ดัชนีฟิวเจอร์คืออะไร? ทำความเข้าใจพื้นฐานตลาดอนุพันธ์
การลงทุนในตลาดการเงินวันนี้เต็มไปด้วยตัวเลือกที่หลากหลายและท้าทายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเครื่องมืออย่าง “อนุพันธ์” หรือที่รู้จักกันในชื่อ Derivatives ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการวางแผนการเงิน สำหรับนักลงทุนในไทยแล้ว “ดัชนีฟิวเจอร์” ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจมากที่สุด มันคือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อิงจากดัชนีตลาดหุ้นหลัก ถ้าดูเผินๆ อาจเหมือนกับการลงทุนในหุ้นหรือกองทุนรวม แต่จริงๆ แล้วกลไกและลักษณะเด่นของมันแตกต่างอย่างชัดเจน การเข้าใจพื้นฐานเหล่านี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่จำเป็นสำหรับใครที่อยากก้าวเข้าสู่ตลาดนี้

ดัชนีฟิวเจอร์ หรือที่เรียกกันว่า Futures Index คือข้อตกลงระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายในการซื้อขายดัชนีตลาดหุ้นในอนาคต ตามราคาและเวลาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า จุดประสงค์หลักคือการป้องกันความเสี่ยงหรือเก็งกำไรจากความผันผวนของราคาดัชนี สัญญาแบบนี้ไม่ได้ให้สิทธิ์เป็นเจ้าของหุ้นจริงๆ แต่เป็นการพยากรณ์ทิศทางของตลาดโดยรวมแทน ทำให้เครื่องมือนี้ช่วยสะท้อนมุมมองของนักลงทุนต่อเศรษฐกิจและผลประกอบการของบริษัทต่างๆ ในระยะข้างหน้า

ตลาดฟิวเจอร์ส หรือ Futures Market คือสถานที่สำหรับซื้อขายสัญญาฟิวเจอร์ต่างๆ รวมถึงดัชนีฟิวเจอร์ ในไทย ตลาดอนุพันธ์ หรือ Thailand Futures Exchange (TFEX) เป็นหน่วยงานหลักที่ดูแลการดำเนินงาน ตลาดนี้มีจุดเด่นคือสามารถทำกำไรได้ทั้งในช่วงตลาดขึ้นและลง และใช้เงินทุนเริ่มต้นน้อยกว่าการลงทุนในสินทรัพย์จริง ด้วยระบบมาร์จิ้นและเลเวอเรจที่เราจะอธิบายเพิ่มเติมในส่วนต่อไป ซึ่งช่วยให้การเข้าถึงตลาดง่ายขึ้นสำหรับนักลงทุนทั่วไป

1.1 ความแตกต่างระหว่างดัชนีฟิวเจอร์กับหุ้นและกองทุน
การลงทุนในดัชนีฟิวเจอร์นั้นแตกต่างจากหุ้นหรือกองทุนรวมอย่างสิ้นเชิง ซึ่งเป็นเครื่องมือที่นักลงทุนไทยส่วนใหญ่มักคุ้นเคย การรู้จักความแตกต่างเหล่านี้ช่วยป้องกันความสับสนและประเมินความเสี่ยงได้แม่นยำยิ่งขึ้น
อย่างแรกคือวัตถุประสงค์ของการลงทุน หุ้นให้สิทธิ์เป็นเจ้าของส่วนหนึ่งในบริษัท ขณะที่กองทุนรวมคือการรวมเงินลงทุนในพอร์ตที่ดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญ โดยมุ่งหวังการเติบโตระยะยาวและเงินปันผล แต่ดัชนีฟิวเจอร์เน้นการเก็งกำไรหรือป้องกันความเสี่ยงจากทิศทางดัชนีในช่วงสั้นถึงกลาง ไม่ใช่การถือครองสินทรัพย์จริง
ต่อมา กลไกการซื้อขายก็ต่างกัน การเทรดหุ้นหรือกองทุนมักเป็นรูปแบบซื้อแล้วถือ (Buy and Hold) เพื่อรอราคาขึ้น แต่ดัชนีฟิวเจอร์อนุญาตให้ขายก่อนซื้อ (Short Sell) ทำให้ทำกำไรได้แม้ตลาดตก นอกจากนี้ สัญญาฟิวเจอร์ยังมีวันหมดอายุ ดังนั้นนักลงทุนต้องปิดสถานะหรือย้ายสัญญาใหม่ก่อนวันนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงการส่งมอบหรือชำระเงินจริง
สุดท้าย การใช้เลเวอเรจและมาร์จิ้นคือจุดเด่น หุ้นและกองทุนต้องใช้เงินเต็มจำนวนหรือมาร์จิ้นบางส่วน แต่ดัชนีฟิวเจอร์อาศัยมาร์จิ้นเป็นหลัก ซึ่งเป็นเงินประกันเพียงส่วนหนึ่ง ช่วยให้ควบคุมสัญญามูลค่าสูงด้วยเงินทุนน้อย สร้างเลเวอเรจที่ทั้งเพิ่มโอกาสกำไรและความเสี่ยงขาดทุนในระดับเดียวกัน
1.2 สัญญาฟิวเจอร์สทำงานอย่างไร? หลักการมาร์จิ้นและเลเวอเรจ
การเข้าใจการทำงานของสัญญาฟิวเจอร์ มาร์จิ้น และเลเวอเรจ คือหัวใจของการเทรด เพราะมันกำหนดทั้งผลตอบแทนและความเสี่ยงโดยตรง
สัญญาฟิวเจอร์คือข้อตกลงมาตรฐานระหว่างสองฝ่ายในการซื้อหรือขายสินทรัพย์อ้างอิง เช่น ดัชนีหุ้น ในปริมาณและราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า มีรายละเอียดชัดเจนเรื่องขนาดสัญญา ราคาอ้างอิง วันหมดอายุ และวิธีชำระเงิน ผู้ซื้อคาดว่าราคาจะขึ้น (Long Position) ขณะที่ผู้ขายคาดว่าราคาจะลง (Short Position)
การเทรดจะมีระบบ “Mark-to-Market” ที่ปรับมูลค่าตามราคาตลาดทุกวัน กำไรหรือขาดทุนจะเข้าบัญชีทันทีสิ้นวัน ถ้าราคาไปในทางที่ได้เปรียบ บัญชีจะได้รับเงินเพิ่ม แต่ถ้าตรงข้ามก็จะถูกหักออก
มาร์จิ้นคือเงินประกันที่ต้องวางกับโบรกเกอร์เพื่อเปิดและถือสถานะ ไม่ใช่เงินลงทุนเต็ม แต่เป็นหลักประกันความเสี่ยง แบ่งเป็น Initial Margin สำหรับเปิดสถานะ และ Maintenance Margin สำหรับรักษาระดับ หากต่ำกว่าจะถูกเรียก Margin Call ให้เติมเงินกลับไปถึงระดับเริ่มต้น
เลเวอเรจคืออัตราส่วนที่แสดงว่ามาร์จิ้นควบคุมสินทรัพย์ได้กี่เท่า เช่น สัญญามูลค่า 100,000 บาท ใช้มาร์จิ้น 10,000 บาท คือเลเวอเรจ 10 เท่า มันช่วยขยายกำไรถ้าคาดการณ์ถูก แต่ก็ขยายขาดทุนถ้าผิดทาง ทำให้บัญชีหมดเร็วหากตลาดสวน
2. ดัชนีฟิวเจอร์ยอดนิยมที่นักลงทุนไทยควรรู้
นักลงทุนไทยที่สนใจดัชนีฟิวเจอร์ควรศึกษาดัชนีสำคัญทั้งในและต่างประเทศ เพราะมันสะท้อนภาพเศรษฐกิจและตลาดหุ้นในภูมิภาคต่างๆ ซึ่งเป็นข้อมูลมีค่าสำหรับการตัดสินใจ
2.1 SET50 Index Futures: ดัชนีหลักของตลาดอนุพันธ์ไทย
SET50 Index Futures คือสัญญาล่วงหน้าที่อิงจากดัชนี SET50 ซึ่งรวมหุ้น 50 ตัวมูลค่าสูงและสภาพคล่องดีที่สุดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) มันเป็นสินค้าหลักที่ได้รับความนิยมสูงสุดใน TFEX
TFEX อยู่ภายใต้การกำกับของ ก.ล.ต. และบริหารโดย SET การเทรด SET50 Index Futures ช่วยให้เก็งกำไรหรือป้องกันความเสี่ยงจากตลาดหุ้นไทยโดยรวม โดยไม่ต้องซื้อหุ้นทั้ง 50 ตัว
ลักษณะสำคัญ ได้แก่ สัญลักษณ์อย่าง S50M24 สำหรับเดือนมิถุนายน 2567 ขนาดสัญญา 200 บาทต่อจุด เวลาเทรดเช้า 09:45–12:30 น. และบ่าย 14:19–16:55 น. มีสภาพคล่องสูงและเคลื่อนไหวตามตลาดหุ้นไทย
การลงทุนนี้ใช้เลเวอเรจเพิ่มผลตอบแทน แต่ต้องระวังความเสี่ยง วิเคราะห์ได้จากปัจจัยเศรษฐกิจไทยและกราฟเทคนิค
2.2 ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส (Dow Jones Futures): ตัวสะท้อนเศรษฐกิจโลก
ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส หรือ US30 Futures อิงจากดัชนี Dow Jones Industrial Average (DJIA) ที่รวม 30 บริษัทใหญ่ของสหรัฐฯ ซึ่งมีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจโลกและตลาดหุ้นไทย
การเทรดส่วนใหญ่อยู่ใน CME Group โดย E-mini Dow Futures เหมาะสำหรับนักลงทุนรายย่อย การเคลื่อนไหวก่อนตลาดหุ้นสหรัฐเปิดเป็นตัวบ่งชี้ทิศทาง
เวลาทำการหลักคือวันอาทิตย์ 17:00 น. CT ถึงวันศุกร์ 16:00 น. CT หรือตามเวลาไทยคือเช้าวันจันทร์ถึงเช้าวันเสาร์ มีช่วงพักสั้นๆ ตรวจสอบกับโบรกเกอร์เพราะอาจปรับตาม Daylight Saving Time
นักลงทุนไทยเข้าถึงผ่านโบรกเกอร์ต่างประเทศหรือไทยบางแห่ง ติดตามข่าวเศรษฐกิจสหรัฐฯ เพื่อวิเคราะห์
2.3 S&P 500 Futures และดัชนีอื่นๆ: ทางเลือกเพื่อการกระจายความเสี่ยง
นอกจาก SET50 และ Dow Jones ยังมี S&P 500 Futures ที่อิงดัชนีรวมหุ้น 500 บริษัทใหญ่ของสหรัฐฯ ซึ่งกว้างขวางกว่า DJIA และสะท้อนตลาดสหรัฐได้ดี มีสภาพคล่องสูง
ข้อดีคือกระจายความเสี่ยงจากตลาดไทย ใช้โอกาสจากเศรษฐกิจโลก และสภาพคล่องดีในดัชนีอย่าง NASDAQ 100 Futures, Hang Seng Index Futures หรือ DAX Futures
เลือกดัชนีโดยพิจารณาความเข้าใจ สภาพคล่อง และความสัมพันธ์กับพอร์ต ศึกษาความเสี่ยงก่อนลงทุน
3. เริ่มต้นเทรดดัชนีฟิวเจอร์: ขั้นตอนและแพลตฟอร์มสำหรับนักลงทุนไทย
การเริ่มเทรดดัชนีฟิวเจอร์อาจดูยุ่งยากตอนแรก แต่ด้วยแนวทางที่ชัดเจน นักลงทุนไทยสามารถเริ่มได้อย่างมั่นใจ โดยเริ่มจากเลือกโบรกเกอร์ เปิดบัญชี และเรียนรู้แพลตฟอร์ม
3.1 การเลือกโบรกเกอร์และแพลตฟอร์มที่เหมาะสมในประเทศไทย
การเลือกโบรกเกอร์ที่ใช่คือก้าวสำคัญสำหรับการเทรดที่ราบรื่น นักลงทุนไทยมีตัวเลือกทั้งในประเทศและต่างประเทศ แต่ละแบบมีจุดเด่นและข้อจำกัด
โบรกเกอร์ไทยที่เทรด SET50 ผ่าน TFEX เช่น InnovestX, Krungsri Securities, Kiatnakin Phatra Securities มีความน่าเชื่อถือภายใต้ ก.ล.ต. ข้อดีคือเข้าใจกฎไทย บริการภาษาไทย ฝากถอนสะดวก และปลอดภัย แต่ข้อเสียคือสินค้าจำกัด ค่าธรรมเนียมอาจสูง และแพลตฟอร์มพื้นฐาน
แพลตฟอร์มต่างประเทศให้เข้าถึง Dow Jones หรือ S&P 500 เช่น MTrading สำหรับ CFDs, Investing.com สำหรับข้อมูล, TradingView สำหรับกราฟ ข้อดีคือหลากหลาย เลเวอเรจสูง ค่าธรรมเนียมแข่งขัน แต่ข้อเสียคือกำกับดูแลต่างกัน ฝากถอนซับซ้อน และบริการอาจไม่ใช่ภาษาไทย
พิจารณาการกำกับดูแล ค่าธรรมเนียม แพลตฟอร์ม ประเภทสัญญา และบริการลูกค้า
3.2 ขั้นตอนการเปิดบัญชีและเริ่มต้นการซื้อขายดัชนีฟิวเจอร์
หลังเลือกโบรกเกอร์ ขั้นตอนคือ
- เตรียมเอกสาร เช่น บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน บัญชีธนาคาร และรายได้
- กรอกใบสมัครออนไลน์หรือที่สาขา
- ยืนยันตัวตน (KYC) ตาม ก.ล.ต.
- รอบัญชีและรับ Username/Password
- ฝากเงินผ่านธนาคารหรือออนไลน์
- ติดตั้งแพลตฟอร์ม เช่น Streaming by Settrade หรือ MetaTrader
- เรียนรู้การใช้งาน ส่งคำสั่ง ตั้ง Stop Loss/Take Profit และดูกราฟ
- เริ่มเทรด ใช้ Demo Account ก่อน
4. กลยุทธ์และเทคนิคการเทรดดัชนีฟิวเจอร์อย่างมีประสิทธิภาพ
การเทรดดัชนีฟิวเจอร์ต้องการกลยุทธ์ที่เหมาะสมและการจัดการความเสี่ยง เพื่อเพิ่มกำไรและลดขาดทุน ต้องเข้าใจเครื่องมือวิเคราะห์และนำไปใช้จริง
4.1 การบริหารความเสี่ยงและเงินทุนในการเทรดฟิวเจอร์ส: บทเรียนจากตลาดไทย
การจัดการความเสี่ยงและเงินทุนคือกุญแจสู่ความสำเร็จในตลาดฟิวเจอร์ โดยเฉพาะสำหรับนักลงทุนไทยที่อาจไม่ชินกับความผันผวนและเลเวอเรจ
- กำหนด Stop Loss และ Take Profit ชัดเจนก่อนเทรด และยึดมั่น
- ขนาดตำแหน่งไม่เกิน 1-2% ของทุนต่อเทรด
- เข้าใจ Margin Call เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกปิดสถานะ
- หลีกเลี่ยงเลเวอเรจสูงสำหรับมือใหม่
- เรียนรู้จากเคสไทย เช่น ถือข้ามคืนในข่าวใหญ่หรือถัวเฉลี่ยโดยไม่ตัดขาดทุน
4.2 กลยุทธ์เบื้องต้นสำหรับนักลงทุนมือใหม่
มือใหม่ควรเริ่มด้วยกลยุทธ์ง่ายๆ เพื่อสร้างความคุ้นเคย
- Trend Following: ตามแนวโน้มด้วย Moving Averages สำหรับ Long หรือ Short
- Range Trading: ซื้อที่แนวรับ ขายที่แนวต้านในกรอบราคา
- Support and Resistance: ใช้หาจุดเข้า-ออก
4.3 เครื่องมือช่วยวิเคราะห์และดูกราฟดัชนีฟิวเจอร์
วิเคราะห์เทคนิคช่วยตัดสินใจ
- แพลตฟอร์ม: TradingView สำหรับกราฟเรียลไทม์, MetaTrader สำหรับอินดิเคเตอร์, Streaming by Settrade สำหรับไทย, Investing.com สำหรับข้อมูล
- อินดิเคเตอร์: MA สำหรับแนวโน้ม, RSI สำหรับ Overbought/Oversold, MACD สำหรับโมเมนตัม, Bollinger Bands สำหรับผันผวน
ทดลองและเลือกที่เหมาะกับสไตล์
5. ข้อควรระวังและภาษีที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนดัชนีฟิวเจอร์ในไทย
ดัชนีฟิวเจอร์ให้ผลตอบแทนสูงแต่เสี่ยงมาก ต้องรู้ข้อควรระวังและภาษีในไทย
5.1 ภาษีการลงทุนในตลาดอนุพันธ์สำหรับคนไทย: สิ่งที่คุณต้องรู้
ภาษีคือประเด็นสำคัญสำหรับนักลงทุนไทยในอนุพันธ์ กำไรจาก TFEX ถือเป็นเงินได้มาตรา 40(4)(ซ) และยกเว้นภาษีบุคคลธรรมดา
- กำไรใน TFEX ยกเว้นภาษี (ข้อมูลจาก TFEX)
- ค่าธรรมเนียมหักเป็นค่าใช้จ่าย
- ผ่านโบรกเกอร์ต่างประเทศ อาจเสียภาษีตามอัตราก้าวหน้า ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
- ไม่มีหัก ณ ที่จ่ายใน TFEX แต่ตรวจกับโบรกเกอร์
วางแผนภาษีเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา ตรวจสอบจาก กรมสรรพากร
5.2 ความเสี่ยงที่คุณต้องรู้ก่อนลงทุนดัชนีฟิวเจอร์
ดัชนีฟิวเจอร์ทรงพลังแต่เสี่ยงสูง
- Leverage Risk: ขยายขาดทุนเร็ว
- Market Volatility Risk: ราคาเปลี่ยนรุนแรงจากข่าว
- Margin Call Risk: ถูกเรียกเติมเงินหรือปิดสถานะ
- Liquidity Risk: สภาพคล่องต่ำในบางสัญญา
- Expiration Risk: ชำระตามราคาที่กำหนด
- Time Decay: มูลค่าลดตามเวลาในบางสัญญา
- Event Risk: จากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
มีแผนจัดการ เช่น Stop Loss และจำกัดขนาดเทรด อย่าใช้เงินจำเป็น
สรุป: ดัชนีฟิวเจอร์ โอกาสและความท้าทายในโลกการลงทุนที่เปลี่ยนแปลง
ดัชนีฟิวเจอร์คือเครื่องมือที่มีศักยภาพ ช่วยเก็งกำไรหรือป้องกันความเสี่ยงจากตลาดหุ้น ด้วยมาร์จิ้นและเลเวอเรจที่แตกต่างจากหุ้นหรือกองทุน มันให้ผลตอบแทนสูงแต่ต้องจัดการเสี่ยงดี
เข้าใจพื้นฐาน สัญญา โบรกเกอร์ กลยุทธ์ ภาษี และ TFEX สำหรับ SET50 ขณะที่ต่างประเทศอย่าง Dow Jones หรือ S&P 500 ช่วยกระจายเสี่ยง
เริ่มด้วยการศึกษา Demo Account และลงทุนอย่างระวัง ประเมินเสี่ยงที่ยอมรับได้ เพื่อคว้าโอกาสในตลาดที่เปลี่ยนแปลง
ดาวโจนส์ ฟิ ว เจอร์ เปิด กี่ โมง และปิดกี่โมงตามเวลาประเทศไทย? มีวันหยุดทำการเหมือนตลาดหุ้นไทยหรือไม่?
ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส หรือ E-mini Dow Futures เปิดเกือบ 24 ชั่วโมง จากเย็นวันอาทิตย์ถึงเย็นวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐฯ ตามเวลาไทยคือเริ่มเช้าวันจันทร์และปิดเช้าวันเสาร์ มีพักสั้นๆ ในวัน ไม่หยุดเหมือนหุ้นไทยที่หยุดเสาร์-อาทิตย์และนักขัตฤกษ์ แต่หยุดวันใหญ่ของสหรัฐฯ ซึ่งน้อยกว่า ตรวจเวลากับโบรกเกอร์เพราะปรับตาม Daylight Saving Time
ตลาด TFEX มีดัชนีฟิวเจอร์ตัวไหนที่คนไทยนิยมเทรดมากที่สุด และแต่ละตัวมีข้อดีข้อเสียอย่างไร?
ใน TFEX สินค้านิยมสุดคือ SET50 Index Futures
- SET50 Index Futures (S50)
- ข้อดี: สภาพคล่องสูง เข้า-ออกง่าย แทนตลาดหุ้นไทย เข้าใจง่ายสำหรับคนไทย กำกับโดย ก.ล.ต. น่าเชื่อถือ กำไรยกเว้นภาษี
- ข้อเสีย: ผันผวนตามตลาดไทยที่อาจซบเซา สินค้าจำกัดกว่าต่างประเทศ
TFEX ยังมี Single Stock Futures แต่ SET50 ยังนิยมสำหรับเก็งกำไรหรือป้องกันตลาดรวม
การเทรดดัชนีฟิวเจอร์ต้องใช้เงินเท่าไหร่ในการเริ่มต้น และมีค่าธรรมเนียมอะไรบ้างที่นักลงทุนไทยต้องรับทราบ?
ใช้เงินน้อยกว่าหุ้นเพราะมาร์จิ้น ขึ้นกับดัชนีและโบรกเกอร์
- Initial Margin: SET50 ประมาณ 5,000-10,000 บาทต่อสัญญา (เปลี่ยนตาม TFEX) ต่างประเทศต่างกัน
- ค่าธรรมเนียม:
- คอมมิชชั่น: 20-30 บาทต่อสัญญา SET50
- Exchange Fee: จาก TFEX
- Clearing Fee: จากสำนักหักบัญชี
- ฝากถอน: บางแห่งมี โดยเฉพาะต่างประเทศ
สอบถามโบรกเกอร์ก่อน
กำไรจากการเทรดดัชนีฟิวเจอร์ต้องเสียภาษีในประเทศไทยหรือไม่ และคำนวณอย่างไรตามกฎหมายไทย?
กำไรจาก TFEX ยกเว้นภาษีบุคคลธรรมดาตามมาตรา 40(4)(ซ) ไม่รวมคำนวณประจำปี
แต่ผ่านต่างประเทศ หากนำกำไรกลับปีเดียวกัน อาจเสียตามอัตราก้าวหน้า ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญภาษี
มือใหม่ควรเริ่มเทรด SET50 Index Futures หรือ Dow Jones Futures ก่อน และมีคำแนะนำอย่างไร?
มือใหม่ควรเริ่ม SET50 Index Futures เพราะ
- คุ้นเคยกับตลาดไทย
- กำกับโดย ก.ล.ต. ปลอดภัย
- บริการภาษาไทย
- ยกเว้นภาษี
คำแนะนำ:
- ศึกษาพื้นฐาน
- ใช้ Demo Account
- เริ่ม 1-2 สัญญา
- ตั้ง Stop Loss/Take Profit
หลังชำนาญค่อยขยายไป Dow Jones ที่ซับซ้อนกว่า
หากไม่ปิดสถานะสัญญาฟิวเจอร์สก่อนหมดอายุ จะเกิดอะไรขึ้นกับนักลงทุนไทย และมีวิธีป้องกันอย่างไร?
ไม่ปิดก่อนหมดอายุ จะชำระเงินสดตาม Settlement Price ของ TFEX
ผลกระทบ:
- กำไร/ขาดทุนไม่คาดคิด
- พลาดโอกาสปิดเอง
- ค่าธรรมเนียมเพิ่ม
ป้องกัน:
- ตรวจวันหมดอายุ (ศุกร์สุดท้ายเดือน)
- ปิด 1-2 วันก่อน
- โรลโอเวอร์ไปเดือนหน้า
- ตั้งแจ้งเตือน
จัดการหมดอายุคือส่วนของบริหารเสี่ยง
มีแอปพลิเคชันหรือแพลตฟอร์มไหนที่เหมาะสำหรับดูกราฟดัชนีฟิวเจอร์แบบเรียลไทม์พร้อมเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคบ้าง?
แพลตฟอร์มแนะนำ:
- TradingView: กราฟเรียลไทม์ไทย-ต่างประเทศ อินดิเคเตอร์หลากหลาย มีฟรีและเสียเงิน
- MetaTrader 4/5: สำหรับโบรกเกอร์ต่างประเทศ ติดตั้งเพิ่มได้
- Streaming by Settrade: สำหรับไทย ดู SET50
- Investing.com: ข้อมูลและวิเคราะห์
เลือกที่ใช้งานง่ายและเหมาะสไตล์
ความเสี่ยงสูงสุดของการเทรดดัชนีฟิวเจอร์คืออะไร และนักลงทุนไทยจะจัดการความเสี่ยงนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไร?
เสี่ยงสูงสุดคือ Leverage Risk ที่ขยายขาดทุนเกินทุนเริ่มต้น อาจ Margin Call และปิดสถานะหมดทุน
จัดการอย่างไร:
- ตั้ง Stop Loss เคร่งครัด
- จำกัดขนาดเทรด 1-2% ทุน
- มีทุนสำรองเกิน Initial Margin
- เข้าใจตลาดและสินค้า
- ใช้เงินเย็น
- ฝึก Demo Account
สามารถเทรดดัชนีฟิวเจอร์ผ่านธนาคารพาณิชย์ใหญ่ๆ ในประเทศไทย เช่น กรุงศรี หรือ กสิกรไทย ได้หรือไม่ และขั้นตอนเป็นอย่างไร?
ธนาคารใหญ่ไม่เปิดบัญชีฟิวเจอร์โดยตรง แต่บริษัทหลักทรัพย์ในเครือ เช่น Krungsri Securities หรือ Kasikorn Securities ทำได้
ขั้นตอน:
- ติดต่อบริษัทหลักทรัพย์
- เปิดบัญชีอนุพันธ์
- เตรียมเอกสาร บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน บัญชี รายได้
- สมัครและ KYC
- ฝากเงิน Margin
- ใช้แพลตฟอร์มเช่น Streaming by Settrade
ใช้บริการจากเครือธนาคารชั้นนำ
มีแหล่งเรียนรู้หรือคอร์สสอนเพิ่มเติมเกี่ยวกับดัชนีฟิวเจอร์เป็นภาษาไทยที่น่าเชื่อถือและแนะนำไหม?
แหล่งเรียนรู้ภาษาไทย:
- TFEX: TFEX Academy บทความ วิดีโอ หลักสูตรฟรี
- SET: SET Education พื้นฐานอนุพันธ์
- โบรกเกอร์: InnovestX, Krungsri, Kiatnakin มีสัมมนา บทความ
- สถาบัน: คอร์สจากสถาบันการเงิน ชื่อเสียงดี
- YouTube/Facebook: ช่องผู้เชี่ยวชาญที่น่าเชื่อถือ
เรียนจากหลายแหล่งและฝึกจริงเพื่อพัฒนา