บทนำ: ทำไม ETF ทองคำ ถึงน่าสนใจในยุคนี้?
ในช่วงที่เศรษฐกิจโลกเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนแบบนี้ อัตราเงินเฟ้อยังคงเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องจับตามอง และตลาดหุ้นก็ดูจะผันผวนหนักขึ้นเรื่อยๆ นักลงทุนหลายคนจึงหันกลับมาสนใจสินทรัพย์ที่มั่นคงอย่างทองคำอีกครั้ง ทองคำได้รับการยอมรับมานานในฐานะเครื่องมือที่ช่วยป้องกันความเสี่ยงและรักษาคุณค่าของเงินในระยะยาว แต่การลงทุนแบบเก่าๆ อย่างการซื้อทองแท่งหรือเครื่องประดับทองคำ อาจมีปัญหาเรื่องที่เก็บของ ค่าใช้จ่าย และความคล่องตัวในการซื้อขายที่ไม่สะดวกนัก

นี่คือเหตุผลที่ ETF ทองคำ หรือกองทุนรวมที่ซื้อขายได้ในตลาดหลักทรัพย์แบบนี้ กลายเป็นทางเลือกที่ทันสมัยและเข้าถึงง่ายสำหรับนักลงทุนสมัยใหม่ มันให้ความสะดวกในการซื้อขายเหมือนกับหุ้นทั่วไป แต่ยังคงเอกลักษณ์ของการลงทุนทองคำไว้ครบถ้วน ทำให้เหมาะสำหรับการกระจายความเสี่ยงในพอร์ตลงทุนของคุณ โดยเฉพาะนักลงทุนชาวไทยที่อยากเข้าใจ ETF ทองคำให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น จะช่วยให้คุณวางแผนการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพและตรงกับเป้าหมายที่ตั้งใจไว้
ETF ทองคำ คืออะไร? เข้าใจพื้นฐานก่อนเริ่มลงทุน
นิยามและหลักการทำงานของ ETF ทองคำ
ETF ทองคำคือกองทุนรวมประเภทดัชนีที่ลงทุนโดยตรงในทองคำจริงหรือสัญญาที่ผูกติดกับราคาทองคำในตลาดโลก โดยจดทะเบียนและซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เหมือนหุ้นธรรมดา จุดเด่นคือกองทุนจะพยายามให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับการเคลื่อนไหวของราคาทองคำมากที่สุด ดังนั้น ถ้าราคาทองคำขึ้น มูลค่าของ ETF ก็จะขึ้นตามไปด้วย และถ้าลงก็จะลงตามเช่นกัน
สิ่งที่แตกต่างจากกองทุนรวมทองคำทั่วไปคือ ETF นี้ซื้อขายได้ตลอดเวลาทำการของตลาด ทำให้สภาพคล่องดีกว่า และคุณสามารถกำหนดราคาเองได้เหมือนหุ้น โดยปกติแล้ว ETF ทองคำจะถือทองคำจริงไว้เป็นหลักฐานอ้างอิง ซึ่งเก็บไว้ในตู้นิรภัยของธนาคารชั้นนำ เพื่อความปลอดภัยและความโปร่งใสในการทำงาน

ข้อดีของการลงทุน ETF ทองคำ
การเลือกลงทุนใน ETF ทองคำมีประโยชน์หลายอย่าง โดยเฉพาะสำหรับคนที่อยากเข้าถึงตลาดทองคำโดยตรงโดยไม่ยุ่งยาก:
- สภาพคล่องสูง: ซื้อขายได้รวดเร็วในตลาดหลักทรัพย์ เปลี่ยนเป็นเงินสดได้ทันทีที่ต้องการ
 - ต้นทุนต่ำ: เทียบกับการซื้อทองแท่งหรือเครื่องประดับ ค่าธรรมเนียมซื้อขายและจัดการกองทุนต่ำกว่า และไม่มีค่ากำเหน็จเพิ่มเติม
 - กระจายความเสี่ยง: ทองคำไม่ค่อยเคลื่อนไหวไปตามหุ้นหรือพันธบัตร การเพิ่ม ETF ทองคำเข้ามาในพอร์ตช่วยลดความผันผวนโดยรวมได้
 - ความโปร่งใส: มูลค่าติดตามราคาทองคำโลกอย่างชัดเจน และคุณตรวจสอบสินทรัพย์ที่กองทุนถือได้ง่ายๆ
 - ป้องกันความเสี่ยง: ทองคำทำงานได้ดีในช่วงเศรษฐกิจปั่นป่วน เงินเฟ้อพุ่ง หรือวิกฤตการเมือง ช่วยปกป้องพอร์ตของคุณ
 - เข้าถึงง่าย: เริ่มลงทุนได้ด้วยเงินจำนวนน้อย ไม่ต้องห่วงเรื่องเก็บรักษาหรือความปลอดภัยของทองจริง
 
เปรียบเทียบ: ETF ทองคำ vs. ทองคำแท่ง vs. หุ้นทองคำ
ข้อแตกต่างสำคัญสำหรับนักลงทุนไทย
นักลงทุนไทยควรรู้จักความต่างระหว่าง ETF ทองคำ ทองคำแท่ง และหุ้นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับทองคำซึ่งจดทะเบียนใน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เพื่อตัดสินใจได้ถูกต้อง ตารางนี้สรุปจุดต่างหลักๆ ให้เห็นภาพชัด:
| คุณสมบัติ          | ETF ทองคำ                                         | ทองคำแท่ง / ทองรูปพรรณ                        | หุ้นทองคำ (ใน SET)                             |
| :—————- | :———————————————— | :——————————————– | :——————————————- |
| **สินทรัพย์อ้างอิง** | ราคาทองคำในตลาดโลก (Spot Gold Price)              | ทองคำจริง                                     | ผลประกอบการของบริษัทเหมือง/เกี่ยวข้องกับทองคำ |
| **การซื้อขาย**    | ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เหมือนหุ้น                 | ซื้อขายที่ร้านทอง หรือผ่านแพลตฟอร์มทองคำออนไลน์ | ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เหมือนหุ้น             |
| **สภาพคล่อง**     | สูง                                              | ปานกลาง (ขึ้นอยู่กับร้านค้า)                    | สูง                                          |
| **ต้นทุน**        | ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย, ค่าธรรมเนียมบริหารจัดการ | ค่ากำเหน็จ, ส่วนต่างราคาซื้อ-ขาย               | ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย                       |
| **การจัดเก็บ**    | ไม่ต้องจัดเก็บเอง (กองทุนจัดการ)                   | ต้องจัดเก็บเอง หรือฝากกับธนาคาร/ร้านทอง       | ไม่ต้องจัดเก็บ                               |
| **ความสะดวก**     | สูง (ซื้อขายออนไลน์ได้)                             | ปานกลาง                                      | สูง (ซื้อขายออนไลน์ได้)                       |
| **ภาษีสำหรับนักลงทุนไทย** | กำไรจากการขายมักได้รับการยกเว้นภาษี, เงินปันผลเสียภาษี 10% (ถ้ามี) | มักไม่มีภาษีกำไรจากการขาย (หากเป็นบุคคลธรรมดา) | กำไรจากการขายมักได้รับการยกเว้นภาษี, เงินปันผลเสียภาษี 10% |
| **ความเสี่ยง**    | ราคาทองคำผันผวน, ค่าเงินผันผวน (สำหรับต่างประเทศ) | ราคาทองคำผันผวน, ความเสี่ยงจากการจัดเก็บ     | ราคาทองคำผันผวน, ผลประกอบการบริษัท, การบริหารจัดการ |

เลือกแบบไหนดี? คำแนะนำสำหรับสถานการณ์ต่างๆ
การเลือกวิธีลงทุนทองคำให้เหมาะสม ต้องดูจากเป้าหมาย ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และระยะเวลาที่คุณวางแผน:
- สำหรับมือใหม่หรือคนที่อยากสะดวก: ETF ทองคำตอบโจทย์ที่สุด เพราะเริ่มง่าย ต้นทุนน้อย และไม่ต้องจัดการเก็บเอง
 - สำหรับคนที่อยากถือของจริง: ทองคำแท่งเหมาะกับคนที่รู้สึกมั่นใจเมื่อได้จับต้อง และไม่ซีเรียสเรื่องสภาพคล่องหรือค่าดูแล
 - สำหรับคนรับความเสี่ยงสูงและหวังผลตอบแทนดี: หุ้นทองคำอาจให้กำไรมากกว่าถ้าบริษัททำดี แต่เสี่ยงสูงเพราะราคาไม่ผูกติดทองคำตรงๆ เสมอไป
 - สำหรับป้องกันความเสี่ยงและกระจายพอร์ต: ETF ทองคำช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้พอร์ตโดยรวมได้ดีเยี่ยม
 
เจาะลึก ETF ทองคำยอดนิยม: ทางเลือกในประเทศและต่างประเทศ
ETF ทองคำต่างประเทศที่น่าสนใจ
ETF ทองคำจากต่างประเทศได้รับความนิยมเพราะขนาดใหญ่ สภาพคล่องดี และค่าจัดการแข่งขัน นักลงทุนไทยเข้าถึงได้ผ่านโบรกเกอร์ที่รองรับการลงทุนต่างประเทศ:
- SPDR Gold Trust (GLD): ETF ทองคำใหญ่สุดและคล่องตัวที่สุดในโลก จดทะเบียนใน NYSE Arca ถือทองจริงในคลัง HSBC ที่ลอนดอน ราคาเคลื่อนไหวใกล้ชิดกับราคาสปอตทองคำมาก
 - iShares Gold Trust (IAU): คล้าย GLD แต่ค่าจัดการต่ำกว่า เหมาะสำหรับคนที่อยากประหยัดในระยะยาว
 - VanEck Merk Gold Trust (OUNZ): พิเศษตรงที่สามารถขอรับทองจริงได้ถ้าถือหน่วยพอ เหมาะกับคนที่อยากยืดหยุ่นในการแปลงเป็นทองจริง
 
การลงทุนเหล่านี้ใช้ดอลลาร์สหรัฐเป็นหลัก ดังนั้นต้องชั่งน้ำหนักความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนบาท-ดอลลาร์ด้วย โดยเฉพาะในช่วงที่ค่าเงินผันผวน
ETF ทองคำไทย (Thai Gold ETFs) และกองทุนรวมทองคำที่เกี่ยวข้อง
ถ้าคุณเป็นนักลงทุนไทยที่ไม่อยากเสี่ยงเรื่องค่าเงิน หรืออยากทำธุรกรรมในประเทศอย่างสะดวก มีตัวเลือกเหล่านี้:
- กองทุนรวมทองคำ: แม้ไม่ใช่ ETF โดยตรง แต่หลายกองจากบริษัทจัดการกองทุนไทยลงทุนใน ETF ต่างประเทศหรือทองจริง เช่น กองจาก บลจ.กรุงไทย (KTAM) หรือ บลจ.ไทยพาณิชย์ (SCBAM) อย่าง SCBGOLD ที่ลงทุนตรงใน SPDR Gold Trust ข้อดีคือซื้อขายด้วยบาท ไม่ยุ่งยากเรื่องภาษีแบบลงทุนต่างประเทศ
 - ETF ทองคำที่จดทะเบียนในไทย: เคยมีอย่าง TGOLD ในตลาดหลักทรัพย์ไทย แต่สถานการณ์อาจเปลี่ยนไป ควรเช็คข้อมูลล่าสุดจากตลาดหลักทรัพย์หรือโบรกเกอร์ของคุณ
 - แพลตฟอร์มการลงทุน: แอปอย่าง DIME! จาก Krungsri Securities ช่วยให้ลงทุน ETF ทองคำต่างประเทศได้ง่ายผ่านมือถือ ค่าธรรมเนียมชัดเจนและขั้นตอนไม่ซับซ้อน
 
ปัจจัยการเลือก ETF ทองคำให้เหมาะกับคุณ (รวมถึงค่าธรรมเนียมและผลตอบแทนย้อนหลัง)
การเลือก ETF ทองคำต้องดูหลายมุมเพื่อให้ตรงกับความต้องการ:
- ค่าธรรมเนียมการจัดการ: ค่าใช้จ่ายรายปีของกองทุน ยิ่งต่ำยิ่งช่วยประหยัดในระยะยาว
 - ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย: ค่าคอมมิชชั่นจากโบรกเกอร์
 - Tracking Error: ความคลาดเคลื่อนระหว่างผลตอบแทน ETF กับราคาทองคำอ้างอิง ยิ่งน้อยยิ่งดี
 - สภาพคล่อง: ดูปริมาณซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน เพื่อให้ซื้อขายได้โดยไม่เสียส่วนต่างราคามาก
 - ขนาดของกองทุน (AUM): กองใหญ่ๆ มักน่าเชื่อถือและคล่องตัวกว่า
 - ผลตอบแทนย้อนหลัง: ใช้เป็นแนวทาง แต่จำไว้ว่าไม่รับประกันอนาคต
 - นโยบายการลงทุน: เช็คว่าลงทุนในทองจริงหรือสัญญา เพื่อให้ตรงกับสไตล์คุณ
 
เพื่อเพิ่มความมั่นใจ คุณอาจลองดูตัวอย่างผลตอบแทนในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจที่ผ่านมา ซึ่ง ETF ทองคำส่วนใหญ่มักให้ผลดีในการป้องกันความสูญเสีย
ขั้นตอนการลงทุน ETF ทองคำสำหรับนักลงทุนไทย
การเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ไทย
เริ่มต้นลงทุน ETF ทองคำสำหรับคนไทยไม่ยากเลย ถ้าทำตามขั้นตอนนี้:
- เลือกโบรกเกอร์: หาบริษัทหลักทรัพย์ที่ใช่ เช่น SETTRADE, Krungsri Securities, SCB Securities หรืออื่นๆ ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทย
 - เปิดบัญชี: ติดต่อโบรกเกอร์ ส่งเอกสารอย่างบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน สมุดบัญชีธนาคาร และหลักฐานรายได้
 - ยืนยันตัวตน: ทำตามกระบวนการ เช่น ใช้ NDID แบบดิจิทัลหรือพบเจ้าหน้าที่
 - ฝากเงิน: เมื่ออนุมัติแล้ว โอนเงินเข้าบัญชีเพื่อพร้อมลงทุน
 
การซื้อขาย ETF ทองคำผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ (รวมถึง DIME)
พอมีบัญชีแล้ว คุณก็เริ่มซื้อขายได้ทันที:
- ผ่านแพลตฟอร์มโบรกเกอร์: ล็อกอินเข้าแอปหรือเว็บอย่าง Streaming by SETTRADE ค้นหา ETF ทองคำหรือกองทุนที่ลงทุนใน ETF ต่างประเทศ ตั้งราคาและจำนวนที่อยากซื้อ
 - ผ่านแอปพลิเคชัน DIME: สำหรับ ETF ต่างประเทศที่ DIME รองรับ ดาวน์โหลดแอป สมัคร แล้วทำตามขั้นตอน มันใช้งานง่าย เหมาะสำหรับนักลงทุนรายย่อย โดย DIME ช่วยจัดการเรื่องลงทุนต่างประเทศให้
 - คำสั่งซื้อขาย: เลือก Market Order สำหรับซื้อที่ราคาปัจจุบัน หรือ Limit Order เพื่อกำหนดราคาที่ต้องการ
 
ข้อควรระวัง: ภาษีและค่าธรรมเนียมสำหรับนักลงทุนไทย
อย่าลืมเช็คเรื่องภาษีและค่าธรรมเนียมให้ดี:
- ภาษีกำไรจากการขาย: โดยปกติ กำไรจาก ETF ที่จดทะเบียนในไทยหรือกองทุนรวมในประเทศ สำหรับบุคคลธรรมดาจะยกเว้นภาษี แต่ถ้าลงทุน ETF ต่างประเทศตรงๆ อาจต้องนำกำไรไปรวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
 - ภาษีเงินปันผล: ถ้ามีปันผล จะหักภาษี 10% ณ ที่จ่ายสำหรับบุคคลธรรมดา
 - ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย: ค่าคอมมิชชั่นให้โบรกเกอร์
 - ค่าธรรมเนียมการบริหารจัดการ: ค่ารายปีของกองทุน
 - ค่าธรรมเนียมอื่นๆ: เช่น ค่าโอนเงินต่างประเทศหรือแปลงสกุล ถ้าลงทุนตรง
 
เพื่อความชัวร์ ควรดูข้อมูลจากกรมสรรพากรหรือถามผู้เชี่ยวชาญ โดยเฉพาะถ้าลงทุนต่างประเทศ
ความเสี่ยงและข้อควรพิจารณาก่อนลงทุน ETF ทองคำ
ความผันผวนของราคาทองคำ
ถึงทองคำจะเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ราคาก็ผันผวนได้มาก จากปัจจัยหลายอย่าง เช่น:
- สถานการณ์เศรษฐกิจโลก: ถ้าเศรษฐกิจชะงักหรือวิกฤต ความต้องการทองคำจะพุ่ง ราคาก็ขึ้นตาม
 - อัตราดอกเบี้ยและนโยบายการเงิน: ดอกเบี้ยจริงสูงขึ้น ทองคำที่ไม่มีดอกเบี้ยอาจดูน่าสนใจน้อยลง
 - ความแข็งแกร่งของเงินดอลลาร์สหรัฐ: ราคาทองคำมักสวนทางกับดอลลาร์ เพราะกำหนดราคาด้วยดอลลาร์ ถ้าดอลลาร์แข็ง ทองแพงขึ้นสำหรับคนถือเงินอื่น
 - เหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์: ความขัดแย้งหรือสงครามมักผลักราคาทองขึ้น
 
ในทางปฏิบัติ นักลงทุนควรติดตามข่าวสารเหล่านี้เพื่อปรับกลยุทธ์ให้ทัน
ความเสี่ยงด้านค่าเงิน (สำหรับ ETF ต่างประเทศ)
สำหรับ ETF ต่างประเทศอย่าง GLD หรือ IAU ที่ใช้ดอลลาร์ ความเสี่ยงค่าเงินสำคัญมาก ผลตอบแทนของคุณจะขึ้นลงตามอัตราแลกเปลี่ยนบาท-ดอลลาร์ ถ้าบาทแข็ง กำไรจากดอลลาร์อาจหายไปตอนแปลงกลับ แต่ถ้าบาทอ่อน ผลตอบแทนจะเพิ่ม ถ้าอยากลดความเสี่ยง ลองดูกองทุนไทยที่ป้องกันค่าเงินหรือ ETF ในประเทศ
ค่าธรรมเนียมและสภาพคล่องของกองทุน
ถึง ETF จะถูกกว่า แต่ค่าธรรมเนียมยังกระทบผลตอบแทนระยะยาว:
- ค่าธรรมเนียมการบริหารจัดการ: ดูน้อยแต่สะสมนานๆ แล้วลดกำไรได้ชัด
 - สภาพคล่องของกองทุน: ถ้าปริมาณซื้อขายน้อย ส่วนต่าง Bid-Ask อาจกว้าง ทำให้ซื้อแพงขายถูก ต้นทุนสูงขึ้น
 
ดังนั้น เลือกกองที่มีสภาพคล่องดีและค่าธรรมเนียมสมเหตุสมผล เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
สรุป: วางแผนลงทุน ETF ทองคำอย่างชาญฉลาดในตลาดไทย
ETF ทองคำคือเครื่องมือที่ทรงพลังและปรับตัวได้ดี สำหรับนักลงทุนไทยที่อยากเข้าถึงทองคำ เพื่อป้องกันเงินเฟ้อ ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ หรือกระจายความเสี่ยงในพอร์ต ด้วยความง่ายในการซื้อขาย ต้นทุนที่ไม่แพง และความชัดเจน มันเหนือกว่าวิธีเก่าๆ หลายมุม
แต่การลงทุนไหนๆ ก็มีเสี่ยง ดังนั้น การรู้จักพื้นฐาน ETF การเปรียบเทียบตัวเลือกใน-ต่างประเทศ ขั้นตอนลงทุน และความเสี่ยงจากราคา ค่าเงิน ค่าธรรมเนียม จึงจำเป็นสำหรับ นักลงทุนไทย ทุกคน ใช้บทความนี้เป็นแนวทาง วางสัดส่วนลงทุนให้เหมาะกับความเสี่ยงของคุณ และรักษาวินัยระยะยาว เพื่อพอร์ตที่แข็งแกร่งและบรรลุเป้าหมายการเงิน
คำถามที่พบบ่อย (FAQs) เกี่ยวกับ ETF ทองคำสำหรับนักลงทุนไทย
ETF ทองคำ เหมาะกับนักลงทุนไทยประเภทไหน? และมีข้อจำกัดอะไรบ้าง?
ETF ทองคำเหมาะกับนักลงทุนไทยที่อยากลงทุนทองคำโดยไม่ต้องถือของจริง ไม่กังวลเรื่องเก็บรักษา ต้องการสภาพคล่องสูง และอยากกระจายความเสี่ยงในพอร์ต นอกจากนี้ยังดีสำหรับการลงทุนยาวเพื่อป้องกันเงินเฟ้อหรือความผันผวนหุ้น
ข้อจำกัดคือต้องเข้าใจตลาดหุ้น ค่าธรรมเนียม และความเสี่ยงค่าเงินสำหรับตัวต่างประเทศ อาจไม่เหมาะกับคนที่อยากจับทองจริง
การลงทุน ETF ทองคำในไทย ต้องเสียภาษีกำไรและปันผลอย่างไร?
สำหรับบุคคลธรรมดาในไทย:
- กำไรจากการขาย: มักยกเว้นภาษีถ้าซื้อขาย ETF ในตลาดไทยหรือกองทุนรวมในประเทศ แต่ถ้าลงทุน ETF ต่างประเทศตรงๆ อาจต้องรวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
 - เงินปันผล: ถ้ามี จะหักภาษี 10% ณ ที่จ่าย
 
เช็คข้อมูลล่าสุดจากกรมสรรพากรหรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
ฉันสามารถซื้อขาย ETF ทองคำต่างประเทศผ่านแอปพลิเคชัน DIME ได้โดยตรงหรือไม่?
ได้เลย แอป DIME จาก Krungsri Securities ช่วยให้นักลงทุนไทยเข้าถึง ETF ทองคำต่างประเทศบางตัวได้ง่ายผ่านมือถือ DIME ทำหน้าที่ตัวกลางลงทุนต่างประเทศให้ กระบวนการเรียบง่ายและค่าธรรมเนียมชัดเจน
อะไรคือความแตกต่างหลักระหว่าง ETF ทองคำที่จดทะเบียนในไทย กับ ETF ทองคำต่างประเทศ เช่น GLD?
- สกุลเงิน: ETF ไทยใช้บาท ส่วนต่างประเทศอย่าง GLD ใช้ดอลลาร์ มีความเสี่ยงค่าเงินสำหรับคนไทย
 - ตลาดหลักทรัพย์: ETF ไทยใน SET ส่วนต่างประเทศใน NYSE
 - สภาพคล่องและขนาด: ต่างประเทศมักใหญ่และคล่องกว่ามาก
 - ภาษี: ลงทุนต่างประเทศตรงๆ อาจมีภาษีกำไรต่างจากในประเทศ
 
นักลงทุนไทยควรจัดสรรพอร์ตการลงทุนใน ETF ทองคำกี่เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้เหมาะสมกับความเสี่ยง?
ไม่มีตัวเลขตายตัว ต้องดูจากเป้าหมาย อายุ ความเสี่ยงที่รับได้ และสินทรัพย์อื่นๆ โดยทั่วไป ผู้เชี่ยวชาญแนะ 5-15% ของพอร์ตทั้งหมด เพื่อกระจายความเสี่ยงและป้องกันผันผวน แต่ถ้าตลาดไม่แน่นอนมาก อาจเพิ่มได้ แต่ต้องคิดให้รอบคอบ
มีแหล่งข้อมูลใดบ้างที่น่าเชื่อถือสำหรับตรวจสอบราคาทองคำ สัญญาณซื้อขาย และผลตอบแทน ETF ทองคำย้อนหลังสำหรับตลาดไทย?
- ราคาทองคำ: สมาคมค้าทองคำแห่งประเทศไทย (goldtraders.or.th), เว็บข่าวเศรษฐกิจชั้นนำ
 - ข้อมูล ETF ทองคำ: เว็บตลาดหลักทรัพย์ไทย (set.or.th), เว็บ บลจ. ที่เกี่ยวข้อง, แพลตฟอร์มโบรกเกอร์, หรือเว็บโลกอย่าง ETF.com, Morningstar
 - สัญญาณซื้อขาย: บทวิเคราะห์จากโบรกเกอร์หรือนักวิเคราะห์ที่คุณติดตาม
 
นอกจากความผันผวนของราคาทองคำแล้ว นักลงทุนไทยควรระวังความเสี่ยงด้านใดเป็นพิเศษ?
นอกจากราคาผันผวน นักลงทุนไทยที่ลงทุน ETF ต่างประเทศควรระวังความเสี่ยงค่าเงินบาท-ดอลลาร์ เพราะกระทบผลตอบแทนตอนแปลงเงิน นอกจากนี้ยังมีสภาพคล่องกองทุน ถ้ากองเล็กหรือซื้อขายน้อย ส่วนต่าง Bid-Ask อาจกว้าง และค่าจัดการที่ลดกำไรระยะยาว
การลงทุนใน SPDR Gold Trust (GLD) หรือกองทุนทองคำอื่นๆ ที่ถือครองทองคำจริง มีความปลอดภัยแตกต่างจาก ETF ที่ลงทุนในสัญญาอย่างไร?
ETF ที่ถือทองจริงอย่าง GLD ปลอดภัยสูง เพราะมีทองจริงในตู้นิรภัยค้ำประกัน ลดความเสี่ยงคู่สัญญา
แต่ ETF ที่ใช้สัญญาฟิวเจอร์ส มีความเสี่ยงเพิ่มจากค่า Roll Over และคู่สัญญา อย่างไรก็ตาม ETF ยอดนิยมส่วนใหญ่เป็นแบบถือทองจริงเพื่อความน่าเชื่อถือ
ถ้าอยากลงทุนในทองคำ แต่ไม่ต้องการซื้อทองคำแท่ง ควรเลือก ETF ทองคำ หรือ กองทุนรวมทองคำดีกว่ากันสำหรับคนไทย?
ทั้งสองแบบดีสำหรับลงทุนทองโดยไม่ถือจริง
- ETF ทองคำ (ในไทย): ยืดหยุ่น ซื้อขายทั้งวันเหมือนหุ้น ค่าธรรมเนียมต่ำ
 - กองทุนรวมทองคำ: ลงทุนใน ETF ต่างประเทศให้ บางกองป้องกันค่าเงิน ซื้อขายง่ายผ่าน บลจ. หรือ DIME
 
เลือกตามว่าอยากยืดหยุ่นรายวันหรือให้ผู้เชี่ยวชาญจัดการ และกังวลค่าเงินไหม
การลงทุน ETF ทองคำ จะช่วยป้องกันความเสี่ยงจากค่าเงินบาทอ่อนค่าได้จริงหรือไม่?
ETF ต่างประเทศที่ใช้ดอลลาร์ช่วยป้องกันบาทอ่อนได้บ้าง เพราะถ้าบาทอ่อน มูลค่าสินทรัพย์ดอลลาร์เพิ่มตอนแปลงกลับ ผลตอบแทนดีขึ้น
แต่ไม่ใช่การป้องกันตรงๆ เป็นผลจากความสัมพันธ์ค่าเงิน-ทอง อาจไม่แน่นอนเสมอ ควรดูปัจจัยอื่นด้วย