BRICS คืออะไร? เจาะลึก 10 ประเทศสมาชิกใหม่ โอกาสและความท้าทายของไทยในเวทีโลก

## BRICS คืออะไร? ทำความเข้าใจกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่

กลุ่ม BRICS เกิดขึ้นเพื่อรวมพลังประเทศเศรษฐกิจที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมุ่งเน้นการสร้างความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการเมือง เพื่อปรับสมดุลอำนาจในเวทีโลกที่เคยถูกครอบงำโดยชาติตะวันตก ในช่วงปีที่ผ่านมา กลุ่มนี้ได้ขยายตัวอย่างเห็นได้ชัด จนดึงดูดความสนใจจากนานาประเทศ รวมถึงประเทศไทยที่กำลังติดตามโอกาสและอุปสรรคที่อาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงนี้ บทความนี้จะนำเสนอที่มา เป้าหมาย สมาชิก และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความสำคัญของ BRICS ต่อประเทศไทยในยุคสมัยใหม่

ภาพประกอบของชาติหลากหลายที่รวมตัวเป็นกลุ่มเศรษฐกิจทรงพลัง ท้าทายบรรทัดฐานโลกในสไตล์ภาพวาด

BRICS คือเวทีที่เชื่อมโยงประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่และมีศักยภาพสูง เพื่อสร้างความสมดุลทางเศรษฐกิจและอิทธิพลระดับโลก โดยเน้นการพัฒนาร่วมกันและลดการพึ่งพาระบบเก่าๆ ที่ไม่เท่าเทียม

### BRICS ย่อมาจากอะไร? ความหมายและจุดเริ่มต้น

ชื่อ BRICS มาจากตัวอักษรย่อของประเทศสมาชิกหลัก ได้แก่ บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ แนวคิดนี้ถูกนำเสนอครั้งแรกในปี 2001 โดย จิม โอนีลล์ นักเศรษฐศาสตร์จากโกลด์แมน แซคส์ ผู้มองเห็นโอกาสการเติบโตที่โดดเด่นของประเทศเหล่านี้ และคาดการณ์ว่าพวกเขาจะมีบทบาทนำในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก

จากแนวคิดทางวิชาการและการวิเคราะห์เศรษฐกิจในช่วงแรกๆ กลุ่มนี้ค่อยๆ พัฒนาเป็นการประชุมอย่างเป็นทางการระหว่างรัฐบาลในปี 2009 ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนที่บ่งบอกถึงการปรับโครงสร้างอำนาจเศรษฐกิจโลกให้กว้างขึ้น โดยเฉพาะในมุมมองของประเทศกำลังพัฒนา

### จาก BRIC สู่ BRICS: การเข้าร่วมของแอฟริกาใต้

เดิมที กลุ่มเริ่มต้นด้วยสี่ประเทศคือ BRIC ก่อนที่แอฟริกาใต้จะได้รับเชิญเข้าร่วมอย่างเป็นทางการในเดือนธันวาคม 2010 และเข้าร่วมการประชุมสุดยอดครั้งแรกในเดือนเมษายน 2011 ทำให้กลายเป็น BRICS ที่สมบูรณ์แบบ การเพิ่มแอฟริกาใต้ไม่เพียงขยายจำนวนสมาชิกเป็นห้าประเทศ แต่ยังนำตัวแทนจากทวีปแอฟริกามาเสริม ซึ่งช่วยยืนยันบทบาทของกลุ่มในการเป็นกระบอกเสียงให้กับซีกโลกใต้ และครอบคลุมภูมิภาคสำคัญทั่วโลกราวกับการเชื่อมโยงมหาทวีปเข้าด้วยกัน

ภาพประกอบแผนที่โลกที่เชื่อมโยงเศรษฐกิจกำลังเติบโต สื่อถึงสมดุลอำนาจโลกในสไตล์ภาพวาด

## BRICS มีประเทศอะไรบ้าง? การขยายตัวล่าสุดและสมาชิกใหม่

BRICS ได้รับการยอมรับว่าเป็นพลังสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก ด้วยสมาชิกที่หลากหลายทั้งด้านภูมิศาสตร์และศักยภาพเศรษฐกิจ ซึ่งช่วยให้กลุ่มนี้มีน้ำหนักมากขึ้นในการตัดสินใจระดับนานาชาติ

### สมาชิกดั้งเดิมทั้ง 5 ประเทศ

ประเทศสมาชิกหลักห้าประเทศมีบทบาทเด่นชัดในเวทีโลก ดังนี้

* **บราซิล:** ประเทศที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาใต้ ขับเคลื่อนด้วยทรัพยากรธรรมชาติ การเกษตร และอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่ง
* **รัสเซีย:** ประเทศกว้างใหญ่ที่สุดในโลก เป็นผู้ผลิตพลังงานหลัก และมีอิทธิพลทางภูมิรัฐศาสตร์ที่โดดเด่น
* **อินเดีย:** ประชากรมากที่สุดในโลก เศรษฐกิจเติบโตเร็ว เน้นบริการ เทคโนโลยี และอุตสาหกรรมที่หลากหลาย
* **จีน:** เศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลก และเป็นยักษ์ใหญ่ด้านการค้าและการผลิตระดับโลก
* **แอฟริกาใต้:** เศรษฐกิจพัฒนาที่สุดในแอฟริกา ทำหน้าที่เป็นประตูสู่อาณาจักรตลาดที่กำลังขยายตัวในทวีปนี้

ภาพประกอบธงชาติบราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ที่รวมตัวเป็นกลุ่มที่เป็นเอกภาพในสไตล์ภาพวาด

### คลื่นลูกใหม่: ประเทศสมาชิก BRICS ที่เพิ่มเข้ามา

การขยายตัวครั้งใหญ่เกิดขึ้นในปี 2023 ระหว่างการประชุมสุดยอดครั้งที่ 15 ในเมืองโจฮันเนสเบิร์ก แอฟริกาใต้ โดยประกาศเชิญหกประเทศใหม่ ซึ่งแสดงถึงความตั้งใจของ BRICS ในการแผ่อิทธิพลและเป็นตัวแทนเศรษฐกิจเกิดใหม่อย่างครอบคลุมยิ่งขึ้น

นับจากวันที่ 1 มกราคม 2024 สมาชิก BRICS เพิ่มเป็น 10 ประเทศ ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อียิปต์ เอธิโอเปีย และอิหร่าน เดิมทีอาร์เจนตินาก็ได้รับเชิญ แต่รัฐบาลใหม่ตัดสินใจถอนตัว การเพิ่มสมาชิกใหม่จากตะวันออกกลางและแอฟริกาช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ BRICS ในฐานะผู้เล่นหลักบนเวทีโลก โดยเฉพาะในการเจรจาประเด็นสำคัญ เช่น พลังงานและการพัฒนาที่ยั่งยืน

## วัตถุประสงค์หลักของ BRICS คืออะไร? เป้าหมายที่ขับเคลื่อนกลุ่ม

BRICS ไม่ใช่แค่การรวมตัวของยักษ์ใหญ่เศรษฐกิจ แต่เป็นแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วยกลยุทธ์กว้างไกล ครอบคลุมเศรษฐกิจ การเงิน และการเมืองระหว่างประเทศ เพื่อสร้างอนาคตที่เท่าเทียมมากขึ้น

### การส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้า

เป้าหมายหลักคือการกระชับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างสมาชิก เช่น เพิ่มปริมาณการค้าข้ามพรมแดน การลงทุนต่างประเทศ และโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดยักษ์ เพื่อลดการพึ่งพาประเทศร่ำรวยและสร้างห่วงโซ่อุปทานที่ยั่งยืน

เพื่อให้เกิดผลจริง BRICS ได้ก่อตั้งธนาคารเพื่อการพัฒนาใหม่ หรือ NDB ในปี 2014 ซึ่งมีหน้าที่ระดมทุนสำหรับโครงสร้างพื้นฐานและโครงการพัฒนาที่ยั่งยืนในสมาชิกและประเทศเกิดใหม่อื่นๆ NDB ทำหน้าที่เป็นทางเลือกนอกกรอบให้กับสถาบันเก่าแก่ เช่น ธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ธนาคารเพื่อการพัฒนาใหม่ (NDB) ได้ให้เงินสนับสนุนโครงการต่างๆ ในสมาชิก มูลค่ารวมหลายหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งช่วยเร่งการพัฒนาในพื้นที่ที่ขาดแคลนทุน

### ท้าทายระเบียบโลกเก่าและสร้างสมดุลอำนาจ

BRICS วางตัวท้าทายระบบโลกที่ถูกครอบงำโดยตะวันตก โดยเฉพาะ G7 และสถาบันหลังสงครามโลกครั้งที่สอง กลุ่มนี้มองว่าระบบปัจจุบันไม่สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจจริง และผลักดันให้เกิดโลกหลายขั้วที่ให้เสียงแก่ประเทศกำลังพัฒนาและซีกโลกใต้มากขึ้น โดยเฉพาะการปฏิรูประบบธรรมาภิบาลโลก เพื่อเพิ่มตัวแทนที่หลากหลายในองค์กรอย่างสหประชาชาติและสถาบันการเงินนานาชาติ

### สกุลเงิน BRICS: ความพยายามลดการพึ่งพิงเงินดอลลาร์สหรัฐฯ

อีกประเด็นที่กำลังร้อนแรงคือการลดการพึ่งพาดอลลาร์สหรัฐในการค้าและการเงิน หรือที่รู้จักในชื่อการลดการใช้ดอลลาร์ สมาชิก BRICS กำลังทดลองใช้สกุลเงินท้องถิ่นในการชำระเงินระหว่างกัน และบางส่วนเสนอไอเดียสร้างสกุลเงินร่วมสำหรับการค้าระหว่างประเทศ ความเคลื่อนไหวนี้น่าจับตามอง เพราะอาจสั่นคลอนระบบการเงินโลกและสถานะของดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินสำรองหลัก

สำหรับประเทศไทยและประเทศเศรษฐกิจเปิดขนาดกลาง การเปลี่ยนแปลงนี้เปิดโอกาสกระจายความเสี่ยงด้านสกุลเงินและลดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม แต่ในระยะสั้นก็อาจนำมาซึ่งความผันผวนและความไม่แน่นอนที่ต้องเตรียมรับมือ โดยเฉพาะในบริบทของการค้าที่เชื่อมโยงกับจีนและอินเดียซึ่งเป็นสมาชิกหลัก

## BRICS กับประเทศไทย: โอกาสและความท้าทายในเวทีโลก

ขณะที่ BRICS กำลังแผ่อิทธิพลกว้างขึ้น ประเทศไทยในฐานะเศรษฐกิจเกิดใหม่ชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก็กำลังชั่งน้ำหนักจุดยืนและความสัมพันธ์กับกลุ่มนี้อย่างละเอียดถี่ถ้วน เพื่อให้สอดคล้องกับผลประโยชน์ระยะยาว

### สถานะของไทยในฐานะ “ประเทศคู่ค้า BRICS”

ตอนนี้ ประเทศไทยยังไม่ใช่สมาชิกเต็มรูปแบบของ BRICS แต่กระทรวงการต่างประเทศไทยแสดงความสนใจอย่างต่อเนื่องในการกระชับความสัมพันธ์ในฐานะประเทศคู่ค้าหรือผู้สังเกตการณ์ สถานะนี้ช่วยให้ไทยเข้าร่วมประชุมบางส่วนและกิจกรรมความร่วมมือ โดยไม่ต้องแบกรับพันธะหนักหน่วงเหมือนสมาชิกหลัก

ล่าสุด ไทยได้ยื่นจดหมายแสดงเจตจำนงเพื่อสมัครเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการ โดยนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน เน้นย้ำถึงศักยภาพของไทยในการเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม โดยเฉพาะประโยชน์ทางเศรษฐกิจและการเมือง การเป็นผู้สังเกตการณ์ช่วยให้ไทยติดตามพัฒนาการของ BRICS อย่างใกล้ชิด และประเมินผลกระทบก่อนก้าวสู่ระดับที่ลึกซึ้งกว่า

### ทำไมไทยต้องเข้าร่วม BRICS? การวิเคราะห์เชิงลึก

การเป็นส่วนหนึ่งของ BRICS อาจนำพาประโยชน์มากมายมาสู่ไทย ดังนี้

* **ขยายตลาดการค้าและการลงทุน:** ด้วยขนาดเศรษฐกิจรวมมหาศาลและประชากรจำนวนมาก การเข้าร่วมจะช่วยให้สินค้าไทยเข้าถึงตลาดเหล่านี้ได้สะดวกขึ้น และดึงดูดเงินลงทุนจากสมาชิก
* **การเข้าถึงแหล่งเงินทุนโครงสร้างพื้นฐาน:** NDB เป็นแหล่งทุนสำคัญสำหรับโครงการใหญ่ หากไทยเข้าร่วม จะได้รับการสนับสนุนทางการเงินสำหรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เร่งด่วน
* **เพิ่มอำนาจต่อรองในเวทีโลก:** การยืนเคียงข้างซีกโลกใต้จะช่วยเสริมเสียงของไทยในประเด็นโลก เช่น การรับมือสภาพภูมิอากาศ การปฏิรูประบบค้า และการเงินนานาชาติ
* **กระจายความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ:** ลดการพึ่งพาตลาดและสกุลเงินหลักไม่กี่แห่ง จะทำให้เศรษฐกิจไทยยืดหยุ่นและมั่นคงยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในยุคที่การค้าทั่วโลกผันผวนจากปัจจัยต่างๆ เช่น สงครามการค้า

### ความท้าทายและข้อควรพิจารณาสำหรับประเทศไทย

แต่การก้าวเข้า BRICS ก็มีอุปสรรคที่ต้องคำนึง

* **ความสมดุลกับพันธมิตรดั้งเดิม:** ไทยมีสายสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับตะวันตกและเพื่อนบ้านในภูมิภาค การเข้าร่วมอาจก่อให้เกิดความกังวลจากฝ่ายเหล่านี้ ดังนั้นไทยต้องรักษาสมดุลทางการทูตอย่างชาญฉลาด
* **ความแตกต่างทางผลประโยชน์ภายในกลุ่ม:** แม้มีเป้าหมายร่วม แต่สมาชิกแต่ละแห่งมีมุมมองภูมิรัฐศาสตร์และผลประโยชน์ส่วนตัว ไทยอาจต้องต่อสู้เพื่อผลักดันวาระของตนในกลุ่มที่หลากหลายนี้
* **ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์:** การเอนเอียงไปทางกลุ่มที่ท้าทายระบบโลก อาจเปิดช่องให้ไทยเผชิญความขัดแย้งที่รุนแรงขึ้นในเวทีระหว่างประเทศ
* **ผลกระทบต่อระบบการเงิน:** การลดดอลลาร์มีข้อดี แต่การเปลี่ยนสู่ระบบใหม่ๆ อาจสร้างความไม่แน่นอนและกระทบเสถียรภาพการเงินไทยในเบื้องต้น โดยเฉพาะหากเกิดความผันผวนในอัตราแลกเปลี่ยน

ไทยจึงต้องชั่งน้ำหนักผลได้ผลเสียอย่างรอบคอบ โดยยึดหลักนโยบายต่างประเทศที่เป็นกลางและยืดหยุ่น ซึ่งเป็นจุดแข็งของไทยมาช้านาน

## อนาคตของ BRICS และบทบาทของประเทศไทย

BRICS กำลังเข้าสู่ยุคขยายตัวที่เข้มข้นยิ่งขึ้น ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอำนาจโลก การสร้างสมดุลทางเศรษฐกิจและการเมือง รวมถึงการทดลองทางเลือกใหม่ในระบบการเงิน จะยังคงเป็นแกนกลางของกลุ่มนี้ โดยเฉพาะเมื่อสมาชิกใหม่ช่วยเสริมบทบาทในประเด็นพลังงานและการพัฒนา

สำหรับไทย การตัดสินใจเรื่อง BRICS เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ใหญ่ในการปรับตัวสู่โลกหลายขั้ว ไทยมีโอกาสใช้ความร่วมมือนี้ขับเคลื่อนการเติบโต เพิ่มน้ำหนักในเวทีโลก และกระจายความเสี่ยง แต่ต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวัง เพื่อรักษาสมดุลกับพันธมิตรเก่าและปกป้องผลประโยชน์ชาติในระยะยาว โดยอาจเริ่มจากสถานะผู้สังเกตการณ์เพื่อทดสอบน้ำก่อน

## คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ BRICS (FAQs)

BRICS คืออะไร และมีประเทศสมาชิกใดบ้างในปัจจุบัน?

BRICS คือกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนา โดยชื่อย่อมาจากชื่อประเทศสมาชิกดั้งเดิม ได้แก่ บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้

ณ ปี 2024 สมาชิก BRICS มีทั้งหมด 10 ประเทศ ได้แก่ บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน แอฟริกาใต้ ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อียิปต์ เอธิโอเปีย และอิหร่าน

ประเทศไทยเป็นสมาชิก BRICS หรือไม่? ถ้าไม่ แล้วมีความสัมพันธ์อย่างไรกับ BRICS?

ปัจจุบันประเทศไทยยังไม่ได้เป็นสมาชิกเต็มตัวของ BRICS แต่ได้แสดงเจตจำนงที่จะเข้าร่วม และมีความสัมพันธ์ในฐานะ “ผู้สังเกตการณ์” หรือ “ประเทศคู่ค้า” ซึ่งช่วยให้ไทยสามารถเข้าร่วมการประชุมและกิจกรรมบางส่วนเพื่อศึกษาโอกาสและความร่วมมือ

ทำไม BRICS ถึงมีการขยายตัว และประเทศสมาชิกใหม่มีความสำคัญอย่างไร?

BRICS ขยายตัวเพื่อเพิ่มอิทธิพลและเป็นตัวแทนของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ในวงกว้างขึ้น สมาชิกใหม่ โดยเฉพาะจากตะวันออกกลางและแอฟริกา ช่วยเพิ่มความหลากหลายทางภูมิศาสตร์ เศรษฐกิจ และเสริมสร้างบทบาทของ BRICS ในการสร้างสมดุลอำนาจโลก

วัตถุประสงค์หลักของ BRICS คืออะไร และแตกต่างจากกลุ่ม G7 หรือ G20 อย่างไร?

วัตถุประสงค์หลักของ BRICS คือการส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และท้าทายระเบียบโลกที่นำโดยชาติตะวันตก เพื่อสร้างโลกหลายขั้วที่มีความสมดุลอำนาจมากขึ้น

BRICS แตกต่างจาก G7 ตรงที่ G7 เป็นกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำที่เน้นเศรษฐกิจพัฒนาแล้ว ในขณะที่ BRICS เป็นกลุ่มเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่มุ่งเน้นการปฏิรูประบบโลก G20 เป็นเวทีที่กว้างกว่า โดยรวมทั้งประเทศพัฒนาแล้วและเศรษฐกิจเกิดใหม่เข้าด้วยกัน

ธนาคารเพื่อการพัฒนาใหม่ (NDB) คืออะไร และมีบทบาทอย่างไรในกลุ่ม BRICS?

ธนาคารเพื่อการพัฒนาใหม่ (NDB) คือสถาบันการเงินที่ก่อตั้งโดย BRICS เพื่อระดมทรัพยากรสำหรับโครงการโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาที่ยั่งยืนในประเทศสมาชิกและประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่อื่นๆ มีบทบาทเป็นทางเลือกให้กับสถาบันการเงินแบบดั้งเดิม เช่น ธนาคารโลก

BRICS มีความพยายามสร้างสกุลเงินร่วมหรือไม่? หากมี จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างไร?

BRICS กำลังสำรวจแนวทางในการลดการพึ่งพิงเงินดอลลาร์สหรัฐฯ รวมถึงการใช้สกุลเงินท้องถิ่นในการค้า และมีแนวคิดที่จะสร้างสกุลเงินร่วม

สำหรับเศรษฐกิจไทย การเปลี่ยนแปลงนี้อาจนำมาซึ่งโอกาสในการกระจายความเสี่ยงและลดต้นทุนการทำธุรกรรม แต่ก็อาจเผชิญกับความผันผวนและความไม่แน่นอนในช่วงเปลี่ยนผ่านของระบบการเงินโลก

การเข้าร่วมเป็นสมาชิก BRICS มีประโยชน์และความท้าทายอะไรบ้างสำหรับประเทศไทย?

ประโยชน์: ขยายตลาดการค้าและการลงทุน, เข้าถึงแหล่งเงินทุนจาก NDB, เพิ่มอำนาจต่อรองในเวทีโลก, กระจายความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ

ความท้าทาย: ความสมดุลกับพันธมิตรดั้งเดิม, ความแตกต่างทางผลประโยชน์ภายในกลุ่ม, ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์

BRICS จะส่งผลต่อการค้าและการลงทุนของไทยในอนาคตอย่างไร?

หากไทยมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับ BRICS หรือเข้าร่วมเป็นสมาชิก อาจช่วยเพิ่มโอกาสในการส่งออกสินค้าไทยไปยังตลาดขนาดใหญ่ของ BRICS และดึงดูดการลงทุนจากประเทศเหล่านั้น นอกจากนี้ยังอาจช่วยลดการพึ่งพาตลาดการค้าแบบดั้งเดิมและสร้างความหลากหลายให้กับคู่ค้าของไทย

ประเทศไทยควรพิจารณาเข้าร่วม BRICS อย่างเป็นทางการหรือไม่? มีปัจจัยอะไรบ้างที่ต้องพิจารณา?

การพิจารณาเข้าร่วม BRICS อย่างเป็นทางการนั้นซับซ้อนและต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย ได้แก่:

  • ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่ชัดเจน เช่น โอกาสทางการค้าและการลงทุน
  • ความเข้ากันได้กับนโยบายต่างประเทศแบบเป็นกลางของไทย
  • ผลกระทบต่อความสัมพันธ์กับพันธมิตรปัจจุบัน
  • ศักยภาพในการมีบทบาทและอิทธิพลภายในกลุ่ม BRICS
  • ความพร้อมของเศรษฐกิจไทยในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้น

BRICS มีอิทธิพลต่อความสมดุลของอำนาจในเวทีโลกอย่างไร และไทยควรวางตัวอย่างไร?

BRICS มีอิทธิพลในการสร้างโลกหลายขั้ว โดยท้าทายระเบียบโลกที่นำโดยชาติตะวันตก และเพิ่มเสียงของซีกโลกใต้

ไทยควรวางตัวอย่างชาญฉลาด โดยใช้ประโยชน์จากการเป็นประเทศที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกฝ่าย (omni-directional foreign policy) เพื่อสร้างความสมดุลและรักษาผลประโยชน์ของตนเอง โดยไม่ผูกมัดตัวเองกับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งจนเกินไป แต่ก็เปิดรับโอกาสความร่วมมือกับทุกฝ่าย

More From Author

การว่างงานคืออะไร 5 ผลกระทบสำคัญต่อเศรษฐกิจไทยและชีวิตคุณที่ต้องรู้

ราคาทองคําวันนี้ 22 ธันวาคม 2566: อัปเดตล่าสุด ปรับลด 50 บาท! วิเคราะห์แนวโน้มปี 2567 ควรซื้อหรือขายดี?

發佈留言