berkshire hathaway คือ อาณาจักรแห่ง Value Investing และมรดกที่ยั่งยืนของ Warren Buffett

Berkshire Hathaway: อาณาจักรแห่ง Value Investing และมรดกที่ยั่งยืนของ Warren Buffett

ในโลกของการลงทุน ชื่อของ Berkshire Hathaway Inc. ไม่ได้เป็นเพียงแค่บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ แต่เป็นสัญลักษณ์ของปรัชญาการลงทุนอันชาญฉลาดและอาณาจักรทางธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งสร้างสรรค์และหล่อหลอมโดยนักลงทุนระดับโลกอย่าง Warren Buffett สำหรับนักลงทุนมือใหม่และผู้ที่ต้องการทำความเข้าใจการเคลื่อนไหวของตลาดอย่างลึกซึ้ง การศึกษา Berkshire Hathaway เปรียบเสมือนการเปิดตำราวิชาการด้านการลงทุนที่เต็มไปด้วยบทเรียนอันล้ำค่า

บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกเข้าไปในแก่นแท้ของ Berkshire Hathaway ตั้งแต่โครงสร้างธุรกิจที่หลากหลาย ปรัชญาการลงทุนเน้นคุณค่า (Value Investing) ที่เป็นเอกลักษณ์ ไปจนถึงความแข็งแกร่งทางการเงิน และแผนการสืบทอดตำแหน่งผู้นำที่มั่นคง เพื่อให้คุณเห็นภาพรวมและเข้าใจว่าทำไมบริษัทแห่งนี้จึงยังคงเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่มองหาคุณค่าที่แท้จริงและความยั่งยืนในระยะยาว

คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่า Berkshire Hathaway แท้จริงแล้วคืออะไร? หลายคนอาจรู้จักในฐานะบริษัทที่ Warren Buffett เป็นผู้นำ แต่แท้จริงแล้ว Berkshire Hathaway คือ บริษัทโฮลดิ้ง ขนาดใหญ่ที่มีการดำเนินงานที่แตกต่างกันอย่างมากกับบริษัทลงทุนทั่วไป ในฐานะบริษัทโฮลดิ้ง Berkshire Hathaway เป็นเจ้าของและบริหารจัดการธุรกิจในเครือจำนวนมาก ซึ่งครอบคลุมอุตสาหกรรมที่หลากหลายอย่างเหลือเชื่อ

ลองนึกภาพบริษัทที่ไม่ได้ทำธุรกิจเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเจ้าของและควบคุมบริษัทลูกจำนวนมาก เหมือนเป็นจิ๊กซอว์ขนาดใหญ่ที่แต่ละชิ้นส่วนล้วนสร้างรายได้และผลกำไรในแบบของตัวเอง ธุรกิจหลักของ Berkshire Hathaway ครอบคลุมภาคส่วนสำคัญของเศรษฐกิจโลก ตั้งแต่

• ธุรกิจประกันภัย: นี่คือหัวใจสำคัญและเป็นรากฐานทางการเงินที่แข็งแกร่งที่สุดของ Berkshire Hathaway นำโดยบริษัทอย่าง GEICO, Berkshire Hathaway Reinsurance Group และ Berkshire Hathaway Primary Group ซึ่งสร้าง “float” หรือเงินสดที่ได้รับจากเบี้ยประกันแต่ยังไม่ได้จ่ายค่าสินไหมทดแทน ทำให้ Berkshire Hathaway มีเงินทุนมหาศาลสำหรับนำไปลงทุนต่อ
• ธุรกิจขนส่งสินค้า: คุณคงเคยได้ยินชื่อ BNSF Railway ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทรถไฟขนส่งสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา เป็นเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงการค้าและอุตสาหกรรมทั่วประเทศ
• ธุรกิจสาธารณูปโภคและพลังงาน: ภายใต้ชื่อ Berkshire Hathaway Energy พวกเขามีบทบาทสำคัญในการผลิตและจ่ายกระแสไฟฟ้า ก๊าซธรรมชาติ และพลังงานหมุนเวียนให้แก่ผู้คนนับล้าน
• การผลิต, บริการ และค้าปลีก: นี่คือกลุ่มธุรกิจที่กว้างขวางและมีรายได้สูงอย่างน่าประหลาดใจ ครอบคลุมแบรนด์ที่เราคุ้นเคยและไม่คุ้นเคยอีกมากมาย เช่น Duracell (แบตเตอรี่), Dairy Queen (ไอศกรีม), Fruit of the Loom (เสื้อผ้า), Helzberg Diamonds (เครื่องเพชร), McLane Company (บริการค้าส่งอาหาร), และบริษัทอื่นๆ อีกนับไม่ถ้วนที่ผลิตสินค้าและให้บริการในชีวิตประจำวันของเรา

ความหลากหลายของธุรกิจเหล่านี้ทำให้ Berkshire Hathaway มีรากฐานรายได้ที่มั่นคงและกระจายความเสี่ยงได้ดี รายได้มหาศาลที่บริษัทสร้างขึ้นนั้นไม่ได้มาจากแค่การลงทุนในหุ้นที่หลายคนคุ้นเคย แต่มาจากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของบริษัทในเครือเหล่านี้ต่างหาก

เจาะลึกธุรกิจหลัก: รากฐานรายได้ที่แข็งแกร่งเกินกว่าแค่การลงทุน

บ่อยครั้งที่เรามอง Berkshire Hathaway ในฐานะบริษัทลงทุนที่นำโดยปรมาจารย์อย่าง Warren Buffett แต่หากพิจารณารายได้ของบริษัทอย่างละเอียด คุณจะพบภาพที่น่าสนใจและอาจทำให้คุณประหลาดใจได้ไม่น้อย จริงอยู่ว่าการลงทุนในตลาดหุ้นสร้างผลกำไรที่หวือหวาได้ แต่รายได้หลักและมั่นคงของอาณาจักรแห่งนี้มาจากธุรกิจที่จับต้องได้และดำเนินงานอยู่ในชีวิตประจำวันของเรา

จากข้อมูลล่าสุดในปี 2023 รายได้ส่วนใหญ่ของ Berkshire Hathaway มาจากภาคส่วนดังต่อไปนี้:

• ธุรกิจการผลิต, บริการ และค้าปลีก: ส่วนนี้มีสัดส่วนรายได้สูงถึง 75.41 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สะท้อนถึงขนาดและความสำคัญของบริษัทในเครือ เช่น Duracell, Dairy Queen, และบริษัทที่ผลิตสินค้าอุตสาหกรรมต่างๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานระดับโลก
• McLane Company: บริษัทค้าส่งอาหารและสินค้าอุปโภคบริโภคขนาดใหญ่ มีรายได้สูงถึง 52.61 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญในตลาดค้าส่งและกระจายสินค้า
• บริการและค้าปลีกอื่นๆ: นอกเหนือจาก McLane ยังมีกลุ่มธุรกิจบริการและค้าปลีกอีกมากมายที่ทำรายได้รวมกว่า 40 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ในทางกลับกัน รายได้จากการลงทุน ซึ่งรวมถึงเงินปันผลและดอกเบี้ยจากพอร์ตหุ้นนั้นอยู่ที่ 11.62 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คุณเห็นความแตกต่างไหม? ตัวเลขนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าแม้การลงทุนของ Warren Buffett จะสร้างผลตอบแทนที่น่าทึ่ง แต่รายได้หลักและพื้นฐานที่ทำให้ Berkshire Hathaway แข็งแกร่งนั้นมาจากขีดความสามารถในการดำเนินงานของธุรกิจหลากหลายประเภทที่อยู่ภายใต้ร่มเงาของบริษัทโฮลดิ้งแห่งนี้

นี่คือหัวใจสำคัญที่นักลงทุนควรทำความเข้าใจ เพราะมันบ่งบอกว่า Berkshire Hathaway ไม่ได้พึ่งพารายได้จากการเก็งกำไรในตลาดหุ้นเพียงอย่างเดียว แต่มีกระแสเงินสดที่มั่นคงจากการดำเนินธุรกิจจริงในอุตสาหกรรมสำคัญต่างๆ ซึ่งเป็นเสาหลักที่ช่วยลดความผันผวนและสร้างความยืดหยุ่นให้กับบริษัท ไม่ว่าภาวะตลาดหุ้นจะเป็นอย่างไรก็ตาม

แก่นแท้ของ Value Investing: ปรัชญาการลงทุนแบบ Warren Buffett ที่พิสูจน์แล้ว

เมื่อพูดถึง Berkshire Hathaway เราไม่สามารถมองข้ามปรัชญาการลงทุนที่ทำให้บริษัทนี้โดดเด่นและประสบความสำเร็จอย่างยาวนานได้ นั่นคือ Value Investing หรือ การลงทุนเน้นคุณค่า หลักการนี้ไม่ใช่แค่แนวคิดที่จับต้องไม่ได้ แต่เป็นวิธีการลงทุนที่พิสูจน์แล้วว่าสร้างความมั่งคั่งได้อย่างยั่งยืน

คุณอาจสงสัยว่า การลงทุนเน้นคุณค่า คืออะไร? หัวใจหลักของมันคือการซื้อบริษัทที่ดีเยี่ยม ในราคาที่เหมาะสม หรือพูดอีกนัยหนึ่งคือ การมองหาธุรกิจที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง มีผลการดำเนินงานที่ดี มีความได้เปรียบทางการแข่งขันที่ยั่งยืน (moat) แต่ราคาหุ้นในตลาดกลับยังต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงที่ควรจะเป็น Warren Buffett และคู่หูผู้ล่วงลับอย่าง Charlie Munger ไม่ได้สนใจการเก็งกำไรระยะสั้นหรือการจับจังหวะตลาด แต่พวกเขามุ่งเน้นไปที่การเป็นเจ้าของส่วนหนึ่งของธุรกิจที่ยอดเยี่ยมและถือครองมันไปในระยะยาว

ปรัชญาเหล่านี้เป็นรากฐานที่ทำให้ Berkshire Hathaway มีผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีสูงถึง 19.9% ตั้งแต่ปี 1965-2024 ซึ่งสูงกว่าดัชนี S&P 500 ที่ 10.4% ต่อปีอย่างมีนัยสำคัญ นี่คือบทพิสูจน์ว่าหลักการพื้นฐานที่เรียบง่ายแต่แข็งแกร่ง สามารถสร้างความมั่งคั่งได้อย่างแท้จริงในระยะยาว

พอร์ตโฟลิโอ Berkshire Hathaway: ลงทุนในบริษัทชั้นนำเพื่อการเติบโตระยะยาว

หากคุณสนใจว่า Berkshire Hathaway ลงทุนในหุ้นตัวไหนบ้าง พอร์ตโฟลิโอของบริษัทสะท้อนให้เห็นถึงปรัชญา Value Investing อย่างชัดเจน พวกเขาไม่ได้ลงทุนในบริษัทที่กำลังเป็นกระแส หรือหุ้นที่มีการเปลี่ยนแปลงราคาหวือหวา แต่เลือกที่จะลงทุนในบริษัทขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียง มีความมั่นคง และเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของผู้คนจำนวนมาก

มาดูกันว่า Top 5 การถือครองหุ้นหลักของ Berkshire Hathaway มีอะไรบ้าง:

• Apple Inc. ($AAPL): แม้จะเป็นบริษัทเทคโนโลยี แต่ Warren Buffett มองว่า Apple เป็นบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีความผูกพันกับผู้ใช้สูง และมีระบบนิเวศที่แข็งแกร่งมาก เป็นการลงทุนครั้งใหญ่และประสบความสำเร็จอย่างงดงาม
• Bank of America Corp ($BAC): หนึ่งในธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในภาคการเงินและเศรษฐกิจอเมริกัน
• American Express Co. ($AXP): บริษัทบัตรเครดิตและบริการทางการเงินระดับโลก ที่มีฐานลูกค้าที่ภักดีและแบรนด์ที่แข็งแกร่ง
• Coca-Cola Co ($KO): หนึ่งในการลงทุนที่เก่าแก่และเป็นที่รู้จักมากที่สุดของ Berkshire Hathaway เป็นบริษัทเครื่องดื่มที่ครองตลาดโลกมาอย่างยาวนาน แสดงถึงพลังของแบรนด์ที่ยั่งยืน
• Chevron Corp ($CVX): บริษัทพลังงานขนาดใหญ่ สะท้อนถึงการลงทุนในภาคส่วนที่จำเป็นต่อเศรษฐกิจโลก แม้จะมีความผันผวนตามราคาน้ำมันก็ตาม

นอกจากบริษัทอเมริกันยักษ์ใหญ่เหล่านี้ Warren Buffett ยังได้แสดงความเชื่อมั่นในการลงทุนต่างประเทศด้วยการเข้าถือครองหุ้นในบริษัทญี่ปุ่นขนาดใหญ่ 5 แห่ง ซึ่งประกอบด้วย ITOCHU, Marubeni, Mitsubishi, Mitsui และ Sumitomo ซึ่งเป็นบริษัทการค้าและลงทุนขนาดใหญ่ที่มีธุรกิจหลากหลาย เป็นการกระจายความเสี่ยงและหาโอกาสในตลาดนอกสหรัฐฯ ที่มีศักยภาพ

สิ่งที่น่าสนใจคือ Warren Buffett ยอมรับในความผิดพลาดในการลงทุนของตัวเองอย่างเปิดเผยและตรงไปตรงมาเสมอ เขาเคยกล่าวถึงการตัดสินใจที่ผิดพลาดบางอย่างในอดีต ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงหลักการ ความโปร่งใส และความจริงใจในการสื่อสารกับผู้ถือหุ้น สิ่งนี้สร้างความไว้วางใจและแสดงให้เห็นว่าแม้แต่นักลงทุนระดับตำนานก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่พวกเขารู้จักเรียนรู้และปรับตัว

พอร์ตโฟลิโอของ Berkshire Hathaway ไม่ใช่แค่รายการหุ้น แต่คือกระจกสะท้อนปรัชญาที่เน้นคุณภาพ ความมั่นคง และการเติบโตในระยะยาว ซึ่งเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับนักลงทุนทุกคนไม่ว่าจะใช้กลยุทธ์แบบใดก็ตาม

สุขภาพทางการเงินที่แข็งแกร่ง: เงินสดมหาศาลและความพร้อมในการคว้าโอกาส

เมื่อพูดถึงความมั่นคงทางการเงินของบริษัทในตลาดหุ้น คุณจะหาตัวอย่างที่ดีไปกว่า Berkshire Hathaway ได้ยากยิ่ง ตัวเลขผลประกอบการของบริษัทนี้ไม่ใช่แค่ตัวเลขในงบการเงิน แต่เป็นเครื่องยืนยันถึงความแข็งแกร่งและกลยุทธ์การบริหารจัดการที่รอบคอบของ Warren Buffett และทีมงาน

หนึ่งในตัวเลขที่น่าจับตาที่สุดคือ เงินสดที่ถือครองอยู่สูงเป็นประวัติการณ์ ซึ่งรวมถึงตั๋วเงินคลังสหรัฐฯ ด้วย โดยอยู่ที่ 334.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คุณลองนึกภาพเงินจำนวนมหาศาลขนาดนี้สิ! เงินสดจำนวนนี้ไม่ใช่แค่เงินที่จอดอยู่เฉยๆ แต่เป็นสัญญาณสำคัญถึงกลยุทธ์ของ Warren Buffett เขามักจะเปรียบเทียบเงินสดที่ถือครองไว้ว่าเหมือน “ขีปนาวุธ” ที่พร้อมจะถูกยิงออกไปเมื่อมีโอกาสการลงทุนครั้งใหญ่ปรากฏขึ้นในอนาคต

ในยามที่ตลาดมีความไม่แน่นอน การมีเงินสดจำนวนมากเช่นนี้ทำให้ Berkshire Hathaway มีความยืดหยุ่นสูง สามารถเข้าซื้อกิจการหรือลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ได้ในจังหวะที่บริษัทอื่นๆ อาจประสบปัญหาเรื่องสภาพคล่อง นี่คือ ความได้เปรียบที่แท้จริง ที่ทำให้ Berkshire Hathaway สามารถคว้าโอกาสทองได้ในยามที่ตลาดเกิดวิกฤต ดังที่เราเคยเห็นมาแล้วหลายครั้งในอดีต

นอกจากเงินสดแล้ว ผลการดำเนินงานโดยรวมก็แข็งแกร่งไม่แพ้กัน:

• รายได้จากการดำเนินงานรวมปี 2024 อยู่ที่ 47.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 26.7% จากปี 2023 แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของธุรกิจหลัก
• ในด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและประเทศ Berkshire Hathaway ยังเป็น ผู้เสียภาษีนิติบุคคลให้กับรัฐบาลกลางสหรัฐฯ มากที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยสูงถึง 26.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2024 ซึ่งคิดเป็น 5% ของภาษีบริษัททั้งหมดในอเมริกา นี่ไม่ใช่แค่ตัวเลขทางบัญชี แต่สะท้อนถึงขนาดและความสำเร็จทางธุรกิจที่ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศอย่างมหาศาล

อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 1/67 ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้รวมเพิ่มขึ้นเป็น 89,869 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่มีกำไรสุทธิลดลงเหลือ 12,832 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ตัวเลขนี้อาจดูน่ากังวลสำหรับบางคน แต่หากพิจารณาอย่างละเอียดจะพบว่าสาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายรวมที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการลงทุนขยายธุรกิจ หรือค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นตามปกติ นี่คือสิ่งที่คุณต้องพิจารณาในการวิเคราะห์งบการเงิน คือการดูภาพรวมและสาเหตุเบื้องหลังตัวเลขต่างๆ ไม่ใช่แค่ตัวเลขกำไรสุทธิเพียงอย่างเดียว

เบื้องหลังความสำเร็จ: การบริหารจัดการที่โปร่งใสและบทเรียนจากความผิดพลาด

สิ่งหนึ่งที่ทำให้ Berkshire Hathaway แตกต่างจากบริษัทขนาดใหญ่อื่นๆ คือสไตล์การบริหารจัดการของ Warren Buffett ซึ่งเน้นย้ำถึง ความโปร่งใส และ การสื่อสารที่ตรงไปตรงมา กับผู้ถือหุ้นอยู่เสมอ คุณอาจเคยได้ยินชื่อ “จดหมายถึงผู้ถือหุ้นประจำปี” ของ Warren Buffett ซึ่งเป็นที่รอคอยและได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในเอกสารทางการเงินที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกของการลงทุน

ในจดหมายเหล่านี้ Warren Buffett ไม่เพียงแต่จะสรุปผลการดำเนินงานของบริษัทเท่านั้น แต่ยังสะท้อนมุมมองปรัชญาการลงทุน ชีวิต และแม้กระทั่งยอมรับใน ความผิดพลาดในการลงทุน ของตัวเองอย่างเปิดเผย เขาเคยกล่าวถึงการตัดสินใจที่ไม่ถูกต้องหลายครั้งในอดีต เช่น การพลาดโอกาสลงทุนใน Google หรือ Amazon ในช่วงแรก หรือการตัดสินใจลงทุนในบางบริษัทที่ไม่ได้ผลตอบแทนตามที่คาดหวังไว้

การยอมรับความผิดพลาดนี้ไม่ใช่จุดอ่อน แต่เป็นเครื่องหมายของผู้นำที่แท้จริงและสร้างความไว้วางใจให้กับผู้ถือหุ้นเป็นอย่างมาก มันบอกให้เราทราบว่าแม้แต่นักลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกก็ยังสามารถทำผิดพลาดได้ แต่สิ่งสำคัญคือการเรียนรู้จากความผิดพลาดเหล่านั้น และไม่พยายามปกปิดหรือบิดเบือนข้อมูล การสื่อสารที่ซื่อสัตย์เช่นนี้เป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้ผู้คนจำนวนมากเชื่อมั่นในตัว Warren Buffett และ Berkshire Hathaway มาตลอดหลายทศวรรษ

นอกจากนี้ เหตุการณ์ที่ราคาหุ้น BRK.A ร่วงลงกว่า 99% เมื่อไม่นานมานี้ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ตอกย้ำถึงความมั่นคงของบริษัทและระบบการสื่อสารที่รวดเร็ว เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเพียง “ปัญหาทางเทคนิค” ของตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) และได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่ชั่วโมง บริษัทและตลาดหลักทรัพย์ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงสถานการณ์ทันที ซึ่งช่วยคลายความกังวลให้กับนักลงทุนและตอกย้ำว่ามูลค่าที่แท้จริงของ Berkshire Hathaway ไม่ได้ถูกกระทบจากความผิดพลาดทางเทคนิคภายนอกเหล่านี้เลย

สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับนักลงทุนทุกคน ไม่ว่าคุณจะอยู่ในโลกของ การวิเคราะห์ทางเทคนิค หรือ การลงทุนพื้นฐาน การมีความเข้าใจในหลักการบริหารจัดการที่ดี ความโปร่งใส และการยอมรับในข้อผิดพลาด ถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะสร้างความเชื่อมั่นและนำไปสู่ความสำเร็จในระยะยาว

การสืบทอดตำแหน่ง: อนาคตที่มั่นคงภายใต้การนำของ Greg Abel

หนึ่งในคำถามสำคัญที่นักลงทุนหลายคนมีเกี่ยวกับ Berkshire Hathaway คืออนาคตของบริษัทจะเป็นอย่างไรเมื่อ Warren Buffett ซึ่งปัจจุบันมีอายุมากกว่า 90 ปี จะก้าวลงจากตำแหน่ง ความกังวลนี้ได้ถูกคลี่คลายลงด้วยแผนการสืบทอดตำแหน่งที่ชัดเจนและรอบคอบ ซึ่ง Warren Buffett ได้วางเอาไว้อย่างดี

ผู้ที่ได้รับการวางตัวให้เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ต่อจาก Warren Buffett คือ Greg Abel (เกร็ก เอเบิล) ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานของ Berkshire Hathaway และเป็นผู้ดูแลธุรกิจที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มประกันภัยทั้งหมด ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่สร้างรายได้หลักให้กับบริษัท

Greg Abel ไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับอาณาจักร Berkshire Hathaway เขาร่วมงานกับบริษัทมานานหลายทศวรรษและมีบทบาทสำคัญในการขยายและพัฒนา Berkshire Hathaway Energy ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภคที่ใหญ่ที่สุดของบริษัท ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในวัฒนธรรมองค์กร ปรัชญาการลงทุน และความสามารถในการบริหารจัดการธุรกิจขนาดใหญ่ของเขา ทำให้ Warren Buffett มั่นใจในตัว Greg Abel ว่าเป็นบุคคลที่เหมาะสมที่สุดที่จะนำพา Berkshire Hathaway ไปสู่อนาคต

การที่ Warren Buffett เปิดเผยชื่อผู้สืบทอดตำแหน่งอย่างชัดเจนและล่วงหน้านั้น เป็นการส่งสัญญาณถึง ความมั่นคง และ ความต่อเนื่อง ในการบริหารจัดการของ Berkshire Hathaway มันช่วยลดความไม่แน่นอนที่มักเกิดขึ้นเมื่อผู้นำระดับตำนานกำลังจะเปลี่ยนผ่าน และสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนว่าหลักการและวัฒนธรรมที่ Warren Buffett สร้างขึ้นมาจะยังคงถูกรักษาไว้

แม้ว่ายุคหลัง Warren Buffett อาจจะแตกต่างออกไปบ้าง แต่แก่นแท้ของ Berkshire Hathaway ซึ่งก็คือปรัชญา Value Investing และการบริหารจัดการแบบเน้นคุณค่าระยะยาว จะยังคงเป็นเข็มทิศสำคัญนำพาบริษัทไปข้างหน้า Greg Abel และทีมงานบริหารชุดใหม่จะยังคงมุ่งเน้นการลงทุนในธุรกิจที่มีคุณภาพ การบริหารจัดการเงินสดอย่างรอบคอบ และการสร้างคุณค่าให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาวเช่นเดิม

เข้าใจโครงสร้างหุ้น BRK.A และ BRK.B: ทางเลือกสำหรับนักลงทุนทุกระดับ

หากคุณสนใจที่จะเป็นเจ้าของส่วนหนึ่งของ Berkshire Hathaway คุณจะพบว่าบริษัทมีหุ้นอยู่ 2 ประเภทที่แตกต่างกัน นั่นคือ BRK.A (Class A shares) และ BRK.B (Class B shares) การเข้าใจความแตกต่างระหว่างหุ้นสองประเภทนี้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเข้าถึงการลงทุนในอาณาจักรของ Warren Buffett

ความแตกต่างหลักๆ ระหว่าง BRK.A และ BRK.B มีดังนี้:

• ราคาต่อหุ้น:
  • BRK.A: มีราคาต่อหุ้นที่ สูงกว่ามาก ปัจจุบันราคาอาจสูงถึงหลายแสนดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อหุ้น ซึ่งทำให้เป็นหุ้นที่มีราคาต่อหน่วยสูงที่สุดในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ
  • BRK.B: มีราคาต่อหุ้นที่ ต่ำกว่ามาก ทำให้เข้าถึงได้ง่ายกว่าสำหรับนักลงทุนรายย่อย
• สิทธิออกเสียง:
  • BRK.A: มีสิทธิออกเสียงเต็มที่ และมีอำนาจในการโหวตมากกว่า BRK.B ถึง 10,000 เท่า
  • BRK.B: มีสิทธิออกเสียงน้อยกว่า โดยมีเพียง 1/10,000 ของสิทธิออกเสียงของ BRK.A
• การแปลงหุ้น:
  • นักลงทุนสามารถ แปลงหุ้น BRK.A เป็น BRK.B ได้ แต่ไม่สามารถแปลงหุ้น BRK.B เป็น BRK.A ได้

ทำไมถึงต้องมีหุ้นสองประเภทนี้? Warren Buffett มีนโยบายที่แน่วแน่ว่าจะ ไม่แตกพาร์หุ้น BRK.A นี่ไม่ใช่แค่ความชอบส่วนตัว แต่มีเหตุผลเชิงกลยุทธ์เบื้องหลัง เขาเชื่อว่าการไม่แตกพาร์จะช่วยส่งเสริม การลงทุนระยะยาว และป้องกัน ความผันผวนจากการเก็งกำไรระยะสั้น เพราะด้วยราคาที่สูง ผู้ที่สามารถซื้อหุ้น BRK.A ได้มักจะเป็นนักลงทุนสถาบันหรือนักลงทุนรายใหญ่ที่ตั้งใจจะถือครองหุ้นเพื่อการลงทุนระยะยาวเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้นักลงทุนรายย่อยที่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของ Berkshire Hathaway สามารถเข้าถึงได้ จึงมีการสร้างหุ้น BRK.B ขึ้นมา ซึ่งมีราคาที่ถูกกว่าและสามารถซื้อขายได้สะดวกขึ้นผ่านแพลตฟอร์มการซื้อขายหุ้นต่างประเทศ หุ้น BRK.B จึงเป็นช่องทางที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่ต้องการเรียนรู้และเติบโตไปพร้อมกับอาณาจักรของ Warren Buffett โดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินทุนจำนวนมหาศาล

การเข้าใจโครงสร้างหุ้นเหล่านี้ช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าจะลงทุนในรูปแบบใดที่เหมาะสมกับเป้าหมายและเงินทุนของคุณ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุนรายย่อยที่เริ่มต้นด้วย BRK.B หรือนักลงทุนสถาบันที่มุ่งเน้น BRK.A การเป็นเจ้าของส่วนหนึ่งของ Berkshire Hathaway คือการเป็นเจ้าของส่วนหนึ่งของปรัชญาการลงทุนที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าประสบความสำเร็จอย่างยาวนาน

Berkshire Hathaway: บทเรียนสำหรับนักลงทุนยุคใหม่ในการสร้างความมั่งคั่งที่ยั่งยืน

จากทั้งหมดที่เราได้สำรวจมา คุณคงเห็นแล้วว่า Berkshire Hathaway Inc. ไม่ใช่แค่บริษัทลงทุนธรรมดา แต่เป็นอาณาจักรทางธุรกิจที่สร้างขึ้นบนรากฐานของปรัชญา Value Investing ที่มั่นคง การบริหารจัดการที่ชาญฉลาด และความโปร่งใสในการดำเนินงาน สำหรับนักลงทุนมือใหม่ หรือผู้ที่กำลังมองหาแนวทางในการสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว Berkshire Hathaway มอบบทเรียนอันล้ำค่าที่คุณสามารถนำไปปรับใช้ได้ ไม่ว่าคุณจะเลือกเส้นทางการลงทุนแบบใดก็ตาม

เราได้เห็นว่ารายได้หลักของ Berkshire Hathaway มาจากธุรกิจที่หลากหลายและแข็งแกร่ง ไม่ใช่แค่จากการลงทุนในตลาดหุ้น นั่นคือบทเรียนสำคัญที่บอกให้เราทราบว่าการมีแหล่งรายได้ที่มั่นคงและหลากหลายสามารถช่วยลดความเสี่ยงและสร้างความยืดหยุ่นให้กับพอร์ตโฟลิโอของคุณได้อย่างไร

นอกจากนี้ ปรัชญา Value Investing ที่เน้นการซื้อธุรกิจที่ดีเยี่ยมในราคาที่เหมาะสม และการถือครองในระยะยาว ได้พิสูจน์แล้วว่าสร้างผลตอบแทนที่เหนือกว่าตลาดในระยะยาวอย่างสม่ำเสมอ คุณไม่จำเป็นต้องเก็งกำไรระยะสั้นหรือพยายามจับจังหวะตลาดอยู่เสมอไป การอดทนรอและให้ ดอกเบี้ยทบต้น ทำงานอย่างเต็มที่ คือหัวใจสำคัญของการสร้างความมั่งคั่งที่ยั่งยืน

สุดท้ายนี้ แม้ว่าจะมี การเปลี่ยนผ่านผู้นำ จาก Warren Buffett ไปยัง Greg Abel ในอนาคต แต่ปรัชญาและหลักการที่ Warren Buffett ได้สร้างไว้ยังคงเป็นเข็มทิศสำคัญ นำพาอาณาจักรแห่งนี้ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง Berkshire Hathaway จึงยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่มองหาความมั่นคงและคุณค่าที่แท้จริงในโลกของการลงทุน

การทำความเข้าใจบริษัทอย่าง Berkshire Hathaway สอนให้เรามองข้ามความผันผวนของราคาหุ้นในแต่ละวัน และหันมาโฟกัสที่มูลค่าที่แท้จริงของธุรกิจ นี่คือสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนในระยะยาว

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับberkshire hathaway คือ

Q：นโยบายการลงทุนของ Warren Buffett เป็นอย่างไร?

A：เขาเน้นการลงทุนในบริษัทที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง

Q：รายได้หลักของ Berkshire Hathaway มาจากที่ไหน?

A：มาจากธุรกิจที่หลากหลาย เช่น การผลิตและบริการ ตลอดจนการค้าปลีก

Q：Greg Abel จะมาเป็น CEO ต่อจาก Warren Buffett หรือไม่?

A：ใช่ เขาได้รับการวางตัวเป็นผู้สืบทอดที่มุ่งมั่นในการรักษาปรัชญาการลงทุน