OTC คืออะไร: เจาะลึกการซื้อขายแบบนอกตลาดที่นักลงทุนควรรู้
ในโลกของการลงทุนที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว คุณเคยได้ยินคำว่า Over-the-Counter (OTC) หรือ การซื้อขายแบบนอกตลาด บ้างหรือไม่? นี่ไม่ใช่เพียงแค่คำศัพท์ทางการเงินทั่วไป แต่เป็นกลไกสำคัญที่ขับเคลื่อนการซื้อขายสินทรัพย์มหาศาลทั่วโลก ซึ่งแตกต่างอย่างมากจากการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แบบที่เราคุ้นเคยกันดี
- OTC ช่วยให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงสินทรัพย์ที่ไม่มีการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
- การประยุกต์ใช้ OTC ตอบสนองต่อความต้องการที่หลากหลายในการซื้อขาย
- ผู้เข้าร่วมตลาด OTC ประกอบด้วยธนาคาร สถาบันการเงิน และนายหน้าขนาดใหญ่
เราในฐานะผู้ให้ความรู้ด้านการลงทุน เข้าใจดีว่าความรู้คือพื้นฐานสำคัญในการสร้างผลกำไรที่ยั่งยืน บทความนี้จะพานักลงทุนทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้น หรือนักเทรดผู้มีประสบการณ์ที่ต้องการทำความเข้าใจเชิงลึก ให้ก้าวเข้าสู่โลกของ OTC อย่างถ่องแท้ เราจะเจาะลึกตั้งแต่พื้นฐาน ไปจนถึงข้อดี ข้อเสีย ความเสี่ยง และพัฒนาการล่าสุด เพื่อให้คุณมีข้อมูลที่ครบถ้วนและพร้อมสำหรับการตัดสินใจลงทุนอย่างชาญฉลาด
เตรียมตัวให้พร้อม เพราะเรากำลังจะเปิดประตูสู่มิติใหม่ของการลงทุนที่คุณอาจไม่เคยสัมผัสมาก่อน
หัวใจของ OTC: แนวคิดการกระจายอำนาจ (Decentralization) และความยืดหยุ่นไร้ขีดจำกัด
แล้ว OTC คืออะไรกันแน่? ในคำจำกัดความที่ง่ายที่สุด การซื้อขาย OTC คือการทำธุรกรรมทางการเงินที่เกิดขึ้น โดยตรงระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย โดยไม่ผ่านศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนแบบรวมศูนย์ (เช่น ตลาดหลักทรัพย์) ลองนึกภาพว่าคุณกำลังซื้อรถยนต์ คุณอาจเดินเข้าไปในศูนย์รถยนต์ (ซึ่งเปรียบเสมือนตลาดหลักทรัพย์) หรือคุณอาจซื้อโดยตรงจากเจ้าของคนเดิมที่ประกาศขายทางออนไลน์ ซึ่งเป็นลักษณะของการซื้อขายแบบ OTC
คุณสมบัติที่โดดเด่นและเป็นหัวใจสำคัญของตลาด OTC คือ การกระจายอำนาจ (Decentralization) ในขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ส่วนใหญ่ถูกกำกับดูแลและดำเนินการโดยหน่วยงานกลาง ตลาด OTC กลับเป็นเครือข่ายที่เชื่อมโยงผู้ซื้อ ผู้ขาย และผู้ทำตลาด (Market Maker) เข้าด้วยกัน ทำให้เกิดความยืดหยุ่นที่สูงลิ่ว คุณสามารถเข้าถึงการซื้อขายได้เกือบตลอด 24 ชั่วโมง และในหลายกรณีสามารถตกลงเงื่อนไขการซื้อขายที่ปรับแต่งให้เข้ากับความต้องการของทั้งสองฝ่ายได้ ไม่ว่าจะเป็นราคา ปริมาณ หรือเงื่อนไขการชำระเงิน
ความยืดหยุ่นนี้เองที่ทำให้ตลาด OTC กลายเป็นสนามเด็กเล่นขนาดใหญ่สำหรับสินทรัพย์หลายประเภทที่อาจไม่เหมาะสมกับการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แบบดั้งเดิม เพราะตลาด OTC นั้นถูกสร้างขึ้นเพื่อรองรับตลาดที่เปิดกว้างและไม่จำเป็นต้องอยู่ภายใต้กรอบการควบคุมที่เข้มงวดเสมอไป
OTC ในสนามการเงิน: ประยุกต์ใช้กับสินทรัพย์หลากหลายประเภทอย่างไร?
คุณอาจสงสัยว่าแล้ว การซื้อขาย OTC ถูกนำไปประยุกต์ใช้กับสินทรัพย์ประเภทใดบ้าง? คำตอบคือ “แทบทุกอย่าง” ตั้งแต่สินทรัพย์ที่ซับซ้อนไปจนถึงสินทรัพย์พื้นฐานที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หลัก นี่คือตัวอย่างที่สำคัญ:
ประเภทสินทรัพย์ | คำอธิบาย |
---|---|
ตลาด Forex (Foreign Exchange) | นี่คือตลาด OTC ที่ใหญ่ที่สุดในโลก คุณไม่สามารถซื้อขายคู่สกุลเงินผ่านตลาดหลักทรัพย์ใดๆ ได้ |
สัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFD) | CFD เป็นอนุพันธ์ที่อนุญาตให้คุณเก็งกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาหุ้น |
ตลาด Cryptocurrency | การซื้อขายคริปโตส่วนใหญ่เกิดขึ้นในลักษณะ OTC โดยเฉพาะธุรกรรมที่มีมูลค่าสูง |
ตลาดตราสารหนี้ | นี่คือตลาด OTC ขนาดใหญ่ที่ซื้อขายตราสารหนี้โดยตรงระหว่างสถาบันการเงิน |
หุ้นที่ไม่ได้จดทะเบียน | บริษัทที่ยังไม่เข้าตามเกณฑ์การจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ใช้ตลาด OTC เป็นช่องทางในการระดมทุน |
สินทรัพย์โภคภัณฑ์ และอนุพันธ์ประเภทอื่นๆ | เช่น สัญญาฟอร์เวิร์ด, สวอป และออปชันจำนวนมากถูกปรับแต่งและซื้อขายแบบ OTC |
คุณจะเห็นได้ว่า การซื้อขาย OTC ได้แทรกซึมอยู่ในทุกอณูของตลาดการเงิน ทำให้เกิดความหลากหลายและทางเลือกในการลงทุนที่กว้างขวางขึ้นอย่างมาก
หากคุณกำลังสนใจที่จะเริ่มต้นการเทรดในตลาดที่มีความหลากหลายเช่น Forex หรือ CFD และกำลังมองหาแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือ Moneta Markets เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคุณ แพลตฟอร์มนี้มาจากออสเตรเลียและมีสินทรัพย์ให้เลือกเทรดมากกว่า 1000 รายการ เหมาะสำหรับทั้งนักลงทุนมือใหม่และนักเทรดมืออาชีพ
สำรวจข้อดี: ทำไมนักลงทุนและบริษัทถึงสนใจตลาด OTC?
เมื่อได้รู้จัก OTC คืออะไร และมีการประยุกต์ใช้กับสินทรัพย์หลากหลายประเภทแล้ว คุณอาจเริ่มเห็นภาพว่าทำไมตลาดนี้จึงเป็นที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนและบริษัทต่างๆ ข้อดีของการลงทุนแบบ OTC มีมากมาย ดังนี้:
ข้อดี | คำอธิบาย |
---|---|
ความสะดวกสบายและความยืดหยุ่นด้านเวลา | ตลาด OTC เปิดให้ซื้อขายได้เกือบตลอด 24 ชั่วโมง |
การเข้าถึงหลักทรัพย์ที่หลากหลายและเฉพาะทาง | สามารถเข้าถึงสินทรัพย์ที่ไม่มีการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ |
กฎระเบียบที่ยืดหยุ่นกว่า | ทำให้บริษัทสามารถระดมทุนได้ง่ายขึ้น |
ข้อดีเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดให้นักลงทุนและบริษัทจำนวนมากเลือกใช้ การซื้อขายแบบ OTC เป็นช่องทางในการดำเนินกิจกรรมทางการเงิน
เจาะลึกข้อเสียและความเสี่ยงที่มาพร้อมกับ OTC: สิ่งที่นักลงทุนต้องระวัง
ทุกโอกาสย่อมมาพร้อมกับความท้าทาย และตลาด OTC ก็เช่นกัน แม้จะมีข้อดีมากมาย แต่ก็มีข้อเสียและความเสี่ยงที่คุณในฐานะนักลงทุนต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ การเข้าใจความเสี่ยงเหล่านี้คือสิ่งสำคัญยิ่งกว่าการรู้ข้อดีเพียงอย่างเดียว
- การขาดการกำกับดูแลที่เข้มงวด: ทำให้เสี่ยงต่อการถูกหลอกลวง
- ความน่าเชื่อถือของบริษัท: อาจขาดข้อมูลที่จำเป็นในการประเมิน
- ความเสี่ยงด้านสภาพคล่องต่ำ: อาจทำให้ราคาเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง
- ความผันผวนของราคาสูง: อาจนำไปสู่การขาดทุนอย่างรวดเร็ว
- ความเสี่ยงของคู่สัญญา (Counterparty Risk): อาจนำไปสูการสูญเสียเงินลงทุน
การลงทุนในตลาด OTC จึงไม่ใช่เรื่องสำหรับทุกคน คุณจำเป็นต้องมีวินัยในการศึกษาข้อมูล ทำความเข้าใจความเสี่ยง และเตรียมพร้อมรับมือกับความผันผวนที่อาจเกิดขึ้น เพื่อให้การลงทุนของคุณยังคงอยู่บนเส้นทางที่ปลอดภัย
ความแตกต่างที่สำคัญ: OTC vs. ตลาดหลักทรัพย์ (Exchange)
เพื่อความเข้าใจที่ชัดเจนยิ่งขึ้น เรามาดูความแตกต่างระหว่าง การซื้อขายแบบ OTC กับ การซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (Exchange) ซึ่งเป็นรูปแบบการซื้อขายที่คุณคุ้นเคยกันดี ความแตกต่างเหล่านี้เป็นหัวใจสำคัญที่กำหนดกลไกการทำงานและความเสี่ยงของแต่ละตลาด:
ลักษณะ | OTC | ตลาดหลักทรัพย์ |
---|---|---|
ตัวกลางการซื้อขาย | Dealer หรือการซื้อขายโดยตรงระหว่างคู่สัญญา | Broker ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ส่งคำสั่งซื้อขาย |
การต่อรองราคา | อนุญาตให้มีการต่อรองราคาได้ | โดยทั่วไปไม่สามารถต่อรองราคาได้ |
กฎเกณฑ์และระเบียบข้อบังคับ | กฎเกณฑ์เป็นกรอบกว้างๆ | มีกฎเกณฑ์ที่เข้มงวด |
ความโปร่งใสของราคา | ความโปร่งใสอาจน้อยกว่าในบางตลาด | มีความโปร่งใสสูง |
ประเภทของสินทรัพย์ | เหมาะสำหรับสินทรัพย์ที่ไม่มีมาตรฐานตายตัว | เหมาะสำหรับสินทรัพย์ที่มีมาตรฐานสูง |
การเข้าใจความแตกต่างเหล่านี้จะช่วยให้คุณเลือกช่องทางการซื้อขายที่เหมาะสมกับประเภทสินทรัพย์และกลยุทธ์การลงทุนของคุณได้ดียิ่งขึ้น
กลไกสำคัญ: บทบาทของ Dealer และ Market Maker ในตลาด OTC
ในตลาด OTC ผู้เล่นที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งและเป็นหัวใจของกลไกการทำงานคือ Dealer และ Market Maker ทั้งสองคำนี้มักจะใช้สลับกันได้ และมีความหมายใกล้เคียงกัน แต่ก็มีความแตกต่างที่น่าสนใจที่ควรทราบ
Dealer (ผู้ค้าหลักทรัพย์) คือบุคคลหรือสถาบันที่ซื้อและขายหลักทรัพย์จากพอร์ตการลงทุนของตนเอง พวกเขาไม่ได้เป็นเพียงตัวกลางในการจับคู่คำสั่งซื้อขาย แต่พวกเขา ถือครองสินทรัพย์ นั้นๆ ไว้ และพร้อมที่จะเสนอราคาซื้อ (Bid Price) ที่พวกเขาต้องการซื้อ และราคาขาย (Ask Price) ที่พวกเขาต้องการขายให้กับลูกค้า พวกเขาทำกำไรจากส่วนต่างระหว่างราคา Bid และ Ask (Bid-Ask Spread) หรือที่เรียกว่า สเปรด
ในขณะที่ Market Maker (ผู้ดูแลสภาพคล่อง) คือ Dealer ประเภทหนึ่งที่มุ่งเน้นการ สร้างสภาพคล่อง ให้กับตลาด พวกเขาพร้อมที่จะเสนอราคาซื้อและขายสำหรับหลักทรัพย์เฉพาะอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้นักลงทุนสามารถซื้อหรือขายสินทรัพย์นั้นๆ ได้ตลอดเวลา แม้ว่าสินทรัพย์นั้นอาจมีปริมาณการซื้อขายไม่มากนัก Market Maker มีความสำคัญอย่างยิ่งในตลาด OTC เพราะพวกเขาช่วยลดปัญหา สภาพคล่องต่ำ ที่อาจเกิดขึ้นกับหุ้นหรือตราสารบางประเภทที่ไม่ได้มีการซื้อขายบ่อยครั้ง
ลองนึกภาพร้านค้าที่ซื้อสินค้ามาเก็บไว้ในสต็อกเพื่อขายให้กับลูกค้า นั่นคือบทบาทของ Dealer พวกเขาพร้อมที่จะซื้อจากผู้ที่ต้องการขาย และพร้อมที่จะขายให้กับผู้ที่ต้องการซื้อ การมีอยู่ของ Dealer และ Market Maker ทำให้ตลาด OTC สามารถดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับหลักทรัพย์ที่มี สภาพคล่องจำกัด หรือต้องการ การต่อรองราคา เป็นพิเศษ
คุณในฐานะนักลงทุนจะทำการซื้อหรือขายสินทรัพย์ OTC ผ่าน Dealer เหล่านี้ ซึ่งอาจเป็นธนาคาร สถาบันการเงิน หรือบริษัทโบรกเกอร์ขนาดใหญ่ ดังนั้น การเลือก Dealer ที่น่าเชื่อถือและมีชื่อเสียงจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งใน การซื้อขายแบบ OTC
สภาพคล่องและราคาในตลาด OTC: สิ่งที่คุณต้องเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
เมื่อพูดถึงตลาด OTC สองปัจจัยสำคัญที่คุณต้องทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งคือ สภาพคล่อง (Liquidity) และ การกำหนดราคา (Pricing) ปัจจัยเหล่านี้มีผลกระทบโดยตรงต่อประสบการณ์การลงทุนของคุณและระดับความเสี่ยงที่คุณต้องเผชิญ
สภาพคล่อง ในตลาด OTC นั้น มีความแตกต่างกันอย่างมาก ขึ้นอยู่กับประเภทของสินทรัพย์:
- สภาพคล่องสูง: ตัวอย่างเช่นใน ตลาด Forex ที่มียอดการซื้อขายมหาศาลในแต่ละวัน
- สภาพคล่องต่ำ: เช่น หุ้นของบริษัทขนาดเล็กที่ไม่ได้จดทะเบียน
ในส่วนของการ กำหนดราคา ในตลาด OTC ก็แตกต่างจากการซื้อขายในตลาดรวมศูนย์อย่างมีนัยสำคัญ:
- ในตลาดรวมศูนย์ ราคาถูกกำหนดโดย สมุดคำสั่งซื้อขาย (Order Book)
- ในตลาด OTC ราคาจะถูก เสนอโดย Dealer หรือ เกิดจากการเจรจาต่อรอง
ความเข้าใจเรื่องสภาพคล่องและการกำหนดราคาเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการตัดสินใจเข้าลงทุนในตลาด OTC
นวัตกรรมล่าสุด: ทำความรู้จักกับ OTC Overnight และอนาคตของการซื้อขาย OTC ทั่วโลก
โลกของการเงินไม่เคยหยุดนิ่ง และตลาด OTC ก็เช่นกัน หนึ่งในพัฒนาการล่าสุดที่น่าสนใจและแสดงให้เห็นถึงวิวัฒนาการของตลาด OTC คือการเปิดตัว “OTC Overnight” โดย OTC Markets Group Inc.
ตามที่ OTC Markets Group Inc. ได้ประกาศเมื่อต้นปี 2024 พวกเขาได้เปิดตัวบริการใหม่ที่เรียกว่า “OTC Overnight” เพื่อขยายเวลาการซื้อขายหลักทรัพย์หุ้น OTC ให้สามารถซื้อขายได้ เกือบ 24 ชั่วโมงต่อวันทำการ โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 20:00 น. ของวันอาทิตย์ ไปจนถึงเวลา 4:00 น. ของวันศุกร์ ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (ET)
เป้าหมายหลักของ OTC Overnight คือการ ขยายการเข้าถึงข้อมูลตลาด และ เพิ่มความสะดวก ให้แก่นักลงทุนและผู้เข้าร่วมตลาดทั่วโลก
นวัตกรรมเช่น OTC Overnight แสดงให้เห็นว่าตลาด OTC กำลังพัฒนาเพื่อตอบสนองความต้องการของโลกที่เชื่อมโยงถึงกันมากขึ้น และอาจส่งผลให้ สภาพคล่อง ของหุ้น OTC เพิ่มขึ้นในระยะยาว
ข้อควรรู้เพิ่มเติม: การกำกับดูแลและประเภทของตลาด OTC
เมื่อพูดถึง การกำกับดูแล ในตลาด OTC สิ่งที่คุณต้องทำความเข้าใจคือมันมีความซับซ้อนและแตกต่างกันไปตามแต่ละส่วนของตลาด ในขณะที่ตลาดหลักทรัพย์มีการกำกับดูแลที่รวมศูนย์และเข้มงวด ตลาด OTC มีลักษณะที่หลากหลายกว่ามาก
ในสหรัฐอเมริกา แม้ว่า การซื้อขาย OTC จะไม่ได้รับการกำกับดูแลโดยตรงจาก SEC หรือ FINRA แต่มีกฎเกณฑ์ที่ช่วยแบ่งการเข้าถึงตลาดออกเป็นสามระดับ:
ระดับตลาด | คำอธิบาย |
---|---|
OTCQX (Best Market) | ระดับสูงสุดสำหรับบริษัทที่มีคุณภาพและเปิดเผยข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ |
OTCQB (Venture Market) | สำหรับบริษัทที่มีข้อกำหนดการรายงานที่เข้มงวดน้อยกว่า |
Pink Open Market | ตลาดที่มีการกำกับดูแลน้อยที่สุดและมีความเสี่ยงสูงสุด |
การทำความเข้าใจ ประเภทของตลาด OTC เหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะมันสะท้อนถึง ระดับความโปร่งใส และ ความเสี่ยง ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
กลยุทธ์การลงทุนในตลาด OTC สำหรับนักลงทุนมือใหม่และผู้สนใจ
เมื่อคุณได้ทำความเข้าใจถึงแก่นแท้ของ OTC คืออะไร ตลอดจนข้อดี ข้อเสีย และความแตกต่างจากตลาดอื่นๆ แล้ว สิ่งสำคัญต่อไปคือการวางกลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสม เพื่อให้คุณสามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสในตลาดนี้ พร้อมกับบริหารจัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับนักลงทุนมือใหม่ หรือผู้ที่ต้องการเข้าสู่โลก OTC เรามีคำแนะนำดังนี้:
- ศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด: กุญแจสำคัญที่สุดในการลงทุนในตลาด OTC
- เริ่มต้นด้วยเงินจำนวนน้อย: ทดลองลงทุนด้วยเงินจำนวนน้อยที่คุณพร้อมจะสูญเสีย
- กระจายความเสี่ยง: ไม่ควรลงทุนในสินทรัพย์ OTC เพียงชนิดเดียว
- ทำความเข้าใจสภาพคล่อง: ตรวจสอบ สภาพคล่อง ของสินทรัพย์นั้นอย่างรอบคอบ
- ใช้บริการจากโบรกเกอร์หรือ Dealer ที่น่าเชื่อถือ: ลองเลือกใช้บริการจาก โบรกเกอร์ ที่มีชื่อเสียง
- กำหนดกลยุทธ์การออก: ตั้งจุดทำกำไรและจุดตัดขาดทุนที่ชัดเจน
โปรดจำไว้ว่า การลงทุนในตลาด OTC นั้น มีความเสี่ยงสูงกว่า การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ที่ได้รับการกำกับดูแลอย่างเข้มงวด
และถ้าคุณกำลังพิจารณาเลือกใช้บริการ แพลตฟอร์มการซื้อขาย ที่มีความยืดหยุ่น Moneta Markets ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ
บทสรุป: โอกาสและความท้าทายในโลกของ OTC ที่คุณควรรู้
ตลอดบทความนี้ เราได้พาคุณเจาะลึกเข้าไปในโลกของการ ซื้อขายแบบ Over-the-Counter (OTC) หรือ การซื้อขายแบบนอกตลาด
คุณได้เรียนรู้แล้วว่า OTC คืออะไร มีลักษณะเฉพาะอย่างไร ประยุกต์ใช้กับสินทรัพย์ประเภทใดบ้าง รวมถึงข้อดี ข้อเสีย ความเสี่ยง และพัฒนาการล่าสุด
เราได้เห็นว่าตลาด OTC นั้นมอบ โอกาส ที่น่าสนใจมากมาย แต่ก็มาพร้อมกับ ความท้าทาย ที่สำคัญ
ในฐานะนักลงทุน การทำความเข้าใจในความแตกต่างและลักษณะเฉพาะของ การซื้อขาย OTC คือสิ่งจำเป็น เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
สิ่งสำคัญที่สุดที่เราอยากเน้นย้ำคือ ความรู้และการเตรียมตัว การศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด การบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างรอบคอบ และการเลือกใช้บริการจากผู้ให้บริการที่น่าเชื่อถือ จะช่วยให้คุณสามารถนำทางในโลกของ OTC ได้อย่างมั่นใจ และเปลี่ยนความท้าทายให้กลายเป็นโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืน
ขอให้การเดินทางในเส้นทาง การลงทุน ของคุณเต็มไปด้วยความสำเร็จและชาญฉลาดเสมอ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับotc คือ
Q:OTC คืออะไร?
A:OTC หรือ Over-the-Counter คือการทำธุรกรรมทางการเงินที่เกิดขึ้นโดยตรงระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายโดยไม่ผ่านตลาดหลักทรัพย์
Q:การซื้อขาย OTC มีข้อดีอย่างไร?
A:มีข้อดีเช่นความสะดวกสบาย เปิดให้ซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมง และสามารถเข้าถึงสินทรัพย์ที่ไม่มีการจดทะเบียนได้
Q:ควรระวังอะไรเมื่อทำการซื้อขาย OTC?
A:ควรระวังเรื่องสุขภาพการเงินของบริษัทที่ซื้อขาย ข้อเสนอต่างๆ ที่มีความไม่โปร่งใส และความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง