจต้องเสีย

Q:กำไรจากการเทรด Forex ต้องเสียภาษีไหม?

A:ถ้าย้ายกำไรกลับเข้าประเทศภายในปีเดียวกัน ต้องเสียภาษี แต่ถ้ายังไม่ย้ายจะไม่ต้องเสีย

More From Author

ประชุมเฟด 2566: การวิเคราะห์เชิงลึกมติและผลกระทบต่อนโยบายการเงินสหรัฐฯ

ค่าเงินforex: เจาะลึกตลาดการเงินโลกในปี 2025

發佈留言