เก็งกําไรค่าเงิน ผิดกฎหมายจริงหรือ? 9 คำถามควรรู้ก่อนเทรด Forex ในไทย

บทนำ: ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการ “เก็งกำไรค่าเงิน” ในประเทศไทย

หลายคนคงเคยสงสัยว่า การเก็งกำไรค่าเงินผิดกฎหมายจริงหรือไม่ โดยเฉพาะคนที่สนใจลงทุนหรือแม้แต่คนทั่วไปที่ต้องแลกเงินต่างประเทศบ่อยๆ บทความนี้จึงอยากช่วยเคลียร์ความเข้าใจผิดๆ ระหว่างการแลกเงินเพื่อใช้สอยปกติ กับการเก็งกำไรที่อาจขัดกฎหมายในไทย โดยอ้างอิงจากกฎระเบียบของธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่ดูแลความมั่นคงของค่าเงินบาท

โฆษณาบนแอปต่างชาติมักชวนให้คิดว่าการเทรด Forex สามารถทำเงินได้ไวและง่ายดาย จนหลายคนเกิดคำถามว่าทำแบบนี้ในไทยผิดกฎหมายไหม ที่นี่เราจะนำเสนอข้อมูลที่ตรงไปตรงมาตามกฎหมายไทย เพื่อช่วยให้คุณแยกแยะได้ว่าอะไรถูก อะไรผิด และเข้าใจความเสี่ยงที่อาจตามมาจากการทำผิดกฎ

ภาพประกอบบุคคลสับสนกับกฎหมายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ พร้อมอาคารธนาคารกลางในพื้นหลัง

เก็งกำไรค่าเงินคืออะไร? นิยามและประเภทที่ควรรู้

ในทางเศรษฐศาสตร์ การเก็งกำไรค่าเงินหมายถึงการทำธุรกรรมในตลาดอัตราแลกเปลี่ยน โดยจุดประสงค์หลักคือหวังกำไรจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ไม่ใช่เพื่อการค้าขายจริง การลงทุนแท้ๆ หรือชำระหนี้ ผู้เก็งกำไรจะพยายามเดาทิศทางค่าเงิน แล้วซื้อสกุลที่คาดว่าจะแข็งขึ้น ขณะที่ขายสกุลที่คาดว่าจะอ่อนลง

รูปแบบที่พบเจอบ่อยๆ มีดังนี้

  • การซื้อขาย Forex ระยะสั้น (Day Trading/Scalping): ซื้อขายสกุลเงินปริมาณมากในเวลาสั้นๆ เช่น นาทีหรือชั่วโมง เพื่อเก็บบวกจากความผันผวนเล็กน้อย
  • Currency Arbitrage: ใช้ประโยชน์จากส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงินเดียวกันในตลาดต่างๆ หรือสกุลที่เกี่ยวข้องกัน โดยอาศัยความรวดเร็วในการเทรด
  • Carry Trade: ยืมเงินสกุลที่มีดอกเบี้ยต่ำมาลงทุนในสกุลที่มีดอกเบี้ยสูง หวังกำไรจากส่วนต่างดอกเบี้ย บวกกับการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยน

สิ่งที่แตกต่างจากการแลกเงินเพื่อจุดประสงค์ทั่วไป เช่น แลกบาทเป็นดอลลาร์เพื่อเที่ยวต่างประเทศ ชำระค่าซื้อของออนไลน์จากต่างแดน หรือส่งเงินให้ลูกเรียนต่อต่างประเทศ คือ การเก็งกำไรเน้นกำไรตรงๆ จากความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทกับสกุลอื่น ซึ่งอาจกระทบความมั่นคงของตลาดแลกเปลี่ยนโดยรวมได้

ภาพประกอบสัญลักษณ์สกุลเงินต่างๆ ผันผวนบนกราฟการเงินที่แสดงการเก็งกำไรในตลาด

เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น ลองนึกถึงกรณีในอดีตที่นักลงทุนต่างชาติเคยเก็งกำไรค่าเงินเอเชีย จนเกิดวิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 ซึ่งทำให้ค่าเงินผันผวนรุนแรงและกระทบเศรษฐกิจไทยอย่างหนัก

กฎหมายและข้อบังคับเกี่ยวกับการเก็งกำไรค่าเงินในประเทศไทย: ธปท. ว่าอย่างไร?

ธปท. มีหน้าที่หลักในการดูแลความมั่นคงของค่าเงินบาทและเศรษฐกิจไทย เพื่อไม่ให้การเก็งกำไรทำลายความสมดุล ธปท. จึงมีกฎระเบียบเข้มงวดเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

ตามพระราชบัญญัติควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินตรา พ.ศ. 2485 และประกาศของ ธปท. การซื้อขาย แลกเปลี่ยน หรือทำธุรกรรมเงินต่างประเทศต้องผ่านผู้ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หรือข้อยกเว้นจาก ธปท. เท่านั้น

พฤติกรรมที่ถือว่าผิดกฎหมายหรือขัดเจตนารมณ์การควบคุมค่าเงิน ได้แก่

  • การซื้อขายเงินต่างประเทศโดยไม่มีอนุญาตจากเจ้าหน้าที่
  • การปล่อยข่าวเท็จ สร้างกระแส หรือเผยแพร่ข้อมูลหลอกลวงเกี่ยวกับค่าเงินเพื่อเก็งกำไร
  • การก่อความผันผวนให้ค่าเงินบาทโดยไม่มีเหตุผลสมควร ซึ่งกระทบเศรษฐกิจ
  • การนำเงินต่างประเทศเข้าออกประเทศโดยไม่ทำตามกฎ

ธปท. ใช้มาตรการป้องกันหลายอย่าง เช่น กำหนดเพดานแลกเงิน ติดตามธุรกรรมผิดปกติ และเตือนประชาชน โดยเป้าหมายคือรักษาอัตราแลกเปลี่ยนให้มั่นคง สนับสนุนการเติบโตเศรษฐกิจยั่งยืน และลดความเสี่ยงจากเงินทุนไหลเข้าออกโดยไม่มีพื้นฐาน ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่เว็บไซต์ของธนาคารแห่งประเทศไทย

ภาพประกอบสัญลักษณ์ธนาคารแห่งประเทศไทยที่ดูแลธุรกรรมค่าเงินพร้อมเอกสารกฎหมายอย่างเป็นทางการ

ตัวอย่างเช่น ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ธปท. เคยปรับมาตรการเพื่อป้องกันการเก็งกำไรที่อาจทำให้บาทอ่อนลงกะทันหัน ส่งผลดีต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

การแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศแบบไหนที่ “ถูกกฎหมาย” ในประเทศไทย

ถึงแม้การเก็งกำไรโดยไม่มีอนุญาตจะผิดกฎ แต่การแลกเงินต่างประเทศเพื่อเหตุผลที่ถูกต้องนั้นทำได้อย่างอิสระและปลอดภัยในไทย เพียงต้องผ่านสถาบันการเงินที่ได้รับอนุมัติเท่านั้น

จุดประสงค์ที่อนุญาตให้แลกเงินต่างประเทศ ได้แก่

  • การท่องเที่ยวและการเดินทาง: แลกเงินเพื่อใช้จ่ายต่างแดน
  • การศึกษา: ส่งเงินจ่ายค่าเรียนและค่าครองชีพให้นักเรียนต่างประเทศ
  • การชำระหนี้: คืนเงินกู้หรือหนี้ต่างประเทศ
  • การค้าขาย: จ่ายค่าสินค้านำเข้า-ส่งออก
  • การลงทุนในต่างประเทศ: ลงทุนหลักทรัพย์หรืออสังหาฯ ต่างแดน ผ่านช่องทางที่ได้รับอนุมัติ เช่น กองทุนรวมหรือโบรกเกอร์ที่ ก.ล.ต. รับรอง
  • การโอนเงินเพื่ออุปการะเลี้ยงดู: ส่งเงินให้ครอบครัวหรือญาติต่างประเทศ

ช่องทางที่ถูกกฎหมายคือธนาคารพาณิชย์ในไทย เช่น ธนาคารกสิกรไทย (KBank), ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB), ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารกรุงเทพ หรือร้านแลกเงินที่ ธปท. อนุญาต (Money Changer) ถ้าแลกจำนวนมาก อาจต้องแสดงหลักฐาน เช่น ตั๋วเครื่องบิน ใบเสร็จค่าเรียน สัญญาซื้อขาย หรือเอกสารลงทุน เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมาย

การเลือกใช้บริการจากสถาบันที่น่าเชื่อถือและได้รับอนุมัติจึงสำคัญมาก เพื่อความปลอดภัยและถูกกฎ

สำหรับครอบครัวที่วางแผนส่งลูกไปเรียนต่อ ลองนึกภาพที่พ่อแม่ไปธนาคารพร้อมเอกสาร แล้วแลกเงินได้อย่างสบายใจ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องกฎหมาย

ความเสี่ยงและบทลงโทษของการเก็งกำไรค่าเงินโดยไม่ได้รับอนุญาตในไทย

การเก็งกำไรค่าเงินโดยไม่มีอนุญาตในไทย ไม่ใช่แค่เสี่ยงเงินทุน แต่ยังอาจโดนโทษกฎหมายหนักหน่วง ซึ่งผู้ทำควรตระหนักให้ดี

ความเสี่ยงทางกฎหมาย:

ใครที่ซื้อขายเงินต่างประเทศโดยไม่มีอนุญาต หรือเก็งกำไรขัดกฎควบคุมการแลกเปลี่ยน อาจเจอ

  • บทลงโทษทางอาญา: ตาม พ.ร.บ. ควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินตรา พ.ศ. 2485 อาจโดนจำคุก ปรับ หรือทั้งสองอย่าง ขึ้นกับความรุนแรง
  • ค่าปรับจำนวนมาก: ปรับเงินสูง อาจหลายเท่าของมูลค่าที่เกี่ยวข้อง
  • การถูกยึดทรัพย์: เงินต่างประเทศหรือทรัพย์ที่ได้จากผิดกฎ อาจถูกยึดเป็นของรัฐ
  • การถูกดำเนินคดีอาญา: รวมถึงขึ้นศาลและมีประวัติ犯罪

ความเสี่ยงทางการเงิน:

นอกจากโทษกฎหมาย การลงทุนในแพลตฟอร์ม Forex ที่ไม่ได้รับการกำกับในไทยยังเสี่ยงเงินสูง

  • การขาดทุนสูง: ตลาด Forex ผันผวนมาก การเดาทิศทางยาก อาจเสียเงินต้นทั้งหมด
  • การถูกฉ้อโกง: แพลตฟอร์มไม่กำกับหลายแห่งคือมิจฉาชีพ เสี่ยงถอนเงินไม่ได้หรือโดนหลอก
  • ไม่มีการคุ้มครอง: ถ้ามีปัญหา ไม่ได้รับปกป้องตามกฎไทย เพราะไม่ได้ผ่านช่องทางถูกกฎ
  • การฟอกเงิน: ใช้แพลตฟอร์มผิดกฎ อาจพัวพันฟอกเงินโดยไม่ตั้งใจ ซึ่งโทษหนัก

การเก็งกำไรขนาดใหญ่โดยไม่มีอนุญาตยังกระทบค่าเงินบาทและเศรษฐกิจไทย ทำให้ ธปท. ต้องควบคุม ซึ่งอาจลามถึงธุรกิจและคนทั่วไป

จากเคสจริงในไทย มีผู้เสียหายจากแอปเทรดต่างชาติหลายรายที่สูญเงินล้านและโดนคดีเพิ่มเติมเพราะผิดกฎแลกเปลี่ยน

คำแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจการลงทุนในตลาดต่างประเทศอย่างถูกกฎหมาย

ถ้าคุณอยากกระจายพอร์ตลงทุนต่างประเทศแบบถูกกฎในไทย มีทางเลือกปลอดภัยที่ ก.ล.ต. กำกับดูแล ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงได้มาก

ช่องทางลงทุนต่างประเทศที่ถูกกฎและได้รับกำกับในไทย ได้แก่

  • การลงทุนผ่านกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ (FIF – Foreign Investment Fund): ทางเลือกยอดนิยมเพราะสะดวก ผู้ลงทุนซื้อหน่วยกองทุนจากบริษัทจัดการกองทุน (บลจ.) ในไทย ซึ่ง บลจ. จะเอาเงินไปลงทุนหลักทรัพย์ต่างแดนตามนโยบาย ไม่ต้องแลกเงินเอง
  • การซื้อหุ้นต่างประเทศโดยตรงผ่านโบรกเกอร์ที่ได้รับใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. ไทย: โบรกเกอร์ไทยหลายแห่งได้รับอนุมัติจาก ก.ล.ต. ให้เทรดหุ้นต่างประเทศตรงๆ เปิดบัญชีแล้วเทรดได้เลย
  • การลงทุนในพันธบัตรหรือตราสารหนี้ต่างประเทศ: ทำผ่านสถาบันที่ได้รับอนุมัติ เช่น พันธบัตรรัฐบาลหรือบริษัทต่างชาติ
  • การลงทุนผ่านการประกันชีวิตควบการลงทุน (Unit-linked): ผลิตภัณฑ์ประกันบางตัวมีตัวเลือกกองทุนต่างประเทศ

ท่านสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. ได้ที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อความมั่นใจ

ข้อแนะนำเพิ่มเติม:

  • ศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด: เรียนรู้ผลิตภัณฑ์ นโยบาย ความเสี่ยง และค่าธรรมเนียมก่อนลงทุน
  • ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการเงิน: ถ้าไม่ชัวร์ ถามที่ปรึกษาที่มีใบอนุญาต
  • เลือกใช้บริการจากสถาบันที่เชื่อถือได้: เช็คว่าสถาบันหรือโบรกเกอร์ได้รับอนุมัติจากหน่วยงานไทย

ตารางสรุปช่องทางการลงทุนต่างประเทศที่ได้รับอนุญาต

ช่องทางการลงทุน ข้อดี หน่วยงานกำกับดูแล
กองทุนรวม FIF สะดวก, กระจายความเสี่ยง, ไม่ต้องดำเนินการเอง ก.ล.ต.
ซื้อหุ้นต่างประเทศผ่านโบรกเกอร์ไทย ควบคุมการลงทุนได้เอง, เข้าถึงตลาดต่างประเทศโดยตรง ก.ล.ต.
พันธบัตร/ตราสารหนี้ต่างประเทศ ความเสี่ยงต่ำกว่าหุ้น (ขึ้นอยู่กับผู้ออก) ก.ล.ต. (ผ่านสถาบันที่ได้รับอนุญาต)

การลงทุน FIF ตัวอย่างเช่น กองทุนที่ลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ช่วยให้คนไทยเข้าถึงโอกาสต่างแดนโดยไม่ต้องกังวลเรื่องแลกเงินเอง

สรุป: เข้าใจกฎ เล่นอย่างถูกกติกา ปลอดภัยจากความเสี่ยง

การเก็งกำไรค่าเงินโดยไม่มีอนุญาตในไทยคือการกระทำผิดกฎและเสี่ยงสูงทั้งกฎหมายและเงินทุน บทความนี้ชี้ชัดถึงกฎของ ธปท. ที่มุ่งรักษาความมั่นคงค่าเงินบาท และมาตรการป้องกันผลกระทบเศรษฐกิจ

การรู้กฎและระเบียบของ ธปท. สำหรับกิจกรรมเงินต่างประเทศจึงสำคัญมาก การแลกเงินเพื่อเหตุผลถูกกฎ เช่น เที่ยว เรียน ค้า หรือลงทุนต่างประเทศผ่านช่องทางอนุมัติ ทำได้ปลอดภัยและถูกต้อง

เราอยากให้คุณเป็นนักลงทุนฉลาดและรับผิดชอบ เช็คแหล่งข้อมูลและแพลตฟอร์มให้ดี ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ และใช้บริการสถาบันที่เชื่อถือได้ภายใต้การกำกับของ ธปท. และ ก.ล.ต. เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงกฎหมาย โทษ และขาดทุน

คำถามที่พบบ่อย (FAQs) เกี่ยวกับการเก็งกำไรค่าเงินในประเทศไทย

1. ซื้อเงินต่างประเทศ เก็งกำไรกับธนาคารในไทย ทำได้หรือไม่? ผิดกฎหมายไหม?

ธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทยให้บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเพื่อวัตถุประสงค์ที่ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น เช่น การเดินทาง การค้า การศึกษา หรือการลงทุนที่ได้รับอนุญาต การซื้อขายเงินตราต่างประเทศเพื่อวัตถุประสงค์ในการเก็งกำไรโดยตรง และสร้างความผันผวนให้ตลาดค่าเงินบาท อาจไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายและข้อบังคับของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ดังนั้น การเก็งกำไรค่าเงินกับธนาคารโดยตรงในลักษณะที่ผิดปกติหรือมีเจตนาเพื่อการเก็งกำไรล้วน ๆ อาจไม่สามารถทำได้และอาจเข้าข่ายผิดกฎหมายได้

2. การซื้อขาย Forex ผ่านแพลตฟอร์มต่างประเทศ ที่ไม่มีสำนักงานในไทย ถือเป็นการเก็งกำไรค่าเงินที่ผิดกฎหมายในประเทศไทยหรือไม่?

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกประกาศเตือนอย่างชัดเจนว่า การซื้อขายเงินตราต่างประเทศผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ไม่ได้เป็นธนาคารพาณิชย์ หรือผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับอนุญาตในประเทศไทย ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินตรา ไม่ว่าแพลตฟอร์มนั้นจะมีสำนักงานอยู่ในต่างประเทศหรือไม่ก็ตาม การกระทำดังกล่าวมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกหลอกลวง และไม่มีการคุ้มครองทางกฎหมายในประเทศไทย

3. ถ้าต้องการแลกเงินต่างประเทศจำนวนมากเพื่อการลงทุนในต่างประเทศ ต้องทำอย่างไรให้ถูกกฎหมายและผ่านธนาคารใดได้บ้าง?

หากต้องการแลกเงินเพื่อการลงทุนในต่างประเทศอย่างถูกกฎหมาย คุณควรทำผ่านธนาคารพาณิชย์ที่ได้รับอนุญาตในประเทศไทย เช่น ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารกรุงไทย หรือธนาคารกรุงเทพ โดยคุณจะต้องแสดงเอกสารหลักฐานที่แสดงวัตถุประสงค์ของการลงทุน เช่น หนังสือยืนยันการลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศ (FIF) หรือเอกสารการซื้อหลักทรัพย์ต่างประเทศผ่านโบรกเกอร์ที่ได้รับใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. ไทย

4. หากไม่แน่ใจว่าการกระทำของเราเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศผิดกฎหมายหรือไม่ ควรปรึกษาใครหรือหน่วยงานใด?

หากคุณไม่แน่ใจว่าการกระทำของคุณถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย หรือติดต่อสอบถามโดยตรงกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือธนาคารพาณิชย์ที่คุณใช้บริการ เพื่อขอคำแนะนำที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน

5. เก็งกำไรค่าเงินบาทมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและค่าครองชีพของคนไทยอย่างไร?

การเก็งกำไรค่าเงินบาทในวงกว้างอาจทำให้ค่าเงินบาทผันผวนผิดปกติ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะภาคการส่งออกและนำเข้า ความผันผวนที่รุนแรงอาจทำให้ผู้ส่งออกและผู้นำเข้าวางแผนธุรกิจได้ยากขึ้น กระทบต่อการลงทุน และอาจส่งผลให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคปรับตัวสูงขึ้นหรือต่ำลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อค่าครองชีพของคนไทย

6. นำเงินตราต่างประเทศเข้าออกประเทศไทยมีกฎเกณฑ์หรือข้อจำกัดอย่างไรบ้าง?

การนำเงินตราต่างประเทศเข้าหรือออกประเทศไทยมีข้อกำหนดตามกฎหมายควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินตรา โดยทั่วไปแล้ว การนำเงินตราต่างประเทศสกุลใดสกุลหนึ่ง หรือหลายสกุลรวมกันมีมูลค่าเกิน 20,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (หรือเทียบเท่า) เข้าหรือออกประเทศ จะต้องสำแดงต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากร ณ ด่านศุลกากร การไม่สำแดงหรือสำแดงเป็นเท็จอาจมีโทษปรับและถูกริบเงินได้ ควรตรวจสอบประกาศล่าสุดของธนาคารแห่งประเทศไทยและกรมศุลกากร

7. ธนาคารกสิกรไทย (KBank), SCB หรือกรุงไทย มีบริการที่เกี่ยวข้องกับการ “เก็งกำไรค่าเงิน” โดยตรงหรือไม่?

ธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทย เช่น กสิกรไทย, ไทยพาณิชย์ (SCB) และกรุงไทย ไม่มีบริการที่มุ่งเน้นการ “เก็งกำไรค่าเงิน” โดยตรงในลักษณะที่ผิดกฎหมาย ธนาคารเหล่านี้ให้บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเพื่อวัตถุประสงค์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย และเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนในต่างประเทศผ่านกองทุนรวม หรือการซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศผ่านบริษัทหลักทรัพย์ในเครือที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. ซึ่งเป็นการลงทุนที่ถูกกฎหมายและอยู่ภายใต้การกำกับดูแล

8. มีวิธี “หากินง่ายๆ จากการแลกเงิน” ตามที่โฆษณาชวนเชื่อทางโซเชียลมีเดียจริงหรือไม่? ควรระวังอะไรบ้าง?

ข้อความโฆษณา “หากินง่ายๆ จากการแลกเงิน” หรือ “ลงทุน Forex ได้กำไรสูงในเวลาอันสั้น” ที่พบเห็นบนโซเชียลมีเดียมักเป็นคำชวนเชื่อที่เกินจริงและมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นการหลอกลวงหรือชักชวนให้ทำกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย ไม่มีวิธีการลงทุนใดที่ “ง่าย” และให้ผลตอบแทนสูงโดยไม่มีความเสี่ยง ควรระวังแพลตฟอร์มที่ไม่เปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส, อ้างผลตอบแทนที่สูงเกินจริง, หรือชักชวนให้ลงทุนโดยไม่ให้ความรู้ที่เพียงพอ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้ประกอบการได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องก่อนตัดสินใจลงทุน

9. กฎหมายเกี่ยวกับการเก็งกำไรค่าเงินในไทย มีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างในช่วงปี 2567-2568 (หรือปีปัจจุบัน)?

กฎหมายควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศไทยเป็นกฎหมายหลักที่ใช้กำกับดูแลมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2485 และมีการปรับปรุงแก้ไขประกาศและข้อกำหนดปลีกย่อยอยู่เสมอเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจและการเงินที่เปลี่ยนแปลงไป แม้ว่าหลักการพื้นฐานเกี่ยวกับการเก็งกำไรค่าเงินที่ผิดกฎหมายจะยังคงอยู่ แต่ธนาคารแห่งประเทศไทยอาจมีการออกประกาศหรือมาตรการเพิ่มเติมเพื่อดูแลเสถียรภาพค่าเงินบาทและป้องกันการเก็งกำไรที่ผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง ผู้สนใจควรติดตามข่าวสารและประกาศจากเว็บไซต์ทางการของธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) หรือ ก.ล.ต. เพื่อข้อมูลที่ทันสมัยที่สุด

10. การลงทุนในกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ (FIF) ถือเป็นการเก็งกำไรค่าเงินที่ผิดกฎหมายหรือไม่?

การลงทุนในกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ (FIF) ที่เสนอขายโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ในประเทศไทย ซึ่งได้รับการกำกับดูแลจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) นั้น ถูกกฎหมาย และไม่ใช่การเก็งกำไรค่าเงินที่ผิดกฎหมาย แม้ว่ากองทุนเหล่านี้จะมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน แต่เป็นการลงทุนที่ดำเนินการผ่านช่องทางที่ได้รับอนุญาตและมีกฎเกณฑ์รองรับ ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและทำความเข้าใจความเสี่ยงของกองทุนก่อนตัดสินใจลงทุน

More From Author

Cup and Handle Pattern คืออะไร? 7 เทคนิคทำกำไรในตลาดหุ้นไทย Forex คริปโต ที่นักลงทุนต้องรู้

อาร์บิทราจ คืออะไร? เจาะลึกกลยุทธ์ทำกำไรความเสี่ยงต่ำในตลาดคริปโตและฟอเร็กซ์

發佈留言