EPS คืออะไร? ไข 5 ความหมายสำคัญที่นักลงทุนและคนทั่วไปต้องรู้

บทนำ: EPS คืออะไร? ไขความหมายหลากหลายที่ซ่อนอยู่

คำว่า “EPS” อาจทำให้คุณนึกถึงหลายอย่างต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่คุณเคยเจอมา โดยเฉพาะสำหรับคนที่สนใจเรื่องการลงทุนในตลาดหุ้น คำนี้มักหมายถึง “กำไรต่อหุ้น” ซึ่งเป็นตัววัดสำคัญที่ช่วยบอกถึงผลงานและศักยภาพในการสร้างรายได้ของบริษัท แต่จริงๆ แล้ว EPS ยังตีความได้หลายแบบในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ไฟล์ภาพที่ใช้ในงานออกแบบ ไปจนถึงอาการทางการแพทย์ หรือแม้แต่ระบบช่วยขับรถในยานยนต์สมัยใหม่

ภาพประกอบบุคคลกำลังดูอินโฟกราฟิกซับซ้อนที่แสดงความหมายหลายอย่างของ EPS เช่น กราฟหุ้น ไอคอนไฟล์ สัญลักษณ์ทางการแพทย์ และพวงมาลัยรถยนต์

เราจึงรวบรวมข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับ EPS ไว้ที่นี่ เพื่อให้คุณได้คำตอบครบถ้วน โดยเน้นไปที่ความหมายทางการเงินสำหรับนักลงทุนเป็นพิเศษ พร้อมอธิบายความหมายอื่นๆ ที่พบเจอบ่อยๆ หวังว่าจะช่วยให้คุณเข้าใจเรื่องนี้ได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ในวงการลงทุน คนที่กำลังหาความรู้เรื่องการเงิน หรือแค่สงสัยว่าคำนี้หมายถึงอะไรในบริบทที่ตัวเองเจอ คู่มือนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคุณแน่นอน

ภาพประกอบหนังสือคู่มือครอบคลุมเรื่องความหมายของ EPS พร้อมแว่นขยายครอบคลุมกราฟการเงินและสัญลักษณ์อื่นๆ

เพื่อความสะดวกในการค้นหา คุณสามารถเลือกอ่านเฉพาะส่วนที่สนใจได้จากหัวข้อหลักที่เราจัดไว้ดังนี้

ภาพประกอบบุคคลกำลังนำทางผ่านส่วนต่างๆ ของข้อมูลเกี่ยวกับ EPS เช่น กราฟการเงิน สัญลักษณ์ทางการแพทย์ และเครื่องมือออกแบบ
  • EPS ทางการเงิน: กำไรต่อหุ้น
  • เหตุผลที่ EPS สำคัญต่อการเลือกซื้อหุ้น
  • สิ่งที่ส่งผลต่อ EPS และข้อควรระวังสำหรับนักลงทุน
  • ความหมายอื่นๆ ของ EPS: คำอธิบายครบครัน

EPS ทางการเงิน: กำไรต่อหุ้น คืออะไร?

กำไรต่อหุ้น หรือที่รู้จักกันในชื่อ EPS หมายถึงตัวเลขที่บอกส่วนแบ่งจากกำไรสุทธิของบริษัทที่ตกถึงหุ้นสามัญแต่ละหุ้นที่ออกสู่ตลาด การคำนวณนี้ช่วยให้นักลงทุนมองเห็นภาพชัดเจนว่าบริษัททำเงินได้ดีแค่ไหน และมีโอกาสสร้างผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นมากน้อยยังไง จึงกลายเป็นตัวชี้วัดหลักที่ใช้ในการตัดสินใจลงทุน ไม่ว่าจะในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) หรือตลาดหุ้นทั่วโลก

โดยทั่วไป ถ้า EPS สูงขึ้น แสดงว่าบริษัทมีกำไรเพิ่มและผลงานโดดเด่น แต่การดูค่า EPS นี้ต้องไม่มองแค่ตัวเลขอย่างเดียว ต้องพิจารณาปัจจัยรอบด้านเพื่อให้ได้มุมมองที่ถูกต้อง

สูตรการคำนวณ EPS และตัวอย่างเชิงปฏิบัติ

การหาค่า EPS พื้นฐานนั้นเรียบง่าย โดยอาศัยข้อมูลจากงบกำไรขาดทุนและงบดุลของบริษัท

EPS = (กำไรสุทธิ – เงินปันผลหุ้นบุริมสิทธิ) / จำนวนหุ้นสามัญถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก

  • กำไรสุทธิ: ผลกำไรหลังหักค่าใช้จ่ายและภาษีทั้งหมด
  • เงินปันผลหุ้นบุริมสิทธิ: ส่วนที่จ่ายให้ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิก่อน
  • จำนวนหุ้นสามัญถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก: หุ้นสามัญทั้งหมดที่ออกและถือครอง โดยปรับถัวเฉลี่ยตามการเปลี่ยนแปลง เช่น ออกหุ้นใหม่หรือซื้อคืน เพื่อให้ตรงกับช่วงเวลาบัญชีจริง

ตัวอย่างจริง:

สมมติบริษัท พลังงานไทย จำกัด (PTT) มีตัวเลขปีล่าสุดดังนี้

  • กำไรสุทธิ: 100,000 ล้านบาท
  • ไม่มีหุ้นบุริมสิทธิ (เงินปันผล = 0 บาท)
  • จำนวนหุ้นสามัญถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก: 28,572 ล้านหุ้น

ดังนั้น EPS ของ PTT = (100,000 ล้านบาท – 0) / 28,572 ล้านหุ้น ≈ 3.50 บาทต่อหุ้น

ตัวเลขนี้อธิบายว่าบริษัทสร้างกำไรได้ราว 3.50 บาทต่อหุ้นสามัญหนึ่งหุ้นในปีนั้น

ประเภทของ EPS: EPS พื้นฐาน เทียบกับ EPS ที่ปรับลดแล้ว

EPS แบ่งหลักๆ ได้สองแบบ

  1. EPS พื้นฐาน: ใช้วิธีคำนวณตามสูตรข้างต้น อาศัยจำนวนหุ้นสามัญที่ออกจริงถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก เพื่อแสดงส่วนแบ่งกำไรในสถานะปัจจุบัน

  2. EPS ที่ปรับลดแล้ว: คำนวณโดยสมมติว่าหลักทรัพย์ที่แปลงได้ทั้งหมด เช่น หุ้นกู้แปลงสภาพ ใบสำคัญแสดงสิทธิ หุ้นบุริมสิทธิที่แปลงได้ หรือหุ้นจากสิทธิซื้อของพนักงาน ถูกแปลงเป็นหุ้นสามัญแล้ว ทำให้จำนวนหุ้นเพิ่มและ EPS ลดลง แบบนี้ให้มุมมองที่ระมัดระวังมากขึ้นเกี่ยวกับกำไรในอนาคต หากเกิดการแปลงจริง นักลงทุนควรดูทั้งสองแบบเพื่อภาพรวมที่ครบถ้วน

ทำไม EPS จึงสำคัญต่อการตัดสินใจลงทุน?

EPS มีบทบาทสำคัญมากในการช่วยนักลงทุนตัดสินใจ ด้วยเหตุผลหลายข้อที่ชัดเจน

  • บอกถึงศักยภาพกำไร: มันแสดงตรงๆ ว่าบริษัททำกำไรได้กี่บาทต่อหุ้น ยิ่งสูงยิ่งดึงดูด เพราะหมายถึงรายได้ต่อหน่วยหุ้นมาก

  • ช่วยดูแนวโน้มเติบโต: ถ้าติดตาม EPS ต่อเนื่องหลายไตรมาสหรือปี จะเห็นอัตราการเพิ่มขึ้นของกำไร ถ้าเติบโตสม่ำเสมอ แสดงถึงการบริหารที่แข็งแกร่งและโอกาสขยายตัวในอนาคต

  • ช่วยประเมินราคาหุ้น: EPS เป็นฐานสำคัญสำหรับอัตราส่วนอื่นๆ อย่าง P/E Ratio ที่ใช้วัดว่าราคาหุ้นสมเหตุสมผลหรือไม่

  • เปรียบเทียบกับคู่แข่ง: ใช้ EPS ดูว่าบริษัทไหนในอุตสาหกรรมเดียวกันทำกำไรต่อหุ้นได้ดีกว่า

การตีความค่า EPS: สูงดีเสมอไปหรือไม่?

ถึงแม้ EPS สูงจะดูน่าประทับใจ แต่ก็ไม่ใช่ทุกครั้งที่หมายถึงดีทั้งหมด นักลงทุนต้องพิจารณาเพิ่มเติมดังนี้

  • คุณภาพกำไร: บางทีตัวเลขสูงมาจากกำไรชั่วคราว เช่น ขายสินทรัพย์หรือรับเงินชดเชย ซึ่งอาจไม่ยั่งยืน ควรโฟกัสที่กำไรจากการดำเนินงานหลัก

  • การเปลี่ยนจำนวนหุ้น: ถ้าบริษัทซื้อหุ้นคืน EPS จะพุ่งแม้กำไรเท่าเดิม แต่ถ้าออกหุ้นใหม่เยอะ EPS อาจลดลงแม้กำไรเพิ่ม

  • อุตสาหกรรม: ค่า EPS ที่เหมาะสมต่างกันไปตามสาขา บริษัทเติบโตเร็วอาจมีตัวเลขสูงกว่าอุตสาหกรรมช้า ดังนั้นเปรียบเทียบในกลุ่มเดียวกัน

  • หนี้สิน: EPS สูงแต่หนี้เยอะอาจเสี่ยง หากจัดการไม่ดีจะกระทบกำไรอนาคต

EPS กับ P/E Ratio: เครื่องมือคู่คิดในการประเมินมูลค่าหุ้น

อัตราส่วนราคาต่อกำไร หรือ P/E Ratio เป็นเครื่องมือยอดนิยมในการวัดมูลค่าหุ้น โดยมี EPS เป็นส่วนสำคัญ

P/E Ratio = ราคาตลาดต่อหุ้น / EPS

ตัวเลขนี้บอกว่านักลงทุนเต็มใจจ่ายกี่เท่าของกำไรเพื่อซื้อหุ้นนั้น

  • P/E สูง: มักสะท้อนความคาดหวังเติบโตสูง หรืออุตสาหกรรมที่รุ่งเรือง

  • P/E ต่ำ: อาจหมายถึงหุ้นราคาถูก หรือมีข้อกังวลเรื่องอนาคต

การรวม EPS กับ P/E ช่วยให้นักลงทุนเห็นว่าหุ้นแพงหรือถูกเมื่อเทียบกับกำไร และนำไปเทียบกับค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมหรือคู่แข่งได้ ข้อมูลเพิ่มเติมลองดูจากบทความจากธนาคารกรุงศรี

ปัจจัยที่มีผลต่อ EPS และข้อจำกัดที่นักลงทุนควรรู้

EPS ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่กำไรสุทธิอย่างเดียว แต่มีปัจจัยอื่นๆ ที่กระทบโดยตรง นักลงทุนควรรู้จักเพื่อวิเคราะห์ให้รอบคอบ

ปัจจัยหลักที่ส่งผล:

  • รายได้และต้นทุน: ถ้าขายได้มากและควบคุมค่าใช้จ่ายดี กำไรสุทธิเพิ่ม EPS ก็ตาม

  • ภาษี: อัตราภาษีที่เปลี่ยนจะกระทบกำไรหลังหักภาษีตรงๆ

  • โครงสร้างทุน:

    • ซื้อหุ้นคืน: ลดจำนวนหุ้นหมุนเวียน ทำให้ EPS สูงขึ้นแม้กำไรเท่าเดิม
    • เพิ่มทุน: ออกหุ้นใหม่เพิ่มจำนวนหุ้น EPS อาจลดถ้ากำไรไม่โตตาม
  • นโยบายบัญชี: วิธีคิดค่าเสื่อมหรือรับรู้รายได้ สามารถปรับเปลี่ยนตัวเลขกำไรและ EPS ได้

ข้อจำกัดที่ต้องระวัง:

  • ไม่ใช่กระแสเงินสดจริง: EPS มาจากบัญชี แต่เงินสดจริงอาจต่าง บริษัทกำไรสูงแต่เงินสดต่ำอาจมีปัญหาสภาพคล่อง ควรดูงบกระแสเงินสดด้วย

  • ถูกบิดเบือนง่าย: กำไรชั่วคราวหรือปรับโครงสร้างหุ้น สามารถทำให้ EPS ดูดีหรือแย่โดยไม่สะท้อนผลงานหลัก

  • ไม่บอกคุณภาพกำไร: ไม่ชี้ว่ากำไรมาจากแหล่งยั่งยืนหรือไม่ ต้องวิเคราะห์รายได้และค่าใช้จ่ายลึกๆ

  • ต้องใช้กับตัวชี้วัดอื่น: ดู EPS อย่างเดียวเสี่ยงพลาด ควรรวม ROE, ROA, D/E Ratio และงบกระแสเงินสด เพื่อภาพรวมที่แม่นยำ

“EPS” ในความหมายอื่นๆ: สารานุกรมสำหรับทุกคำถาม

นอกจากเรื่องการเงิน EPS ยังใช้ในสาขาอื่นๆ มากมาย นี่คือตัวอย่างที่พบบ่อย

EPS (Encapsulated PostScript) ไฟล์สำหรับการออกแบบกราฟิก

ในวงการกราฟิกและพิมพ์ EPS คือ Encapsulated PostScript ซึ่งเป็นไฟล์เวกเตอร์ที่เก็บภาพคุณภาพสูง สามารถยืดหดได้โดยไม่เสียรายละเอียด

  • คุณสมบัติ: รวมทั้งเวกเตอร์จากเส้นทางคณิตศาสตร์และแรสเตอร์จากพิกเซล

  • การใช้งาน: เหมาะกับโลโก้ ภาพประกอบ สิ่งพิมพ์คมชัดอย่างโปสเตอร์หรือนิตยสาร เปิดแก้ได้ในAdobe Illustrator, Photoshop หรือ CorelDRAW

  • ข้อดี: ขยายย่อได้โดยไม่เบลอ เหมาะพิมพ์ขนาดต่างๆ

EPS (Extrapyramidal Symptoms) อาการข้างเคียงทางการแพทย์

ทางการแพทย์ EPS คือ Extrapyramidal Symptoms หรืออาการผิดปกติการเคลื่อนไหว มักเกิดจากยาบางตัว โดยเฉพาะยาต้านจิตเภท

  • สาเหตุ: ปัญหาในระบบ extrapyramidal ที่ควบคุมการเคลื่อนไหว

  • อาการหลัก:

    • Akathisia: กระวนกระวาย อยู่ไม่สุข
    • Dystonia: กล้ามเนื้อเกร็ง ท่าทางผิดปกติ
    • Parkinsonism: สั่น แข็ง เคลื่อนช้า ทรงตัวไม่ดี
    • Tardive Dyskinesia: เคลื่อนไหวซ้ำๆ ใบหน้า ปาก ลิ้น แขนขา หลังใช้ยานาน
  • การจัดการ: ลดยา เปลี่ยนยา หรือให้ยาช่วยบรรเทา ต้องปรึกษาแพทย์

EPS (Electric Power Steering) ระบบช่วยเลี้ยวในรถยนต์

ในรถยนต์ EPS คือ Electric Power Steering หรือระบบพวงมาลัยไฟฟ้า แทนที่ระบบไฮดรอลิกเก่า

  • การทำงาน: มอเตอร์ไฟฟ้าช่วยหมุนพวงมาลัย ลดแรง โดยเฉพาะตอนช้าหรือจอด

  • ข้อดี:

    • ประหยัดน้ำมัน: ไม่ใช้พลังเครื่องยนต์
    • น้ำหนักเบา: ลดน้ำหนักรถ
    • ควบคุมดี: ปรับตามความเร็ว ขับเร็วมั่นคง ช้าคล่องตัว
    • บำรุงน้อย: ไม่มีน้ำมันรั่ว

EPS (Expanded Polystyrene) โฟม/วัสดุ

EPS ในวัสดุคือ Expanded Polystyrene พลาสติกโฟมเบาที่ใช้บรรจุภัณฑ์กันกระแทก ฉนวนอาคาร หรือหมวกกันน็อค เพราะดูดซับแรงและกันร้อนดี

สรุป: ใช้ EPS เป็นเครื่องมือสู่การลงทุนอย่างชาญฉลาด

EPS มีความหมายหลากหลาย แต่สำหรับการลงทุน กำไรต่อหุ้นคือหัวใจที่ต้องเข้าใจให้ลึก มันบอกถึงความสามารถทำกำไรของบริษัท และช่วยวิเคราะห์มูลค่าหุ้นได้ดี

แต่การดู EPS อย่างเดียวอาจไม่พอ นักลงทุนฉลาดต้องรวมกับ P/E Ratio, ROE, งบกระแสเงินสด ปัจจัยคุณภาพอย่างการบริหาร อุตสาหกรรม และเศรษฐกิจใหญ่ การรู้ข้อจำกัดจะช่วยหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาด

สำหรับนักลงทุนไทย ลองหาข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และเว็บตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เพื่อใช้ EPS และตัวชี้วัดอื่นๆ ให้เกิดประโยชน์ สู่ความสำเร็จยั่งยืน

คำถามที่พบบ่อย (FAQs) เกี่ยวกับ EPS

EPS คืออะไรในหุ้น และทำไมนักลงทุนต้องรู้?

EPS ย่อมาจาก “Earnings Per Share” หรือ กำไรต่อหุ้น เป็นตัวชี้วัดทางการเงินที่แสดงว่าบริษัททำกำไรได้เท่าไหร่ต่อหุ้นสามัญหนึ่งหุ้นที่ออกจำหน่าย นักลงทุนจำเป็นต้องรู้ EPS เพื่อประเมินความสามารถในการทำกำไรของบริษัท, วิเคราะห์แนวโน้มการเติบโต, และใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุนร่วมกับอัตราส่วนอื่นๆ เช่น P/E Ratio

EPS สูงดีเสมอไปหรือไม่? มีข้อควรระวังอะไรบ้างในการวิเคราะห์?

EPS สูงมักเป็นสัญญาณที่ดี แต่ไม่ใช่เสมอไป ข้อควรระวังคือ ต้องพิจารณาคุณภาพของกำไร (ว่าเป็นกำไรปกติหรือกำไรพิเศษ), การเปลี่ยนแปลงจำนวนหุ้น (เช่น การซื้อหุ้นคืนหรือเพิ่มทุน), และเปรียบเทียบกับบริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกัน นอกจากนี้ควรดูตัวชี้วัดอื่นๆ ประกอบ เช่น กระแสเงินสด และอัตราส่วนหนี้สิน

การคำนวณ EPS พื้นฐานและ EPS ที่ปรับลดแล้ว (Diluted EPS) แตกต่างกันอย่างไร?

EPS พื้นฐาน (Basic EPS) คำนวณจากกำไรสุทธิหารด้วยจำนวนหุ้นสามัญถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักที่ออกจำหน่ายจริง ส่วน EPS ที่ปรับลดแล้ว (Diluted EPS) จะคำนวณโดยสมมติว่าหลักทรัพย์แปลงสภาพทั้งหมด (เช่น หุ้นกู้แปลงสภาพ, ใบสำคัญแสดงสิทธิ) ได้ถูกแปลงเป็นหุ้นสามัญแล้ว ซึ่งจะทำให้จำนวนหุ้นเพิ่มขึ้นและ EPS ลดลง Diluted EPS ให้ภาพที่อนุรักษ์นิยมมากขึ้นเกี่ยวกับกำไรต่อหุ้นในสถานการณ์ที่หลักทรัพย์เหล่านี้ถูกแปลงสภาพจริง

EPS กับ P/E Ratio สัมพันธ์กันอย่างไร และใช้ดูอะไรในการประเมินมูลค่าหุ้น?

EPS เป็นส่วนประกอบสำคัญของ P/E Ratio (ราคาตลาดต่อหุ้น / EPS) P/E Ratio ใช้ในการประเมินว่านักลงทุนยินดีจ่ายเงินกี่เท่าของกำไรต่อหุ้นเพื่อซื้อหุ้นนั้นๆ หาก P/E สูง อาจบ่งชี้ว่านักลงทุนคาดหวังการเติบโตสูง หรือหุ้นนั้นมีราคาแพงเมื่อเทียบกับกำไร ในขณะที่ P/E ต่ำอาจหมายถึงหุ้นมีราคาถูก หรือนักลงทุนมีความกังวล การใช้สองตัวนี้ร่วมกันช่วยให้เห็นภาพมูลค่าหุ้นที่ชัดเจนขึ้น

ถ้า EPS ติดลบหมายความว่าอย่างไร และควรลงทุนในหุ้นที่มี EPS ติดลบหรือไม่?

ถ้า EPS ติดลบ หมายความว่าบริษัทมีผลขาดทุนต่อหุ้นในงวดนั้นๆ ซึ่งบ่งชี้ว่าบริษัทไม่สามารถทำกำไรได้ การลงทุนในหุ้นที่มี EPS ติดลบมีความเสี่ยงสูงมาก เพราะแสดงถึงผลประกอบการที่ไม่ดี อย่างไรก็ตาม บางบริษัทที่อยู่ในช่วงเริ่มต้นหรือกำลังลงทุนหนักเพื่อการเติบโตในอนาคต อาจมี EPS ติดลบชั่วคราวได้ นักลงทุนควรศึกษาอย่างละเอียดถึงสาเหตุของการขาดทุนและแผนการฟื้นฟูของบริษัทก่อนตัดสินใจ

นอกจากกำไรต่อหุ้นแล้ว “EPS” ยังมีความหมายว่าอะไรได้อีกบ้างในชีวิตประจำวัน?

นอกจากกำไรต่อหุ้นแล้ว “EPS” ยังมีความหมายอื่นๆ ได้อีก เช่น:

  • EPS (Encapsulated PostScript) ไฟล์: รูปแบบไฟล์กราฟิกแบบเวกเตอร์สำหรับการออกแบบและการพิมพ์
  • EPS (Extrapyramidal Symptoms) ทางการแพทย์: อาการข้างเคียงจากการใช้ยาบางชนิดที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหว
  • EPS (Electric Power Steering) ในรถยนต์: ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้าในรถยนต์
  • EPS (Expanded Polystyrene): พลาสติกโฟมน้ำหนักเบาที่ใช้ในบรรจุภัณฑ์และฉนวน

ไฟล์ EPS คืออะไร และใช้กับโปรแกรมออกแบบกราฟิก (เช่น Adobe Illustrator) อย่างไร?

ไฟล์ EPS (Encapsulated PostScript) เป็นรูปแบบไฟล์กราฟิกที่สามารถเก็บได้ทั้งข้อมูลเวกเตอร์และแรสเตอร์ มีคุณสมบัติเด่นคือสามารถปรับขนาดได้โดยไม่สูญเสียคุณภาพ จึงเหมาะสำหรับงานออกแบบที่ต้องการความคมชัดสูง เช่น โลโก้หรือภาพประกอบในสิ่งพิมพ์ สามารถเปิดและแก้ไขได้ดีที่สุดด้วยโปรแมกราฟิกเวกเตอร์ เช่น Adobe Illustrator หรือ CorelDRAW โดยสามารถนำเข้า (Import) หรือเปิดไฟล์ได้โดยตรง

อาการ EPS ทางการแพทย์คืออะไร มีสาเหตุและวิธีการรักษาอย่างไร?

อาการ EPS (Extrapyramidal Symptoms) ทางการแพทย์คือกลุ่มอาการผิดปกติของการเคลื่อนไหว เช่น อาการสั่น, กล้ามเนื้อบิดเกร็ง, กระวนกระวายอยู่ไม่สุข มักเกิดจากผลข้างเคียงของการใช้ยาบางชนิด โดยเฉพาะยาต้านโรคจิตบางประเภท การรักษาหลักคือการปรับลดยา, เปลี่ยนยา, หรือใช้ยาเพื่อบรรเทาอาการ โดยอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ระบบ EPS ในรถยนต์คืออะไร และมีผลต่อการขับขี่อย่างไร?

ระบบ EPS (Electric Power Steering) ในรถยนต์คือ ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้าที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าช่วยผ่อนแรงในการหมุนพวงมาลัย แทนระบบไฮดรอลิกแบบเดิม มีผลต่อการขับขี่โดยทำให้การบังคับเลี้ยวเบาและง่ายขึ้น โดยเฉพาะที่ความเร็วต่ำหรือขณะจอด นอกจากนี้ยังช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงและลดภาระการบำรุงรักษาเมื่อเทียบกับระบบพาวเวอร์แบบเก่า

นักลงทุนมือใหม่ในตลาดหุ้นไทยควรใช้ EPS ในการตัดสินใจลงทุนอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ?

นักลงทุนมือใหม่ควรใช้ EPS เป็นจุดเริ่มต้นในการทำความเข้าใจว่าบริษัททำกำไรได้ดีเพียงใดต่อหุ้นแต่ละหน่วย จากนั้นควรใช้ EPS ร่วมกับตัวชี้วัดอื่นๆ เช่น P/E Ratio เพื่อประเมินมูลค่าหุ้น และเปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม นอกจากนี้ ควรศึกษาแนวโน้มของ EPS ย้อนหลัง, พิจารณาคุณภาพของกำไร, และไม่ลืมที่จะดูงบการเงินอื่นๆ ของบริษัท เพื่อให้ได้ภาพรวมที่สมบูรณ์และลดความเสี่ยงในการลงทุน

More From Author

PAMM คืออะไร? 5 เหตุผลที่นักลงทุนไทยไม่ควรมองข้ามโอกาสทำกำไรใน Forex

โลหะมีค่า: คู่มือลงทุน 8 ชนิดสำคัญ พร้อมโอกาสและความเสี่ยงในไทย

發佈留言