ตลาดหุ้นคืออะไร? 5 เรื่องสำคัญที่มือใหม่ต้องรู้ก่อนเริ่มต้นลงทุน

ตลาดหุ้นคืออะไร? นิยามและหลักการเบื้องต้น

ตลาดหุ้น หรือที่รู้จักกันในชื่อทางการอย่าง ตลาดหลักทรัพย์ ถือเป็นส่วนสำคัญยิ่งในระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม มันคือพื้นที่ที่ช่วยให้บริษัทต่างๆ หาเงินทุนจากประชาชนทั่วไปได้ ขณะเดียวกัน ก็เปิดทางให้นักลงทุนได้ถือครองส่วนแบ่งในบริษัทเหล่านั้นผ่านการแลกเปลี่ยนหุ้น

ภาพประกอบตลาดหุ้นที่คึกคักกับบริษัทระดมทุนและนักลงทุนซื้อหุ้นที่แสดงถึงความเป็นเจ้าของ

สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้น การเข้าใจว่าตลาดหุ้นทำงานอย่างไรอาจดูยุ่งยากในช่วงแรก แต่จริงๆ แล้ว มันคือกระบวนการพื้นฐานที่ช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโตและเปิดโอกาสให้เกิดการลงทุนที่หลากหลายและมีศักยภาพสูง โดยเฉพาะในบริบทของประเทศไทยที่ตลาดนี้มีบทบาทเด่นชัดในการเชื่อมโยงเงินทุนกับการพัฒนาธุรกิจ

ภาพประกอบกลไกตลาดหุ้นที่เรียบง่ายขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจและสร้างโอกาสการลงทุน

ความหมายของตลาดหุ้นและตลาดหลักทรัพย์

คำว่า “ตลาดหุ้น” กับ “ตลาดหลักทรัพย์” มักถูกเอามาใช้แทนกันได้ในชีวิตประจำวัน และมีความหมายที่ใกล้เคียงกัน แต่ถ้าพูดถึง “ตลาดหลักทรัพย์” โดยเฉพาะ มันหมายถึงหน่วยงานหรือสถาบันที่รับผิดชอบในการจัดการและอำนวยความสะดวกให้การซื้อขายหลักทรัพย์เกิดขึ้นอย่างเป็นระบบและถูกต้อง

ภาพประกอบแสดงความแตกต่างทางแนวคิดระหว่างตลาดหุ้นและองค์กรตลาดหลักทรัพย์อย่างเป็นทางการ

ในบ้านเรา ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ SET คือศูนย์กลางหลักที่ดูแลการแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์ ส่วน “หุ้น” นั้นคือหน่วยเล็กๆ ที่แสดงถึงสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของบริษัท เมื่อคุณซื้อหุ้นเข้าไป คุณก็กลายเป็นผู้ถือหางส่วนหนึ่งตามจำนวนที่ถือไว้จริงๆ

บริษัทต่างๆ มักต้องการเงินทุนเพื่อขยายตัว พัฒนาสินค้าใหม่ หรือจัดการหนี้สิน แทนที่จะพึ่งพาธนาคารอย่างเดียว พวกเขาจึงหันไปขอทุนจากประชาชนผ่านการขายหุ้น ซึ่งขั้นตอนนี้เรียกว่าการจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์

จากมุมของนักลงทุน การนำเงินมาลงทุนในหุ้นช่วยให้มีโอกาสได้ผลตอบแทนที่สูงกว่าการฝากเงินธรรมดา ผ่านทางกำไรจากส่วนต่างราคาหรือเงินปันผลที่บริษัทแจกจ่าย

ตลาดหุ้นมีไว้ทำอะไร? หน้าที่สำคัญต่อเศรษฐกิจ

ตลาดหุ้นมีส่วนช่วยเหลือเศรษฐกิจของประเทศในหลายมิติ โดยเฉพาะในฐานะแหล่งทุนระยะยาวที่เรียกว่า “ตลาดทุน” หน้าที่หลักที่เห็นได้ชัด ได้แก่

  • การระดมทุนสำหรับบริษัท: ช่วยให้บริษัทหาเงินก้อนใหญ่จากประชาชน เพื่อเอาไปใช้ในธุรกิจ ขยายกิจการ หรือลงทุนในโปรเจกต์ใหม่ๆ ซึ่งเป็นตัวเร่งให้เศรษฐกิจขยายตัว
  • การสร้างโอกาสในการลงทุน: เปิดประตูให้ทั้งนักลงทุนรายบุคคลและองค์กรใหญ่ๆ ได้มีส่วนร่วมในความเติบโตของเศรษฐกิจ ช่วยสร้างทรัพย์สินและบรรลุเป้าหมายทางการเงิน
  • การจัดหาสภาพคล่อง: ทำให้หุ้นซื้อขายได้ง่ายและรวดเร็ว นักลงทุนจึงแปลงหุ้นเป็นเงินสดได้สะดวก ซึ่งเพิ่มความมั่นใจให้ทุกคนกล้าลงทุนมากขึ้น
  • การสะท้อนมูลค่าบริษัทและภาวะเศรษฐกิจ: ราคาหุ้นในตลาดมักบอกเล่าถึงสุขภาพของบริษัทและภาพรวมเศรษฐกิจ รวมถึงความคาดหวังต่ออนาคต ทำให้ตลาดนี้เหมือนกระจกสะท้อนสภาพเศรษฐกิจ
  • การส่งเสริมธรรมาภิบาล: บริษัทที่เข้าจดทะเบียนต้องทำตามกฎเข้มงวดและเปิดเผยข้อมูลให้โปร่งใส ส่งผลให้เกิดการบริหารงานที่ดีและรับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้น

หน้าที่เหล่านี้ทำให้ตลาดหุ้นกลายเป็นเส้นเลือดฝอยที่หล่อเลี้ยงเศรษฐกิจให้ไหลเวียนและเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเทศไทยที่ SET ช่วยเชื่อมโยงทุนกับการพัฒนาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

กลไกการทำงานของตลาดหุ้นไทย

การรู้จักกลไกเบื้องหลังการทำงานของตลาดหุ้นไทย จะช่วยให้ผู้เริ่มต้นเห็นภาพใหญ่ชัดเจนขึ้น รวมถึงเข้าใจบทบาทของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และกระบวนการซื้อขายที่เกิดขึ้นทุกวัน

ใครคือผู้เล่นหลักในตลาด?

ตลาดหุ้นไม่ได้มีแค่ผู้ซื้อกับผู้ขายเท่านั้น แต่ยังมีองค์กรและบุคคลอื่นๆ ที่ทำให้ทุกอย่างเดินหน้าได้ราบรื่น

  • นักลงทุน (Investors): แบ่งเป็นรายย่อยที่ใช้เงินตัวเองลงทุน และสถาบันใหญ่ๆ เช่น กองทุนรวม บริษัทประกัน หรือกองทุนบำนาญ ที่จัดการเงินจำนวนมหาศาลแทนลูกค้าหรือสมาชิก
  • บริษัทจดทะเบียน (Listed Companies): คือบริษัทที่นำหุ้นมาขายในตลาดเพื่อหาทุน พวกเขาต้องเปิดเผยข้อมูลสำคัญตามที่ SET และ ก.ล.ต. กำหนด เพื่อความโปร่งใส
  • บริษัทหลักทรัพย์ (Securities Companies/Brokers): ทำหน้าที่เป็นตัวกลางที่ได้รับอนุญาตให้ซื้อขายแทนนักลงทุน คุณต้องเปิดบัญชีกับพวกเขาก่อนถึงจะเทรดได้ นอกจากนี้ยังให้คำปรึกษาและวิเคราะห์ตลาดด้วย
  • ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET): จัดระบบซื้อขายทั้งหมด กำหนดกฎเพื่อความยุติธรรม และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารให้ทุกคนเข้าถึง
  • สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.): หน่วยงานรัฐที่กำกับดูแลตลาดทุนทั้งระบบ เพื่อปกป้องนักลงทุนและพัฒนาตลาดให้เชื่อถือได้
  • ผู้ดูแลสภาพคล่อง (Market Makers): กลุ่มที่ช่วยรักษาความคล่องตัวของตลาด โดยเสนอราคาซื้อขายในหลักทรัพย์บางตัวเสมอ

ทุกฝ่ายเหล่านี้ทำงานร่วมกันเพื่อให้ตลาดหุ้นไทยดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม

การซื้อขายหุ้นเกิดขึ้นได้อย่างไร? (ตลาดแรกและตลาดรอง)

การแลกเปลี่ยนหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แบ่งออกเป็นสองส่วนหลัก คือ

  1. ตลาดแรก (Primary Market):
    • คือจุดที่บริษัทออกหุ้นใหม่ขายให้ประชาชนครั้งแรก หรือที่เรียกว่า IPO
    • เป้าหมายคือหาเงินทุนตรงจากสาธารณะ ผ่านบริษัทหลักทรัพย์ที่บริษัทแต่งตั้ง
    • หลังจากได้เงิน หุ้นเหล่านี้จะถูกนำไปจดทะเบียนและเทรดต่อในตลาดรอง
  2. ตลาดรอง (Secondary Market):
    • คือที่ที่นักลงทุนแลกเปลี่ยนหุ้นกันเอง หลังจากออกในตลาดแรกแล้ว
    • SET คือตลาดรองหลักสำหรับหุ้นไทย
    • การเทรดที่นี่ไม่หาเงินให้บริษัทโดยตรง แต่เป็นการส่งต่อสิทธิ์ระหว่างนักลงทุน
    • ราคาหุ้นขึ้นอยู่กับอุปสงค์และอุปทาน ซึ่งเปลี่ยนตามผลประกอบการ ข่าวเศรษฐกิจ นโยบายรัฐ และความเชื่อมั่น

เมื่อคุณสั่งซื้อหรือขายผ่านบริษัทหลักทรัพย์ คำสั่งนั้นจะถูกส่งไปยังระบบของ SET เพื่อจับคู่ ถ้าตรงกัน การเทรดก็สำเร็จและสิทธิ์ในหุ้นจะถูกโอนทันที

ประเภทของหลักทรัพย์ที่ซื้อขายในตลาดหุ้น

นอกจากหุ้นธรรมดาแล้ว ตลาดหุ้นยังมีหลักทรัพย์อื่นๆ ที่น่าลองและมีลักษณะเฉพาะ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนเลือกได้ตามสไตล์

หุ้นสามัญ (Common Stocks) และหุ้นบุริมสิทธิ (Preferred Stocks)

หุ้นสามัญคือตัวที่ได้รับความนิยมสูงสุดในการซื้อขาย แต่ยังมีหุ้นบุริมสิทธิที่แตกต่างกัน ลองดูคุณสมบัติเปรียบเทียบ

คุณสมบัติ หุ้นสามัญ (Common Stocks) หุ้นบุริมสิทธิ (Preferred Stocks)
สิทธิออกเสียง มีสิทธิออกเสียงในการประชุมผู้ถือหุ้น ไม่มีสิทธิออกเสียงในการประชุมผู้ถือหุ้น (หรือมีจำกัด)
เงินปันผล ไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับผลประกอบการและนโยบายบริษัท ได้รับเงินปันผลในอัตราคงที่และได้รับก่อนหุ้นสามัญ
การชำระบัญชี ได้รับเงินคืนหลังหุ้นบุริมสิทธิและเจ้าหนี้ ได้รับเงินคืนก่อนหุ้นสามัญ (แต่หลังเจ้าหนี้)
โอกาสทำกำไร มีโอกาสทำกำไรจากส่วนต่างราคาหุ้นสูงกว่า มีโอกาสทำกำไรจากส่วนต่างราคาหุ้นจำกัดกว่า แต่มีความมั่นคงด้านปันผล

ส่วนใหญ่แล้ว หุ้นสามัญเหมาะกับคนที่อยากมีสิทธิ์ตัดสินใจและหวังกำไรจากราคาที่พุ่งสูง ในขณะที่หุ้นบุริมสิทธิ์ดีสำหรับผู้ที่ต้องการรายได้สม่ำเสมอจากปันผล โดยเฉพาะนักลงทุนที่มองหาความมั่นคงมากกว่าเสี่ยง

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ (Stock Market Index): SET Index คืออะไร?

ในตลาดหุ้นไทย คำว่า “SET Index” เป็นสิ่งที่ได้ยินบ่อย มันคือตัววัดภาพรวมของตลาด โดยนำราคาหุ้นบริษัทจดทะเบียนมาคำนวณถ่วงน้ำหนัก เพื่อดูว่าตลาดกำลังขึ้นหรือลง

SET Index คือดัชนีที่สะท้อนการเปลี่ยนแปลงของหุ้นทุกตัวใน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถ้าดัชนีสูงขึ้น แสดงว่ามูลค่าตลาดโดยรวมดีขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีดัชนีอื่นๆ ที่ช่วยวิเคราะห์ เช่น

  • SET50 Index: จาก 50 บริษัทใหญ่และคล่องตัวที่สุด
  • SET100 Index: จาก 100 บริษัทขนาดใหญ่รองลงมา

ดัชนีพวกนี้เป็นเครื่องมือที่นักลงทุนใช้เช็คผลงานพอร์ตตัวเอง และช่วยตัดสินใจลงทุนได้ดีขึ้น โดยเฉพาะมือใหม่ที่อยากติดตามแนวโน้มตลาด

ทำไมคนถึงลงทุนในตลาดหุ้น? ข้อดีและข้อควรพิจารณา

การลงทุนในตลาดหุ้นเป็นทางเลือกยอดฮิตทั่วโลก แต่เหมือนการลงทุนอื่นๆ มันมีทั้งจุดเด่นและสิ่งที่ต้องคิดให้ดีก่อนเริ่ม

โอกาสสร้างผลตอบแทนและปันผล

คนส่วนใหญ่หันมาลงทุนเพราะหวังผลตอบแทนที่สูงกว่าการฝากธนาคารหรือพันธบัตร ผลตอบแทนหลักๆ มาจาก

  1. ส่วนต่างราคาหุ้น (Capital Gain): กำไรจากการขายหุ้นแพงกว่าที่ซื้อ เช่น ซื้อที่ 10 บาท ขายที่ 12 บาท ได้กำไร 2 บาทต่อหุ้น
  2. เงินปันผล (Dividend): ส่วนแบ่งกำไรที่บริษัทแจกให้ผู้ถือหุ้นเป็นประจำ ขึ้นกับผลงานและนโยบาย

ถ้าคุณเลือกหุ้นดีๆ ที่เติบโตและจ่ายปันผลสม่ำเสมอ มันจะสร้างรายได้แบบไม่ต้องเหนื่อยและเพิ่มทรัพย์ในระยะยาว แต่จำไว้ว่า ผลเก่าไม่รับประกันอนาคตเสมอไป

ความเสี่ยงและสิ่งที่ต้องรู้ก่อนลงทุน

ถึงจะมีโอกาสดี แต่ตลาดหุ้นก็มีความเสี่ยงที่ต้องจัดการให้ดี

  • ความเสี่ยงจากราคาตลาด (Market Risk): ราคาผันผวนตามเศรษฐกิจ ข่าว และความเชื่อมั่น อาจทำให้ขาดทุนได้
  • ความเสี่ยงจากบริษัท (Company-Specific Risk): จากปัญหาภายในบริษัท เช่น ขาดทุน การบริหารผิดพลาด หรือแข่งขันหนัก
  • ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง (Liquidity Risk): หุ้นบางตัวเทรดยาก อาจไม่ขายได้ตามราคาที่อยาก
  • ความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน (Currency Risk): ถ้าลงทุนต่างประเทศ การเปลี่ยนแปลงค่าเงินอาจกระทบผลตอบแทน

สิ่งสำคัญที่ต้องรู้ก่อนลงทุน:

  • ศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด: ดูธุรกิจ ผลงาน งบการเงิน และเทรนด์อุตสาหกรรม
  • ประเมินความเสี่ยงที่ยอมรับได้: รู้ว่าคุณรับขาดทุนได้แค่ไหน
  • กระจายความเสี่ยง: อย่าใส่ไข่ในตะกร้าใบเดียว กระจายไปหลายหุ้นหรือสินทรัพย์
  • ลงทุนด้วยเงินเย็น: ใช้เงินที่ไม่กระทบชีวิตประจำวัน เพราะตลาดผันผวนระยะสั้น
  • เรียนรู้อย่างต่อเนื่อง: ตลาดเปลี่ยนแปลงเสมอ ต้องอัพเดทตัวเอง

เริ่มต้นอย่างไรในตลาดหุ้นไทย? คำแนะนำสำหรับมือใหม่

พอเข้าใจพื้นฐานแล้ว ขั้นตอนถัดไปคือเตรียมตัวลงสนามจริงในตลาดหุ้นไทย นี่คือแนวทางสำหรับผู้เริ่ม

ขั้นตอนการเปิดบัญชีกับบริษัทหลักทรัพย์ในไทย

เพื่อเทรดหุ้น คุณต้องเปิดบัญชีกับบริษัทหลักทรัพย์ หรือโบรกเกอร์

  1. เลือกบริษัทหลักทรัพย์: มีหลายแห่ง เช่น บล.กสิกรไทย, บล.บัวหลวง, บล.ทิสโก้, บล.ฟินันเซีย ไซรัส เปรียบเทียบบริการ ค่าใช้จ่าย และเครื่องมือให้เหมาะกับคุณ
  2. เตรียมเอกสาร: ทั่วไปจะใช้
    • สำเนาบัตรประชาชน
    • สำเนาทะเบียนบ้าน
    • สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร (สำหรับรับปันผล)
    • เอกสารรายได้ (สลิปเงินเดือน รายการบัญชี)
  3. ยื่นเอกสารและกรอกใบสมัคร: ไปสาขาหรือออนไลน์ได้ สะดวกมาก
  4. รอการอนุมัติ: ใช้เวลา 3-7 วันทำการ
  5. ฝากเงินเข้าบัญชี: เมื่ออนุมัติแล้ว ฝากเงินเพื่อเริ่มซื้อหุ้น

ตอนนี้การเปิดบัญชีง่ายขึ้นเยอะ โดยเฉพาะออนไลน์ที่ช่วยลดขั้นตอน

แพลตฟอร์มและเครื่องมือการลงทุนที่นิยมในไทย

หลังมีบัญชี คุณเข้าถึงตลาดผ่านเครื่องมือเหล่านี้

  • Streaming: โปรแกรมยอดนิยมจาก Settrade สำหรับดูราคาจริงเวลา สั่งซื้อขาย เช็คพอร์ต และข่าว มีทั้ง PC และมือถือ
  • Settrade Website/Application: เว็บและแอปจาก Settrade มีข่าว วิเคราะห์ และเครื่องมือพื้นฐาน
  • แอปพลิเคชันของบริษัทหลักทรัพย์: แต่ละโบรกเกอร์มีแอปตัวเอง อาจมีฟีเจอร์พิเศษ
  • เว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET): www.set.or.th แหล่งข้อมูลหลักสำหรับบริษัท ข่าว และความรู้

เลือกแพลตฟอร์มที่เข้ากับสไตล์คุณ จะทำให้ลงทุนได้คล่องตัวกว่า

ข้อควรระวังและคำแนะนำสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ในตลาดหุ้นไทย

ตลาดหุ้นไทยน่าดึงดูด แต่มีกับดักสำหรับมือใหม่ ควรระวังและทำตามนี้

  • อย่าเชื่อข่าวลือหรือตามกระแส: ศึกษาด้วยตัวเอง อย่าตามเพื่อนหรือข่าวไม่น่าเชื่อถือ
  • ระวังการลงทุนที่ “การันตีผลตอบแทนสูง”: ไม่มีอะไรรับประกันกำไรสูงโดยไร้เสี่ยง ถ้ามีข้อเสนอแบบนี้ ให้สงสัย
  • เริ่มต้นด้วยเงินจำนวนน้อย: ใช้เงินที่รับขาดทุนได้ เพื่อเรียนรู้ตลาด
  • กำหนดจุดตัดขาดทุน (Stop Loss): จำกัดความเสียหายถ้าราคาไม่ดี
  • สร้างวินัยการลงทุน: วางแผนชัดเจนและยึดตาม
  • อย่ามองข้ามค่าธรรมเนียม: ค่าเทรด โอน และภาษี อาจกินกำไรถ้าเทรดบ่อย
  • ระวังการใช้มาร์จิ้น (Margin): กู้เงินลงทุนเพิ่มเสี่ยง ถ้าตลาดไม่ดี ขาดทุนหนัก
  • เรียนรู้อย่างสม่ำเสมอ: อ่านหนังสือ สัมมนา หรือดูวิดีโอ เพื่ออัพสกิล
  • ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: ถ้าไม่แน่ใจ ถามที่ปรึกษาที่ ก.ล.ต. รับรอง

บทสรุป: ตลาดหุ้นไทยกับการลงทุนอย่างชาญฉลาด

ตลาดหุ้นคือเครื่องจักรสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและเปิดโอกาสลงทุนให้ผู้ที่พร้อมเรียนรู้ ด้วยความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับนิยาม กลไก ผู้เล่น และประเภทหลักทรัพย์ มือใหม่จะก้าวสู่การลงทุนได้อย่างมั่นใจ

การลงทุนในตลาดหุ้นไทยช่วยให้คุณมีส่วนในความเติบโตของประเทศ แต่ต้องทำด้วยสติ มีความรู้ และจัดการเสี่ยงดีๆ อย่าหลงเชื่อคำโฆษณาเกินจริง ศึกษาข่าวสาร และเรียนรู้ต่อเนื่อง

การลงทุนคือ旅程ยาวๆ ความสำเร็จมาจากแผน วินัย และเข้าใจตลาด ไม่ใช่เก็งกำไรชั่วข้ามคืน ถ้าทำได้ ตลาดหุ้นไทยจะเป็นพลังสำคัญในการสร้างความมั่งคั่ง

ตลาดหุ้นคืออะไร และแตกต่างจากตลาดทุนอย่างไร?

ตลาดหุ้นคือส่วนหนึ่งของตลาดทุนที่เน้นการซื้อขายหุ้น ซึ่งแสดงถึงสิทธิ์เป็นเจ้าของบริษัท ส่วนตลาดทุนกว้างกว่านั้น ครอบคลุมการหาทุนระยะยาวทั้งหุ้นและตราสารหนี้ เช่น พันธบัตร เพื่อนำเงินจากผู้มีเงินออมไปสู่ผู้ต้องการทุนพัฒนาเศรษฐกิจ

มือใหม่ควรเริ่มต้นลงทุนในตลาดหุ้นไทยด้วยเงินเท่าไหร่ดี?

ไม่มีตัวเลขแน่นอน แต่เริ่มด้วยเงินน้อยที่รับเสี่ยงสูญเสียได้ โดยไม่กระทบชีวิต บางโบรกเกอร์กำหนดซื้อขั้นต่ำ 100 หุ้นต่อครั้ง เงินเริ่มต้นอาจหลักพันถึงหมื่น ใช้เงินเย็นและค่อยเพิ่มเมื่อมีประสบการณ์

การเปิดบัญชีหุ้นในไทยต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง และใช้เวลานานแค่ไหน?

เอกสารทั่วไปสำหรับเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ในไทย ได้แก่

  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
  • สำเนาทะเบียนบ้าน
  • สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร (สำหรับหักเงินหรือรับปันผล)
  • เอกสารแสดงรายได้ (สลิปเงินเดือน หนังสือรับรอง รายการบัญชี 3-6 เดือน)

การอนุมัติใช้เวลา 3-7 วันทำการ ขึ้นกับเอกสารครบถ้วน

ซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ในช่วงเวลาใดบ้าง?

SET มีเวลาซื้อขายดังนี้

  • ช่วงเช้า: 10:00 น. – 12:30 น.
  • ช่วงบ่าย: 14:30 น. – 16:30 น. (บางหุ้นถึง 16:45 น.)

มีพักเที่ยงและหยุดวันหยุดราชการ ตรวจปฏิทิน SET เพื่อยืนยัน

ความเสี่ยงสูงสุดของการลงทุนในตลาดหุ้นคืออะไร และจะลดความเสี่ยงได้อย่างไร?

เสี่ยงสูงสุดคือเสียเงินทั้งหมดหรือบางส่วน จากราคาหุ้นตกหนักเนื่องจากผลงานบริษัท เศรษฐกิจ หรือเหตุไม่คาด ลดเสี่ยงได้โดย

  • กระจายความเสี่ยง (Diversification): ลงทุนหลายตัวหรือหลายประเภท
  • ศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด: ดูธุรกิจ งบ และแนวโน้ม
  • กำหนดจุดตัดขาดทุน (Stop Loss): จำกัดเสียหาย
  • ลงทุนระยะยาว: ลดผลจากผันผวนสั้น
  • ลงทุนด้วยเงินเย็น: ใช้เงินไม่จำเป็น

หุ้น SET50 หรือ SET100 คืออะไร และนักลงทุนมือใหม่ควรรู้จักหรือไม่?

หุ้น SET50 คือหุ้น 50 บริษัทใหญ่และคล่องตัวที่สุด ส่วน SET100 คือ 100 บริษัทรองลงมา มือใหม่ควรรู้จักเพราะบริษัทเหล่านี้พื้นฐานแข็งแกร่ง ข้อมูลเยอะ และผันผวนน้อยกว่า เหมาะสำหรับเริ่มต้นมากกว่าหุ้นเล็กที่เสี่ยงสูง

ถ้าขาดทุนจากการลงทุนในหุ้น ต้องเสียภาษีหรือไม่ และมีเงื่อนไขอย่างไรในประเทศไทย?

ในไทย ขาดทุนจากขายหุ้นไม่หักภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ แต่กำไรจากการขายหุ้นยกเว้นภาษี (เว้นซื้อขายเป็นธุรกิจหรือหุ้นกู้) ปันผลหักภาษี 10% ที่จ่าย สามารถขอคืนหรือเครดิตตอนยื่นภาษีประจำปี

มีช่องทางไหนบ้างที่ช่วยให้เรียนรู้เรื่องตลาดหุ้นไทยได้ฟรีและน่าเชื่อถือ?

ช่องทางเรียนรู้ฟรีและน่าเชื่อถือมีหลายที่

  • เว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET): www.set.or.th/th/education มีบทความ วิดีโอ หลักสูตรออนไลน์
  • Settrade Website/Application: ข้อมูลและเครื่องมือพื้นฐาน
  • ช่อง YouTube ของ SET: วิดีโออธิบายความรู้
  • บริษัทหลักทรัพย์ต่างๆ: สัมมนาออนไลน์และบทความ
  • ห้องสมุดมารวย: ห้องสมุดเฉพาะทางด้านลงทุน

ตลาดหุ้นไทยมีการควบคุมดูแลโดยหน่วยงานใด และมีหน้าที่อะไรในการคุ้มครองนักลงทุน?

หลักๆ โดย ก.ล.ต. ที่มีหน้าที่

  • ออกกฎและกำกับตลาดทุน
  • อนุมัติการขายหลักทรัพย์
  • ตรวจสอบและป้องกันทุจริต
  • ให้ความรู้แก่นักลงทุน

SET ก็ช่วยกำกับภายในตลาดให้ยุติธรรมและโปร่งใส

จะติดตามข่าวสารและข้อมูลตลาดหุ้นไทยได้อย่างไรให้ทันเหตุการณ์?

ติดตามจากหลายช่องทางเพื่อทันเหตุ

  • เว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET): www.set.or.th/th/market/news-and-alert/news
  • แอปพลิเคชัน Streaming: ข่าวเรียลไทม์
  • สำนักข่าวเศรษฐกิจ: กรุงเทพธุรกิจ ประชาชาติธุรกิจ Thairath Money The Standard Wealth
  • บริษัทหลักทรัพย์: วิเคราะห์และข่าวจากโบรกเกอร์
  • โซเชียลมีเดีย: เพจหรือกลุ่มน่าเชื่อถือ

เลือกหลายแหล่งและเปรียบเทียบข้อมูล

More From Author

slippage forex คือ 7 สิ่งที่นักเทรดควรรู้เพื่อรับมือการคลาดเคลื่อนของราคาและเพิ่มกำไรอย่างยั่งยืน

dmi: 2 ความหมายสำคัญของ DMI ที่นักลงทุนและคนรักรถต้องรู้

發佈留言