ฟิวเจอร์ หรือที่รู้จักกันในชื่อสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ถือเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ทรงพลังและดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทยด้วย ตลาด TFEX หรือ Thailand Futures Exchange เปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนสามารถสร้างกำไรได้ทั้งในช่วงตลาดขาขึ้นและขาลง นอกจากนี้ยังช่วยใช้เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ด้วยความซับซ้อนของกลไกการทำงานและการนำเลเวอเรจมาใช้ การทำความเข้าใจพื้นฐานให้ถ่องแท้จึงจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้เริ่มต้น บทความนี้จะพาคุณสำรวจทุกมุมมองของฟิวเจอร์ ตั้งแต่คำจำกัดความ วิธีการทำงาน ประเภทต่างๆ จนถึงข้อดี ข้อควรระวัง และคู่มือเริ่มต้นเทรดในตลาด TFEX สำหรับนักลงทุนชาวไทย โดยจะรวมถึงกลยุทธ์ที่เป็นประโยชน์และข้อผิดพลาดที่พบบ่อย เพื่อช่วยให้คุณก้าวเข้าสู่โลกของฟิวเจอร์ด้วยความมั่นใจและฉลาดยิ่งขึ้น

## ฟิวเจอร์ (Futures) คืออะไร? ทำความเข้าใจพื้นฐาน
ฟิวเจอร์คือข้อตกลงที่ได้มาตรฐานระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย เพื่อซื้อหรือขายสินทรัพย์อ้างอิงในอนาคต ณ วันที่กำหนดและราคาที่ตกลงกันไว้ล่วงหน้า สัญญาเหล่านี้แตกต่างจากสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแบบกำหนดเองตรงที่ฟิวเจอร์มีมาตรฐานที่ชัดเจนในเรื่องปริมาณ คุณภาพ ราคา และวันหมดอายุ ทำให้การซื้อขายดำเนินไปอย่างเป็นระบบและโปร่งใสในตลาดอนุพันธ์ที่เป็นศูนย์กลาง
แม้ชื่อจะบอกถึงการทำธุรกรรมในอนาคต แต่ส่วนใหญ่การซื้อขายฟิวเจอร์ไม่ได้มุ่งไปที่การส่งมอบสินค้าจริงเมื่อสัญญาหมดอายุ หากแต่เป็นการเก็งกำไรจากความแตกต่างของราคาที่เปลี่ยนแปลงในตลาด การเข้าใจสินทรัพย์อ้างอิงจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะมูลค่าของสัญญาฟิวเจอร์จะเคลื่อนไหวตามราคาของสินทรัพย์นั้นโดยตรง หากต้องการภาพรวมที่ชัดเจนยิ่งขึ้น คุณสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งความรู้ทางการเงินที่น่าเชื่อถือ เช่น บทความจาก Money Buffalo ซึ่งอธิบายพื้นฐานเหล่านี้ได้อย่างละเอียด

## กลไกการทำงานของฟิวเจอร์: เข้าใจง่ายใน 3 นาที
เพื่อให้สามารถประเมินผลตอบแทนและความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสม การเข้าใจกลไกของฟิวเจอร์จึงเป็นหัวใจสำคัญ สิ่งที่เป็นแกนกลางคือหลักประกันหรือมาร์จิ้น ซึ่งเป็นเงินที่ผู้ลงทุนต้องฝากกับโบรกเกอร์เพื่อรับประกันการปฏิบัติตามสัญญา โดยไม่ใช่การชำระเต็มราคาของสัญญา หลักประกันนี้ก่อให้เกิดเลเวอเรจหรืออัตราทด ทำให้ผู้ลงทุนควบคุมสัญญามูลค่าสูงได้ด้วยเงินทุนที่น้อยลง แต่ในทางกลับกัน มันก็ขยายทั้งกำไรและขาดทุนให้ใหญ่โตขึ้นด้วย
เมื่อเปิดสถานะซื้อหรือขาย ระบบจะคำนวณกำไรขาดทุนแบบวันต่อวันหรือ Mark-to-Market ทุกสิ้นวันทำการ โดยปรับยอดบัญชีตามราคาปิดของสัญญา หากราคาเคลื่อนไหวตรงข้ามกับที่คาดไว้ จนหลักประกันเหลือต่ำกว่าระดับหลักประกันรักษาสภาพ ผู้ลงทุนจะได้รับการแจ้งมาร์จิ้นคอลเพื่อฝากเงินเพิ่ม หากไม่ทำตาม สถานะอาจถูกบังคับปิดโดยโบรกเกอร์เพื่อควบคุมความเสี่ยง ส่วนใหญ่สัญญาฟิวเจอร์ใน TFEX ใช้การชำระด้วยเงินสดเมื่อหมดอายุ คือคำนวณส่วนต่างราคาและชำระเป็นเงิน ไม่มีการส่งมอบสินค้าจริง ซึ่งช่วยลดความยุ่งยากในการจัดการสินค้าทางกายภาพ

## ฟิวเจอร์มีกี่ประเภท? ตัวอย่างในตลาด TFEX
ตลาด TFEX มีผลิตภัณฑ์ฟิวเจอร์หลากหลายเพื่อตอบโจทย์ทั้งการเก็งกำไรและป้องกันความเสี่ยง โดยประเภทที่ได้รับความนิยมและซื้อขายคึกคัก ได้แก่:
* **SET50 Index Futures:** สัญญาที่อ้างอิงดัชนี SET50 ซึ่งรวมหุ้น 50 ตัวที่มีมูลค่าตลาดและสภาพคล่องสูงสุดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นตัวเลือกยอดฮิตสำหรับเก็งกำไรทิศทางตลาดหุ้นไทยโดยรวม หรือป้องกันพอร์ตหุ้นขนาดใหญ่จากความผันผวน
* **Single Stock Futures:** สัญญาอ้างอิงหุ้นรายตัวเฉพาะ ช่วยให้เก็งกำไรหุ้นตัวนั้นได้โดยไม่ต้องถือหุ้นจริงเต็มจำนวน สามารถทำกำไรทั้งขาขึ้นและขาลงของหุ้นนั้นๆ อย่างยืดหยุ่น
* **Gold Futures:** อ้างอิงราคาทองคำในตลาดโลก เหมาะสำหรับนักลงทุนที่อยากลงทุนทองโดยไม่ต้องถือครองของจริง มีทั้งแบบ Gold Futures และ Gold Online Futures ที่ซื้อขายในดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้เข้าถึงตลาดทองโลกได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่ราคาทองผันผวนจากปัจจัยเศรษฐกิจโลก
* **Oil Futures:** อ้างอิงราคาน้ำมันดิบ เหมาะกับการเก็งกำไรในตลาดพลังงาน ซึ่งมักมีความผันผวนสูงจากสถานการณ์เศรษฐกิจและความขัดแย้งทางการเมือง
* **Currency Futures:** สัญญาอ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา เช่น USD Futures ที่เทียบกับค่าเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ใช้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนสำหรับผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออก หรือเก็งกำไรค่าเงินในตลาด forex
หากต้องการข้อมูลละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ฟิวเจอร์ใน TFEX รวมถึงสัญญาแต่ละประเภท สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์อย่างเป็นทางการได้ที่ TFEX Products ซึ่งอัปเดตข้อมูลล่าสุดเสมอ
## ข้อดีและข้อควรระวังของการลงทุนฟิวเจอร์
การลงทุนฟิวเจอร์นำเสนอทั้งโอกาสและข้อจำกัดที่ผู้ลงทุนควรพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อให้การตัดสินใจมีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงที่ไม่จำเป็น
### ข้อดี (優點)
* **ป้องกันความเสี่ยง (Hedging):** ฟิวเจอร์ช่วยปกป้องพอร์ตการลงทุนจากความผันผวนได้ดี เช่น ถ้าคุณถือหุ้น SET50 มูลค่า 1 ล้านบาทและกังวลว่าตลาดจะปรับฐานลง การ short SET50 Futures จะช่วยลดผลกระทบจากมูลค่าพอร์ตที่หดตัว โดยตรงกับแนวโน้มตลาดจริง
* **การเก็งกำไร (Speculation):** ด้วยเลเวอเรจ ผู้ลงทุนสามารถเก็งกำไรจากราคาที่เปลี่ยนแปลงได้ทั้งสองทิศทาง ด้วยเงินทุนที่น้อยกว่าการถือสินทรัพย์อ้างอิงโดยตรง ซึ่งเพิ่มโอกาสในการใช้ประโยชน์จากตลาดที่เคลื่อนไหวเร็ว
* **ใช้เงินลงทุนน้อยกว่า (Less Capital):** ไม่จำเป็นต้องจ่ายเต็มมูลค่าสัญญา ทำให้เข้าถึงตลาดขนาดใหญ่ได้ง่าย ส่งผลให้การใช้เงินทุนมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะสำหรับนักลงทุนรายย่อย
* **สภาพคล่องสูง (High Liquidity):** สัญญายอดนิยมมักมีสภาพคล่องดีเยี่ยม ช่วยให้เปิดหรือปิดสถานะได้รวดเร็วโดยไม่กระทบราคามากนัก ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบในตลาดที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
### ข้อควรระวังและความเสี่ยง (風險與注意事項)
* **ความเสี่ยงด้านราคา (Price Risk):** ตลาดฟิวเจอร์มีความผันผวนสูงและรวดเร็ว ราคาอาจเปลี่ยนแปลงอย่างมากในเวลาสั้นๆ นำไปสู่ขาดทุนที่รวดเร็วหากไม่มีการจัดการที่ดี
* **ความเสี่ยงด้านเลเวอเรจ (Leverage Risk):** แม้เลเวอเรจจะช่วยเพิ่มกำไร แต่ก็ขยายขาดทุนได้เช่นกัน แค่การเคลื่อนไหวผิดทางเล็กน้อยก็อาจทำให้ทุนหายไปมาก โดยเฉพาะในตลาดที่คาดเดายาก
* **ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง (Liquidity Risk):** แม้โดยรวมจะสูง แต่บางสัญญาหรือเดือนหมดอายุที่ห่างไกลอาจมีสภาพคล่องต่ำ ทำให้ยากต่อการซื้อขายหรือปิดสถานะในราคาที่ต้องการ โดยเฉพาะช่วงตลาดไม่คึกคัก
* **ข้อกำหนดเฉพาะใน TFEX:** ผู้ลงทุนไทยต้องทราบช่วงเวลาการซื้อขายของ TFEX ที่อาจต่างจากตลาดหุ้น รวมถึงการกำหนดราคาเพดานและพื้น (Ceiling & Floor) ที่จำกัดการเคลื่อนไหวรายวัน เพื่อป้องกันความผันผวนรุนแรง ซึ่งอาจทำให้เทรดไม่ได้ตามต้องการในช่วงวิกฤต
## ฟิวเจอร์ vs ออปชั่น: เลือกแบบไหนที่เหมาะกับคุณ?
ทั้งฟิวเจอร์และออปชั่นเป็นตราสารอนุพันธ์ยอดนิยม แต่มีลักษณะและกลไกที่แตกต่างกันชัดเจน การเลือกใช้ขึ้นอยู่กับเป้าหมายและระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ โดยสรุปเปรียบเทียบดังนี้:
| คุณสมบัติ | ฟิวเจอร์ (Futures) | ออปชั่น (Options) |
| :——– | :—————————————————————————— | :———————————————————————————— |
| **สิทธิ/ข้อผูกพัน** | ผู้ซื้อและผู้ขายมี “ข้อผูกพัน” ในการซื้อ/ขายสินทรัพย์อ้างอิง ณ ราคาที่ตกลงกัน | ผู้ซื้อมี “สิทธิ” แต่ไม่มีข้อผูกพัน ผู้ขายมีข้อผูกพันในการซื้อ/ขายหากผู้ซื้อใช้สิทธิ |
| **ความเสี่ยง** | ความเสี่ยงและผลตอบแทนไม่จำกัด (ขึ้นอยู่กับราคาที่เปลี่ยนแปลงไป) | ผู้ซื้อขาดทุนจำกัดที่ “พรีเมียม” ที่จ่ายไป ผู้ขายกำไรจำกัด ขาดทุนไม่จำกัด |
| **เงินลงทุน** | ต้องวาง “หลักประกัน” (Margin) | ผู้ซื้อจ่าย “พรีเมียม” ผู้ขายต้องวางหลักประกัน |
| **กลยุทธ์** | เหมาะกับการเก็งกำไรทิศทางตลาด ป้องกันความเสี่ยง | ใช้ได้ทั้งเก็งกำไร ป้องกันความเสี่ยง และสร้างรายรับจากพรีเมียม |
| **ความซับซ้อน** | ค่อนข้างตรงไปตรงมา | ซับซ้อนกว่า มีปัจจัยราคาหลายตัว เช่น ค่าความผันผวนและเวลา |
การเลือกระหว่างฟิวเจอร์กับออปชั่นจึงขึ้นกับ ระดับความรู้และประสบการณ์ ของแต่ละคน ถ้าคุณต้องการความเรียบง่ายและเน้นเก็งกำไรทิศทางตลาด ฟิวเจอร์อาจเหมาะสมกว่า แต่ถ้าพร้อมรับมือความซับซ้อนเพื่อความยืดหยุ่นในการบริหารความเสี่ยงและสร้างกลยุทธ์หลากหลาย ออปชั่นก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยเฉพาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการจำกัดความเสี่ยงขาดทุนสูงสุด
## เริ่มต้นเทรดฟิวเจอร์ในตลาด TFEX: ฉบับนักลงทุนไทย
สำหรับนักลงทุนไทยที่อยากลองเทรดฟิวเจอร์ใน TFEX ขั้นตอนและข้อควรรู้เฉพาะทางจะช่วยให้เริ่มต้นได้ราบรื่น โดยไม่สะดุดกับอุปสรรคที่ไม่คาดคิด
### ขั้นตอนการเปิดบัญชีซื้อขายฟิวเจอร์ (開戶步驟)
เริ่มจากการเลือกโบรกเกอร์หรือบริษัทหลักทรัพย์ที่ให้บริการตราสารอนุพันธ์และเป็นสมาชิก TFEX ควรพิจารณาปัจจัยหลายอย่าง เช่น ค่าธรรมเนียมที่สมเหตุสมผล แพลตฟอร์มเทรดที่ใช้งานง่ายและเสถียร การบริการลูกค้าที่ดีพร้อมข้อมูลวิเคราะห์ รวมถึงชื่อเสียงและความมั่นคงของบริษัท เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยของเงินทุน
เอกสารที่จำเป็นคล้ายกับการเปิดบัญชีหุ้น เช่น สำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน สมุดบัญชีธนาคาร และแบบฟอร์ม KYC เพื่อยืนยันตัวตนและประเมินความเหมาะสมในการลงทุน รวมถึงทดสอบความรู้เกี่ยวกับอนุพันธ์ ขั้นตอนนี้ทำได้ทั้งออนไลน์และที่สาขา โดยโบรกเกอร์จะอธิบายรายละเอียดเฉพาะของไทย เช่น การสอบความรู้ก่อนเทรดจริง ซึ่งช่วยให้ผู้เริ่มต้นเข้าใจตลาดได้ดีขึ้นตั้งแต่แรก
### TFEX 1 สัญญา ใช้เงินกี่บาท? (一張 TFEX 合約需要多少資金?)
คำถามที่มือใหม่มักสงสัยคือต้องใช้เงินเท่าไรสำหรับเทรดฟิวเจอร์ 1 สัญญา คำตอบคือไม่ต้องจ่ายเต็มมูลค่า แต่ฝากหลักประกันขั้นต้นหรือ Initial Margin ซึ่งโบรกเกอร์เรียกเก็บเพื่อครอบคลุมความเสี่ยงขาดทุน นอกจากนี้ยังมีหลักประกันรักษาสภาพหรือ Maintenance Margin เป็นระดับต่ำสุดที่ต้องรักษา หากต่ำกว่านี้จะถูกเรียก Margin Call
ตัวอย่างสำหรับ SET50 Index Futures ถ้าดัชนีอยู่ที่ 1,000 จุด และมูลค่าต่อจุด 200 บาท มูลค่าสัญญารวมคือ 200,000 บาท แต่ Initial Margin อาจแค่ 10-15% หรือประมาณ 30,000 บาท หากเป็น 15% ตัวเลขเหล่านี้อาจเปลี่ยนแปลงตามความผันผวนของตลาด สามารถตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากเว็บไซต์ TFEX หรือโบรกเกอร์เพื่อความแม่นยำ โดยเฉพาะในช่วงตลาดไม่แน่นอน
## กลยุทธ์พื้นฐานและข้อผิดพลาดที่พบบ่อยสำหรับมือใหม่
การเทรดฟิวเจอร์ต้องอาศัยกลยุทธ์ที่เหมาะสมและบทเรียนจากข้อผิดพลาด เพื่อเพิ่มโอกาสชนะและลดความสูญเสีย โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้น
### กลยุทธ์พื้นฐาน (基本策略)
* **趨勢交易 (Trend Following):** กลยุทธ์นี้มุ่งติดตามทิศทางราคาที่กำลังดำเนินไป ไม่ว่าจะขึ้นหรือลง โดยเปิดสถานะตามแนวโน้มนั้น เช่น ถ้า SET50 Index Futures กำลังขาขึ้น ก็เปิด Long เพื่อตามกระแส โดยใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคช่วยยืนยัน
* **區間交易 (Range Trading):** เหมาะกับตลาดที่ไม่มีแนวโน้มชัดเจน โดยเทรดในกรอบราคา ซื้อที่แนวรับและขายที่แนวต้าน ซึ่งช่วยให้ควบคุมความเสี่ยงได้ดีในช่วงตลาด侧向
* **Spread Trading:** ซื้อและขายสัญญาสองตัวพร้อมกัน เช่น สัญญาเดือนต่างกันของสินค้าอัพเดียวกัน หรือสินค้าที่เกี่ยวข้อง เพื่อเก็งกำไรจากส่วนต่างราคา ลดผลกระทบจากทิศทางตลาดโดยรวม และเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการความมั่นคงมากขึ้น
* **การบริหารความเสี่ยง (Risk Management):** ไม่ว่าจะใช้อะไร สิ่งสำคัญคือตั้ง Stop Loss เพื่อจำกัดขาดทุนในระดับที่ยอมรับได้ และ Take Profit เพื่อล็อกกำไร ผู้ลงทุนไทยควรปรับปริมาณเทรดให้เหมาะกับทุน และหลีกเลี่ยงเลเวอเรจสูงเกินไป โดยเริ่มจากจำลองสถานการณ์ก่อนเทรดจริง
### ข้อผิดพลาดที่พบบ่อย (常見錯誤)
ผู้เริ่มต้นในไทยมักเจอปัญหาเหล่านี้ที่นำไปสู่ขาดทุนหนัก:
* **การใช้เลเวอเรจมากเกินไป:** ใช้เงินน้อยควบคุมสัญญาใหญ่เกินตัว ทำให้ขาดทุนพุ่งสูงถ้าราคาไหลผิดทาง แม้แค่ไม่กี่จุด
* **ไม่ตั้ง Stop Loss:** ปล่อยให้ขาดทุนสะสมโดยไม่มีจุดตัด เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้พอร์ตล้างพอร์ต โดยเฉพาะเมื่อเกิดข่าวร้ายไม่คาดฝัน
* **การซื้อขายตาม “อารมณ์”:** ตัดสินใจจากความกลัว โลภ หรือตื่นตระหนก แทนที่จะยึดแผนและการวิเคราะห์ ซึ่งมักนำไปสู่การเทรดที่ขาดเหตุผล
* **ขาดความรู้ความเข้าใจ:** ไม่ศึกษาสินทรัพย์อ้างอิงหรือกลไกตลาดให้ลึกพอ ส่งผลให้ตัดสินใจผิดพลาดและคาดการณ์ไม่ได้
* **เชื่อข่าวลือ/ตามคนอื่น:** เทรดโดยไม่มีวินัยและไม่วิจัยเอง มักจบไม่สวย โดยเฉพาะจากกระทู้ใน Pantip ที่อาจมีข้อมูลผสมปนเป การตัดสินใจควรมาจากการพิจารณาของตัวเองเสมอ
* **การมองข้ามค่าธรรมเนียม:** ค่าธรรมเนียมดูน้อยแต่สะสมได้มาก โดยเฉพาะถ้าเทรดบ่อย ซึ่งกัดกินกำไรโดยไม่รู้ตัว
## ฟิวเจอร์ต่างประเทศ (เช่น Dow Jones Futures) เกี่ยวข้องกับนักลงทุนไทยอย่างไร?
แม้ผู้ลงทุนไทยส่วนใหญ่จะเริ่มที่ TFEX แต่การติดตามฟิวเจอร์ต่างประเทศอย่าง Dow Jones Futures หรือดัชนีฟิวเจอร์ตลาดใหญ่ทั่วโลก ก็สำคัญมากเพราะตลาดเชื่อมโยงกันอย่างแนบแน่น
Dow Jones Futures อ้างอิงดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ของสหรัฐฯ เป็นตัวบ่งชี้แนวโน้มเศรษฐกิจโลกและตลาดหุ้นโดยรวม การเคลื่อนไหวในช่วงตลาดเอเชีย มักกระทบดัชนีอื่นๆ และตลาดหุ้นไทย เช่น ถ้า Dow Jones Futures ตกหนักตอนกลางคืน SET Index อาจเปิดแดนลบในวันรุ่งขึ้น โดยเฉพาะจากปัจจัยอย่างการประชุม Fed หรือความตึงเครียดภูมิรัฐศาสตร์ที่ส่งผลก่อน
นักลงทุนไทยใช้ข้อมูลเหล่านี้ประเมินทิศทางวันถัดไป หรือปรับพอร์ตในประเทศได้ ปัจจุบัน บางคนเทรดฟิวเจอร์ต่างประเทศผ่านโบรกเกอร์ที่ได้รับอนุญาตหรือแพลตฟอร์มสากล ซึ่งช่วยให้มองภาพรวมกว้างขึ้นและบริหารความเสี่ยงได้ดีกว่า โดยเฉพาะในยุคที่เศรษฐกิจโลกผันผวนสูง
## บทสรุป: ฟิวเจอร์เป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง หากเข้าใจและใช้เป็น
ฟิวเจอร์คือเครื่องมือทางการเงินที่เปิดโอกาสทำกำไรและป้องกันความเสี่ยงได้มหาศาล แต่ก็มีความเสี่ยงสูงตามมา สิ่งสำคัญคือความรู้ที่ลึกซึ้ง วินัยในการเทรด และการบริหารความเสี่ยงที่เข้มงวด สำหรับนักลงทุนไทย TFEX มีผลิตภัณฑ์หลากหลายและเข้าถึงง่าย แต่ต้องศึกษาอย่างละเอียดและเริ่มต้นด้วยความระมัดระวัง หากเข้าใจและนำไปใช้ถูกต้อง ฟิวเจอร์จะกลายเป็นอาวุธทรงพลังที่ยกระดับพอร์ตของคุณได้จริงๆ จงเรียนรู้ ทดลองด้วยเงินน้อย และเติบโตไปกับตลาดอย่างมีสติ
## คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับฟิวเจอร์ (FAQs)
1. เริ่มต้นเทรดฟิวเจอร์ TFEX ต้องทำอย่างไรบ้าง?
คุณต้องเปิดบัญชีซื้อขายอนุพันธ์กับโบรกเกอร์ที่เป็นสมาชิกของ TFEX (Thailand Futures Exchange) โดยเตรียมเอกสารส่วนตัว เช่น บัตรประชาชน และกรอกแบบฟอร์มประเมินความเสี่ยง หลังจากนั้นจึงจะสามารถฝากเงินหลักประกันและเริ่มซื้อขายได้
2. TFEX 1 สัญญา ใช้เงินลงทุนขั้นต่ำกี่บาท?
ไม่ได้ใช้เงินเต็มมูลค่าสัญญา แต่ต้องวาง “หลักประกันขั้นต้น” (Initial Margin) ซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละผลิตภัณฑ์และมีการปรับเปลี่ยนได้ โดยทั่วไปสำหรับ SET50 Index Futures อาจอยู่ที่ประมาณ 10-15% ของมูลค่าสัญญา ตัวเลขที่แน่นอนสามารถตรวจสอบได้จากเว็บไซต์ TFEX หรือโบรกเกอร์ของคุณ
3. ฟิวเจอร์กับออปชั่น ต่างกันอย่างไร และควรเลือกแบบไหนดี?
ฟิวเจอร์มีข้อผูกพันทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย และมีความเสี่ยง/ผลตอบแทนไม่จำกัด ส่วนออปชั่น ผู้ซื้อมีสิทธิแต่ไม่มีข้อผูกพัน และขาดทุนจำกัดที่พรีเมียมที่จ่ายไป การเลือกขึ้นอยู่กับเป้าหมายการลงทุนและระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ออปชั่นมีความยืดหยุ่นกว่า แต่ซับซ้อนกว่าฟิวเจอร์
4. มือใหม่เทรดฟิวเจอร์ ควรระวังข้อผิดพลาดอะไรบ้าง?
มือใหม่ควรระวังการใช้เลเวอเรจที่มากเกินไป การไม่ตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) การซื้อขายตามอารมณ์ และการขาดความรู้ความเข้าใจในผลิตภัณฑ์ ควรเริ่มต้นด้วยเงินจำนวนน้อยและเรียนรู้จากประสบการณ์
5. ดาวโจนส์ฟิวเจอร์คืออะไร และมีผลกับตลาดหุ้นไทยอย่างไร?
ดาวโจนส์ฟิวเจอร์คือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดเศรษฐกิจโลก การเคลื่อนไหวของดาวโจนส์ฟิวเจอร์มักส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงตลาดหุ้นไทย โดยใช้เป็นสัญญาณบ่งบอกทิศทางตลาดในวันถัดไปได้
6. การคำนวณกำไรขาดทุนจากการเทรดฟิวเจอร์ทำอย่างไร?
กำไรขาดทุนจะคำนวณจากส่วนต่างของราคาที่เปิดสถานะกับราคาปิดสถานะ (หรือราคา Mark-to-Market ในแต่ละวัน) คูณด้วยมูลค่าต่อจุดของสัญญา และอาจมีการหักค่าธรรมเนียมและภาษี ตัวอย่างเช่น หาก SET50 Futures 1 สัญญามีมูลค่า 200 บาทต่อจุด และคุณซื้อที่ 1,000 จุด แล้วขายที่ 1,010 จุด คุณจะได้กำไร (1010-1000) * 200 = 2,000 บาท (ก่อนหักค่าธรรมเนียม)
7. จะหาโบรกเกอร์ (บริษัทหลักทรัพย์) ที่ดีสำหรับเทรดฟิวเจอร์ในไทยได้อย่างไร?
ควรพิจารณาจาก:
- ค่าธรรมเนียมการซื้อขายที่เหมาะสม
- แพลตฟอร์มการเทรดที่ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพ
- การบริการลูกค้าและความช่วยเหลือด้านข้อมูล
- ความน่าเชื่อถือและมั่นคงของบริษัท
- มีบทวิเคราะห์หรือสัมมนาให้ความรู้หรือไม่
การเปรียบเทียบข้อมูลจากหลายๆ โบรกเกอร์จะช่วยให้คุณเลือกได้เหมาะสมที่สุด
8. ฟิวเจอร์มีข้อดีและข้อเสียอะไรบ้าง เมื่อเทียบกับการลงทุนหุ้น?
ข้อดี: ใช้เงินลงทุนน้อยกว่า (เลเวอเรจ), ทำกำไรได้ทั้งตลาดขาขึ้นและขาลง, ป้องกันความเสี่ยงพอร์ตหุ้นได้ ข้อเสีย: ความเสี่ยงสูงกว่าเนื่องจากเลเวอเรจที่ขยายผลขาดทุน, มีวันหมดอายุของสัญญา, ต้องวางหลักประกันและอาจถูกเรียก Margin Call
9. สามารถเทรดฟิวเจอร์ทองคำหรือน้ำมันใน TFEX ได้หรือไม่?
ได้ครับ TFEX มีผลิตภัณฑ์ Gold Futures (อ้างอิงราคาทองคำในประเทศ) และ Gold Online Futures (อ้างอิงราคาทองคำต่างประเทศในสกุล USD) รวมถึง Oil Futures ที่อ้างอิงราคาน้ำมันดิบ คุณสามารถตรวจสอบรายละเอียดและหลักประกันของผลิตภัณฑ์เหล่านี้ได้ที่เว็บไซต์ TFEX
10. หากถูกเรียก Margin Call ต้องทำอย่างไร?
หากถูกเรียก Margin Call คุณมีสองทางเลือก:
- ฝากเงินเพิ่ม: เพื่อเพิ่มหลักประกันให้กลับมาอยู่ในระดับที่กำหนดและรักษาสถานะไว้
- ปิดสถานะบางส่วนหรือทั้งหมด: เพื่อลดภาระหลักประกัน หากไม่ดำเนินการภายในเวลาที่กำหนด โบรกเกอร์อาจบังคับปิดสถานะของคุณได้ ซึ่งอาจทำให้ขาดทุนอย่างมาก